ผู้จัดการส่วนตัวแถลงเก็บศพ “สายัณห์” ไว้วัดไร่ขิง 100 วัน ก่อนเผาที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี ส่วนคอนเสิร์ตยังจัดเหมือนเดิม 14-15 ก.ย. และ 17 ก.ย. ทำใจถูกมองหาผลประโยชน์จากศพ วอนขอให้สงสารลูก-เมียสายัณห์ที่ต้องสูญเสียเสาหลักไป บอกสายัณห์ขอไว้ให้ช่วยดูแลครอบครัว เผยเงินบริจาคมีล้านกว่าบาทแล้ว เป็นวันที่ 2 ของการสวดอภิธรรมศพ “สายัณห์ สัญญา” ที่วัดไร่ขิง ซึ่งจากเดิมมีกำหนดการจะทำพิธีที่นี่เป็นเวลา 15 วัน จากนั้นจะเคลื่อนศพไปทำพิธีต่อที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อีก 9 วัน และจะมีพิธีฌาปณกิจศพขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม ล่าสุด นายมานิตย์ อังกินันท์ ผู้จัดการส่วนตัวของสายัณห์, นางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยาสายัณห์ และ แสนรัก เมืองโคราช โฆษกประจำตัวสายัณห์ ได้แถลงข่าวเลื่อนการเคลื่อนศพออกไป โดยมีกำหนดจะเก็บศพไว้ที่วัดไร่ขิง 100 วัน พร้อมชี้แจงเหตุผลว่า….
ผู้จัดการส่วนตัว : “ก่อนอื่นต้องขอโทษไปยังพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ และเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ทางครอบครัวพี่เป้าและทีมงาน เมื่อคืนได้ปรึกษากันแล้วว่าเราจะเก็บพี่เป้าไว้ 100 วันเพราะลูกสาวคนโตเพิ่งเข้าโรงพยาบาลวันที่รดน้ำศพพ่อเขา การตั้งสวดศพที่วัดไร่ขิงจะดำเนินการไปเรื่อยๆ ตอนนี้ท่านผู้มีเกียรติร่วมเป็นเจ้าภาพกันเยอะ ทางครอบครัวและทีมงานก็ยังยืนยันว่าพี่เป้าจะต้องได้กลับบ้านที่สุพรรณ หลังจาก 100 วัน แล้วเราจะไปฌาปนกิจพี่เป้าที่วัดป่าเลไลยก์กันเหมือนเดิม โดยจะตั้งสวดฌาปนกิจอีก 3 วัน ก่อนเผา ส่วนที่เก็บไว้ 100 วัน วันไหนที่เป็นวันพระ เราก็จะมาสวดอภิธรรมของพี่เป้าที่วัดไร่ขิงนี้ รายละเอียดภายในงานทุกอย่างเราจะค่อยๆ คุยกันไปเรื่อยๆ”
“ของที่รับบริจาคนี่ได้คุยกับทางวัดแล้ว รายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับพี่เป้า จะมีทั้งหมด 8 ตู้ เดี๋ยวทางครอบครัวก็จะทำมาอีก 2 ตู้ เพื่อให้ชัดเจนกับรายได้ทั้งหมดว่าถึงมือลูกเมียเขาแน่นอน ส่วนเมื่อคืนที่ว่ามีตู้บริจาคข้างนอกเราก็ได้ไปตรวจดูแล้ว เขาคงกลับไปก่อนที่เราจะไปพบ แต่เราไม่รู้ว่าเป็นของหน่วยงานไหน เรื่องคอนเสิร์ตเรายังจัดเหมือนเดิมวันที่ 14-15 กันยาฯ การจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าจะไม่แตะต้องเงินที่ประชาชนช่วยบริจาคมาให้ครอบครัวพี่เป้า และเงินส่วนตัวของครอบครัวพี่เป้าเลยตามนโยบายเดิมทุกอย่าง มีแต่รายได้ที่ได้มาเราก็จะให้ครอบครัวพี่เป้าหมดเลย ทุกอย่างชัดเจนเหมือนเดิม”
