(ภาพจากเฟสบุค สำนักข่าว EP) โดยสาเหตุที่ถูกสั่งห้ามขายผัดกะเพรานั้นมาจากเมื่อพ่อค้าแม่ค้าผัดกะเพราจะส่งกลิ่นฉุนไปไกลถึงผ้องทำงานของผู้ใหญ่ ซึ่งรบกวนจิตใจและมีผลต่อการทำงานเป็นอย่างมาก แม้จะมีการติดเครื่องดูดควันไว้ทุกร้านแต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมลงมติให้แก้ไขและซ่อมเครื่องดูดควันดังกล่าวแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล จนมีคำสั่งลงมาว่าห้ามผัดกะเพราในโรงอาหารเด็ดขาด ยกเว้นแต่จะมีการผัดมาจากบ้านแล้วนำมาขายเป็นข้าวแกง
ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าได้แก้ปัญหาโดยการทำผัดกะเพราไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนเวลา 06.00 น. แล้วจึงนำมาวางขายลักษณะเป็นข้าวแกงแทน เพื่อไม่ให้มีกลิ่นฉุน
ล่าสุดนี้ มีการปลดป้ายห้ามสั่งผัดกะเพราดังกล่าวออกจากบริเวณด้านหน้าร้านอาหารแล้ว แต่ทาง สลก.ทบ. ยังขอความร่วมมือร้านค้าไม่ให้ผัดกะเพราชั่วคราวจนกว่าเครื่องดูดควันจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งเมื่อมีการสอบถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ก็มีการยืนยันว่ากองทัพไม่ได้สั่งห้ามทำผัดกะเพรา ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวไร้สาระมากกว่า
ทั้งนี้ มีแหล่งข่าวภายในเปิดเผยว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นเนื่องจากเครื่องดูดควันที่ติดตั้งนั้นไร้ประสิทธิภาพ แม้จะใช้เงินงบประมาณสูงในการสั่งซื้อ แต่คุณภาพของเครื่องต่ำ ขณะใช้ก็จะเกิดเสียงดังรบกวนมาก แม้ว่าจะมีการซ่อมถึง 2 ครั้งแล้วก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ บรรดาร้านค้าต้องใช้พัดลมเป่าควันออกไปแทนเครื่องดูดควัน
ที่มา: manager.co.th
