“เอเอ็มดี” เปิดผลประกอบการครึ่งปีแรกเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ หลังรุกตลาดด้วยการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ชี้ครึ่งปีหลังยังเน้นผลิตภัณฑ์พีซีเช่นเดิม ตั้งเป้าการเติบโต 10% พร้อมเจาะตลาดในจังหวัดเล็กๆ โดยเฉพาะกลุ่มราชการ-เอสเอ็มอีที่ต้องการความคุ้มค่าในการใช้งาน เผยยังไม่พร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดแท็บเล็ตยังคงมุ่ง เดสก์ท็อปที่ยังสามารถเติบโตได้จากภาครัฐ และองค์กรเอกชน นายจักรกริช วัชระศักดิ์ศิลป์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยเอเอ็มดี ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ผลประกอบการในครึ่งปีแรกของเอเอ็มดี ประเทศไทย เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยรายได้หลักยังมาจากซีพียูเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่วนแบ่งตลาดจะอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ในตลาดระดับกลางที่จะเน้นประสิทธิภาพสูงมากขึ้นกว่าตลาดทั่วไป โดยที่ผ่านมาเอเอ็มดีได้ร่วมมือกับพันธมิตรทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง และครึ่งปีหลังนี้จะยังคงมุ่งไปยังผลิตภัณฑ์ซีพียูเช่นเดิม โดยตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 10%
ครึ่งปีแรก เอเอ็มดี ประเทศไทย มีส่วนแบ่งตลาดซีพียูอยู่ที่ 26% แบ่งเป็นส่วนของโน้ตบุ๊ก 11% และเดสก์ท็อปอยู่ที่ 16% ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาเอเอ็มดีเน้นตลาดอินเทอร์เน็ตและร้านเกมเป็นหลัก โดยกลุ่มเป้าหมายในปีนี้จะเจาะตลาดในส่วนของกลุ่มราชการที่เป็นหน่วยงานเล็กๆ รวมไปถึงกลุ่มองค์กรธุรกิจอย่างเอสเอ็มอี และจะกระจายไปถึงลูกค้าในจังหวัดรองๆ มากขึ้น หลังจากที่ได้ทำตลาดในจังหวัดหลักๆ จนครบแล้ว
“ในปีที่ผ่านมาเราเจาะตลาดเกมค่อนข้างเยอะ และในปีนี้ก็ยังจะเน้นตลาดนี้อยู่ แต่จะเริ่มหันไปโฟกัสในต่างจังหวัดให้มากขึ้น เพราะมั่นใจว่าร้านเกมในต่างจังหวัดจะมีอัตราการเติบโตที่ดี สำหรับตลาดราชการ องค์กรเล็กๆ นั้น เอเอ็มดีจะใช้จุดขายเรื่องราคาที่ช่วยให้องค์กรเล็กๆ สามารถจัดสเปกคอมพ์ได้ดีกว่าในงบไม่มาก ดังนั้นจึงจะเน้นการสร้างมูลค่าให้มูลค่าแก่ผู้ใช้ได้มากกว่า โดยจะมีแผนกระจายและโปรโมตสินค้าที่ครอบคลุมได้ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการรักษาความเป็นการเป็นเจ้าตลาดในกลุ่มนี้ให้คงอยู่ต่อไป”
นายจักรกริชกล่าวว่า เอเอ็มดีใช้กลยุทธ์ในการรุกตลาดด้วยการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับแบรนด์โน้ตบุ๊กที่เป็นพันธมิตรของเอเอ็มดี รวมไปถึงเครือข่ายกระจายสินค้าขนาดใหญ่ที่สามารถครอบคลุมได้ทั่วประเทศ ทั้งผู้ให้บริการเกมออนไลน์ เช่น Asia soft Neolution และ Garena ในการจัดงานสัมมนานำเสนอเทคโนโลยีของเอเอ็มดีและจัดทำโปรโมชันต่างๆ สำหรับครึ่งปีหลังเอเอ็มดีจะเน้นต่อยอดกิจกรรมการตลาดที่ได้ทำมาตลอดในครึ่งปีแรก
“ปีนี้ยังคงเป็นปีของสมาร์ทโฟน เพราะพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ที่เป็นโมบิลิตีเพิ่มขึ้น คาดว่าในอนาคตตลาดที่ยังสามารถเติบโตได้จะเป็นตลาดสมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊ก ส่วนแท็บเล็ตนั้นจะได้รับความนิยมน้อยลงเพราะไม่มีฟังก์ชันโทรศัพท์และไม่เหมาะกับการใช้ทำงานเอกสารและกราฟิก แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นตลาดสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั้น เอเอ็มดียังไม่มีความพร้อมที่จะยังเข้าสู่ตลาดเหล่านี้ ดังนั้นจึงจะยังคงมุ่งตลาดพีซีต่อไปเพราะยังสามารถเติบโตได้จากภาครัฐ องค์กรเอกชน และจากคอนซูเมอร์ ซึ่งส่วนแบ่งตลาดเกมอยู่ในระดับสูง”
สำหรับตลาดอาเซียนนั้น ยอดขายของเอเอ็มดีประเทศไทยที่เป็นกลุ่ม component ยังคงเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน ส่วนธุรกิจของเอเอ็มดีในตลาดอินโดไชน่าอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น เวียดนาม มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 7% นอกจากนี้ เอเอ็มดีได้เริ่มเข้าตลาดประเทศพม่าผ่านทางแบรนด์โน้ตบุ๊กที่เป็นพันธมิตรของเอเอ็มดี
Company Relate Link :
AMD
ที่มา: manager.co.th