“ตอนนี้ต้องสวดไปเรื่อยๆ ก่อนเพราะยังไม่มีข้อสรุป เพราะตอนนี้เจ้าภาพเยอะเหลือเกิน ทะลุไปถึงเดือนหน้าแล้ว แต่ถ้าบุญมีวาสนาส่งถ้าไปรับสิ่งที่พวกเราคิดกันไว้จะเป็นเกียรติกับครอบครัวของพี่เป้ามาก ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเวทีก็จะตั้งยาวเลย แล้วแต่ใครจะเป็นเจ้าภาพ ใครเป็นเจ้าภาพก็ไปจ่ายนักดนตรี เครื่องเสียงกันเอาเอง แต่ถ้าไม่มีใครจ่ายบริษัทโฟร์เอสจะเป็นคนรับผิดชอบ ศิลปินใครว่างก็มากัน เอาตามสบายๆ เราจัดเพื่อรำลึกกันเฉยๆ เท่านั้นเองให้พี่น้องแฟนเพลงที่มากันจะได้ไม่เหงา”
“และในวันที่ 17 ก.ย.จะเป็นการคอนเสิร์ตย้อนยุค สายัณห์ สัญญา ใครจะว่าการสวดอภิธรรมศพสายัณห์ เป็นการหาผลประโยชน์จากศพสายัณห์นั้นก็ต้องยอมรับความคิดของแต่ละคน ต้องเปิดใจกว้าง และขอให้เข้าใจ และสงสารภรรยาและลูก ซึ่งเป็นครอบครัวที่สูญเสียเสาหลักไป ที่ผ่านมาและจากนี้ครอบครัวสายัณห์ ต้องใช้จ่ายเงินอีกมากมาย และรวมถึงเงินสะสมที่จะสร้างบ้าน ตามที่พี่เป้าร้องขอไว้ ว่าให้ช่วยดูแลครอบครัว จริงๆ แล้วทางครอบครัวพี่เป้าไม่อยากให้มีดนตรี แต่ก็ไม่อยากจะขัดศรัทธาแฟนเพลงที่มากัน เหมือนพอมาสวดพี่เป้าก็อยากจะได้ยินเสียงเพลงของพี่เป้า ทางโฟร์เอสก็เลยประสานงานมาให้ โดยที่จะไม่แตะต้องเงินของครอบครัวของพี่เป้าเลย”
ภรรยาสายัณห์ : “จะขอยืนยันว่าตั้งแต่ที่พี่เป้ามีอาการป่วยขึ้น เงินช่วยเหลือต่างๆ จากท่านผู้มีความกรุณาทุกท่าน ทุกบาททุกสตางค์ทางครอบครัวเราได้รับหมด ตัวปิ๋มเองได้นำเงินไปฝากไว้ในบัญชีของลูกๆ ทุกคน เพื่อที่จะไว้เป็นทุนของลูกต่อไป ตอนนี้เป็นเงินล้านกว่าบาทแล้ว”
แสนรัก เมืองโคราช โฆษกสายัณห์ : “หลายคนเป็นห่วงว่าการจัดคอนเสิร์ตหลายๆ วันจะเป็นการหารายได้รึเปล่า จะตอบอย่างนั้นก็คงได้ เพราะเป้าประสงค์ที่คุณอ้อ(ผู้จัดการสายัณห์)บอกว่าจะเป็นการช่วยเหลือครอบครัวในเรื่องของทุนการศึกษาลูกๆ พร้อมกับที่อยู่อาศัยที่เรายังจะต้องช่วยกันสรรหาให้กันต่อไป ขอให้พี่น้องทั่วประเทศได้โปรดเข้าใจเป้าหมายในครั้งนี้ด้วย ขอขอบคุณทุกฝ่าย ขอบคุณทุกภาพส่วนที่ช่วยเหลือกัน”
