แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5C iPhone 5S แล้ววันนี้ ด้าน iOS 7 พร้อมปล่อยให้อัปเดตฟรีตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน สำหรับ iPhone 5C จุดเด่นหลักคือมีสีเขียว ขาว น้ำเงิน ชมพู และสีเหลืองให้เลือกซื้อ โดยวัสดุด้านหลังและด้านข้างเป็น hard-coated polycarbonate หล่อชิ้นเดียว พร้อมเปิดตัวเคสยางซิลิโคนแบรนด์แอปเปิล โดยในส่วนของสเปกหน้าจอขอ iPhone 5C จะมีขนาด 4 นิ้ว ซีพียูใช้ชิป A6 กล้อง 8 ล้านพิกเซล Wallpaper จะถูกตั้งให้มีสีเข้ากับตัวเครื่อง ส่วนกล้องหน้าปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นพร้อมรองรับ 3G/4G LTE WiFi Dual Band Bluetooth 4.0 ราคาขายสำหรับ 16GB อยู่ที่ 17,787 บาท 32GB ราคาอยู่ที่ 21,027 บาท ส่วนราคาไทยคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 21,400 บาทที่ความจุ 16GB
ในส่วน iPhone 5S จะมีการปรับไลน์สีใหม่เป็น Slate, Gold และ Silver โดยสเปกจะมีการเพิ่ม LED Flash เป็น 2 ตัว ใช้ชิป SOC A7 64 บิตซึ่งถือว่าเป็นซีพียู 64 บิตตัวแรกที่ใช้บนสมาร์ทโฟน แน่นอนว่า iOS 7 สามารถทำงานบนสถาปัตยกรรม 64 บิตได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึง 32 บิตเดิมก็สามารถทำงานได้ ส่วนความเร็วตามที่แอปเปิลบอกในงานจะเร็วกว่าไอโฟนห้า 2 เท่าพร้อมรองรับชุดคำสั่งกราฟิกใหม่ OpenGL ES 3.0 โดยเกมที่รองรับเกมแรกจะเป็น Infinity Blade 3
นอกจากนั้น iPhone 5S ยังมาพร้อมชิปประมวลผลใหม่ในชื่อ M7 ที่เป็นชิปสำหรับแยกประมวลผล Motion Sensor เช่น Accelerometer, Gyroscope, Compass ไปถึงการเซ็นเซอร์ที่ใช้จับการเคลื่อนไหวเวลาออกกำลังกายโดยตอนนี้มี Nike+ ใหม่ป็นแอปที่รองรับและกำลังทดสอบอยู่
สำหรับแบตเตอรีจะสามารถใช้งาน 3G ได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง LTE 10 ชั่วโมง และ Standby เครื่องได้นาน 250 ชั่วโมง
มาถึงส่วนของกล้องถ่ายภาพแอปเปิลเลือกที่จะเพิ่มขนาดเซ็นเซอร์รับภาพให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 15% (1.5 micron pixels) พร้อมปรับรูรับแสงเป็น f/2.2 และปรับปรุงระบบถ่ายภาพใหม่โดยหนึ่งภาพระหว่างกดชัตเตอร์ลงไปหนึ่งครั้ง ภาพจะถูกแยกเลเยอร์ออกเป็นหลายเลเยอร์แล้วทำการประมวลผลภาพตั้งแต่ White Balance ค่าแสง สี และออโต้โฟกัสแบบ 15 โซนใหม่ แน่นอนเมื่อภาพรวมเป็นหนึ่งภาพจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากล้องในไอโฟนรุ่นก่อนหน้ามาก
ในส่วนของแฟลชนอกจากจะเพิ่มแรงแสงเป็น Dual Flash แล้ว ไฟแฟลชมีความอัจฉริยะขึ้นเพราะสามารถสั่ง Fill Flash และปรับภาพไม่ให้กระด้างได้ (True Tone Flash) อีกทั้งยังมาพร้อมระบบ auto-image stabilization ที่จะถ่ายภาพหลายภาพซ้อนกันแล้วประมวลผลลดอาการภาพเบลอ
และทีเด็ดสุดคงเป็นความสามารถในการถ่ายภาพ Slow Motion แบบ High Speed 120fps ได้ที่ความละเอียด 720p
มาถึงฟีเจอร์เด่นกับการเปลี่ยนปุ่มโฮมให้สามารถสแกนลายนิ้วมือได้กับ Touch ID ที่สามารถนำระบบดังกล่าวไปใช้ในการปลดล็อคหน้าจอ ใช้สแกนลายนิ้วมือแทนการใส่ AppleID Password และคาดว่าจะมีแอปฯ อื่นๆ รองรับอีกมากในอนาคต
ในส่วนราคา 16GB อยู่ที่ 21,027 บาท 32GB 24,267 บาท และ 64GB อยู่ที่ 27,507 บาท ส่วนราคาไทยคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 24,900 บาทที่ความจุ 16GB เปิดให้สั่งจอง 13 กันยายน วางขาย 20 กันยายนเฉพาะ อเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอังกฤษ นอกนั้นขายเดือนธันวาคม
อัปเดตข้อมูล iOS 7 - หน้าล็อคสกรีินแบบ harmonious layout
- Siri สามารถเชื่อมต่อกับ Wikipedia, Photo Search และเว็บไซต์ เพื่อค้นข้อมูลที่ต้องการได้
- เสียงแจ้งเตือนถูกปรับปรุงใหม่
- อัลบั้มรูปแบบใหม่แบ่งเป็น moments และ collections และดูเป็นแบบปีได้
- UI กล้องใหม่
- iTunes Radio สตรีมมิ่งวิทยุออนไลน์อย่างเป็นทางการ
- AirDrop แชร์ไฟหาเพื่อนที่ใช้ไอโฟนด้วยกันได้ง่ายขึ้น (อารมณ์ WiFi Direct) แต่ต้องใช้ iPhone 5 ขึ้นไป
- iOS 7 รองรับตั้งแต่ iPhone 4 , iPad 2 , iPad mini, iPod Touch Gen5 เป็นต้นไป
- ปล่อยให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการบน iPhone 5 และ 4S วันที่ 18 กันยายนนี้
**และที่สำคัญต่อไปแอปฯ ในกลุ่ม iWorks iPhoto iMovie จะปล่อยให้ดาวน์โหลดฟรีสำหรับ iOS Device รุ่นใหม่ที่จะวางขายต่อจากนี้**
ที่มา: manager.co.th