หากถูกใจสินค้าหรือบริการใด นักช็อปจะสามารถเริ่มต้นกระบวนการจ่ายเงินด้วยการเลื่อนภาพหมุดหรือ pin บนหน้าจอให้ลงไปอยู่ในตำแหน่งที่กำหนดภาพและชื่อของนักช็อปรายนั้นปรากฏที่หน้าจอระบบรับชำระเงินของร้านค้า หลังจากนักช็อปตกลงจ่ายเงิน พนักงานขายจะคลิกที่ภาพของผู้ใช้เพื่อตอบรับกระบวนการรับเงินhttp://www.youtube.com/watch?v=9OFaWQDg3_A ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่างเพย์พาล (PayPal) ประกาศทดสอบบริการจ่ายเงินรูปแบบใหม่ในประเทศอังกฤษ ชิมลางเปิดให้ชาวเมืองผู้ดีสามารถจ่ายเงินสินค้าและบริการเพียงมีแอปพลิเคชันเพย์พาล โทรศัพท์มือถือ และภาพใบหน้าเพื่อใช้เป็นเครื่องพิสูจน์และระบุตัวตน อีกหนึ่งความพยายามล่าสุดที่เพย์พาลต้องการบอกให้รู้ว่าทุกคนสามารถวางกระเป๋าสตางค์ทิ้งไว้ที่บ้านได้เลย โดยเพย์พาลจับมือกับผู้ค้าในกรุงลอนดอนมากกว่า 12 ร้านทดสอบระบบชำระเงินรูปแบบใหม่อย่างเป็นทางการ ผู้สนใจจะต้องติดตั้งแอปพลิเคชันของเพย์พาลไว้ที่สมาร์ทโฟน ซึ่งรองรับได้ทั้ง 3 ระบบปฏิบัติการ คือ iOS, Android และ Windows Phone
นักชอปจะสามารถมองผ่านแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบว่าร้านค้าใดบริเวณใกล้เคียงที่รองรับการชำระเงินรูปแบบใหม่ล่าสุดนี้ หากสนใจร้านใดนักชอปจะสามารถ “check in” เพื่อแสดงตัวว่าอยู่ในร้านค้านั้นแล้วด้วยการคลิกชื่อร้าน โดยหากถูกใจสินค้าหรือบริการใด นักชอปจะสามารถเริ่มต้นกระบวนการจ่ายเงินด้วยการเลื่อนภาพหมุดหรือ pin บนหน้าจอให้ลงไปอยู่ในตำแหน่งที่กำหนด การเลื่อนนี้จะทำให้ภาพและชื่อของนักชอปรายนั้นปรากฏที่หน้าจอระบบรับชำระเงินของร้านค้า
หลังจากนักชอปตกลงจ่ายเงิน พนักงานขายจะคลิกที่ภาพของผู้ใช้เพื่อตอบรับกระบวนการรับเงิน ซึ่งลูกค้าจะได้รับข้อความแจ้งเตือนทางโทรศัพท์ พร้อมกับเอกสารแนบเป็นใบเสร็จรับเงินรูปแบบปกติของเพย์พาล
รายงานระบุว่า ร้านค้าที่ตอบรับเข้าร่วมโครงการทดสอบระบบจ่ายเงินด้วยภาพใบหน้าของเพย์พาลนี้ประกอบด้วยร้านค้าหลายประเภท โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายยา และร้านจำหน่ายของว่าง รวมถึงโรงแรมในกรุงลอนดอน ตัวอย่างเช่น Cook & Garcia, The Farmery, The Tea Box และ The Bingham Hotel
หนึ่งในผู้ประกอบการร้านค้าเหล่านี้ระบุว่า บริการที่ยืนยันตัวบุคคลด้วยการเช็กอินหรือการแสดงตัวในร้านด้วยสมาร์ทโฟนลักษณะนี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก โดยเฉพาะในแง่ความสะดวกและรวดเร็วเนื่องจากลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องการพกพาบัตร เงินสด หรือเงินทอนอีกต่อไป โดยระบุว่าบริการที่ใช้ประโยชน์จากการเช็กอินนี้ทำให้กระบวนการจ่ายเงินในร้านเป็นไปได้อย่างสะดวก ทำให้คิวรอแถวในร้านลดลง และทำให้ลูกค้าประทับใจมากกว่าเดิม
แม้จะมีร้านค้าที่เข้าร่วมทดสอบระบบชำระเงินใหม่ล่าสุดเพียง 12 ราย แต่เพย์พาลคาดว่าจะมีร้านค้ามากกว่า 2,000 แห่งที่ขานรับและนำระบบของเพย์พาลไปใช้ในร้านค้าภายในปี 2013
ทั้งหมดนี้ ร็อบ ฮาร์เปอร์ (Rob Harper) ประธานฝ่ายบริการร้านค้าปลีกเชื่อว่าทั้งหมดนี้คือบันไดอีกขั้นที่ทำให้โลกเข้าใกล้เป้าหมายของเพย์พาลมากขึ้น โดยเพย์พาลคาดว่าปี 2016 จะเป็นปีที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตชำระเงินค่าสินค้าและบริการได้อย่างแพร่หลาย
ไม่แน่ อีกไม่นานชาวไทยอาจได้เริ่มต้นใช้บริการบ้างก็ได้
ที่มา: manager.co.th