ผู้จัดการส่วนตัว : “สรุปคือเก็บ 100 วัน ส่วนวันจะสวดกี่วันยังบอกไม่ได้ ล่าสุดเจ้าภาพตอนนี้มีถึงวันที่ 3 ต.ค. ยังอีกอาทิตย์นึงก็คงชัดเจน เราพยายามจะรวบรัดให้มากที่สุดตามกำลังที่มีเจ้าภาพ วันเผาไม่เกินอาทิตย์นี้ก็รู้เรื่องเหมือนกัน เรานับครบ100 วันเสร็จ เราก็จะรู้ว่าวันไหน 100 วัน อีก 3 วันเราก็จะไปตั้งอีกที่วัดป่าเลไลยก์เลย แต่ช่วงไหนในระหว่าง 100 วันที่เป็นวันพระเราก็จะมาสวดอภิธรรมให้กับพี่เขา”
ด้าน “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” ที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัยด้วย ได้เผยว่า…
“ผมเองคนนึงนับถือพี่เป้ามาก พี่เป้าเป็นไอดอล เป็นแรงบันดาลใจให้กับผม ผมเป็นศิลปินได้ก็เพราะพี่เป้า ผมเองใช้เพลงพี่เป้าหากินมาตลอด จนมามีเพลงของตัวเองคือเพลงสมศรี 1992 วันนี้เป็นวันที่เราสูญเสียบุคคลสำคัญของวงการเพลงลูกทุ่ง เราเสียดายที่คนดีๆ เสียงดีๆ ต้องไปจากเราอีก หลังจากพี่ผึ้ง พี่แอ๊ว ยอดรัก วันนี้ก็มาเป็นพี่เป้า ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ทำไมคนอื่นไม่เป็น ต้องมาเป็นกับพี่เป้า พี่แอ๊ว พี่ผึ้ง”
“ก่อนหน้านี้ที่ผมจะดัง ผมเองก็เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในวงกับพี่เป้า เดินสายกับพี่เป้าและพี่ผึ้ง จนได้มามีวงของตัวเอง ตอนเพลงสมศรี ผมก็แยกวงมาทำเอง แต่ก็ยังมีโอกาสได้คุยกับแก พี่เป้าจะตอนเสมอ แกจะบอกว่าสิ่งที่ดีของพี่ก็มี สิ่งที่ไม่ดีของพี่ก็มี ยงคิดว่าสิ่งไหนที่ดียงก็เอาไปจากพี่ แกก็จะสอนว่าการทำวงมันลำบาก มันเหนื่อย ถ้าตัดสินใจจะทำมันต้องใช้เงินเยอะ และปัญหาอีกมากมาย พี่เขาก็แนะนำให้ว่าถ้าทำได้ก็ดี แต่ผมก็ตัดสินใจทำ ทำอยู่ประมาณ 3 ปี จนผมล้มลุกคลุกคลานเป็นหนี้เป็นสินอย่างที่เคยเป็นข่าวนั่นคือประสบการณ์ที่เราได้รับจากคำสอนของพี่เป้า พี่เป้าเป็นเหมือนครู อาจารย์ ผมไม่เคยลืมและยังสำนึกในพระคุณของพี่เป้าอยู่ตลอดเวลา”
“ตอนที่แกป่วยผมเองก็มีโอกาสได้ไปกอดไปเยี่ยมแกที่โรงพยาบาลบ้าง ถ้าแกไปกะทันหันผมคงทำใจไม่ได้ ตอนอยู่โรงพยาบาลพระราม9 ก็เข้าไปเยี่ยมแก เข้าไปกอดแล้วบอกว่าผมรักพี่เป้านะ ผมศรัทธาในพี่เป้าซึ่งเป็นคำที่ผมพูดกับแกเสมอ แกก็บอกว่าฉันรู้ว่าแกรักฉัน ได้กอดแกแล้วมีความสุข แกคงจะไปสบายแล้ว ก็พยายามจะให้แกมาหานะ แต่ไม่มีเลย แกคงจะไปสบายแล้วแหละ แกไปอย่างสงบ ไปอยู่อย่างมีความสุขบนสวรรค์”
บรรยากาศในงาน นอกจากจะเนืองแน่นไปด้วยแฟนเพลงแล้ว ยังมีศิลปินมาร่วมงาน อาทิ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย , ตุ้ม จ่านกร้อง, อั้ม นันทิยา ศรเทพ-ศรทอง, ยิ่งยง ยอดบัวงาม, เศรษฐา ศิระฉายา ฯลฯ
ที่มา: manager.co.th