สก็อต ทอมป์สัน (Scott Thompson) สก็อต ทอมป์สัน (Scott Thompson) อดีตผู้บริหารบริการจ่ายเงินออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง PayPal ถูกประกาศชื่อเป็นซีอีโอคนล่าสุดของ Yahoo ถือเป็นซีอีโอคนที่ 4 ในเวลาไม่ถึง 5 ปี การตั้งซีอีโอใหม่ครั้งนี้เป็นสัญญาณว่ากรรมการบริหาร Yahoo เชื่อว่าบริษัทจะสามารถกลับมายิ่งใหญ่ในสังเวียนไอทีโลกได้อีกครั้ง เซอร์ไพรส์คนทั้งโลกเพราะที่ผ่านมากรรมการบริหาร Yahoo แสดงท่าทีชัดเจนว่ากำลังพิจารณาขายกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนหลังจากสั่งปลดซีอีโอคนก่อนออกจากตำแหน่งเมื่อ 4 เดือนก่อน
ทอมป์สันให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสหรัฐฯว่า ภารกิจอันดับหนึ่งของการรับหน้าที่ซีอีโอให้ Yahoo คือการพาบริษัทให้เติบโตต่อไป ทั้งในแง่การเพิ่มรายรับและการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับนักลงทุนซึ่งผิดหวังกับยอดรายรับที่พลาดเป้ามาหลายปี โดยยอมรับว่าเป็นภารกิจที่ต้องใช้ความอดทนมากกว่าผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุนรายใดของ Yahoo
ก่อนหน้าทอมป์สัน Yahoo มีเทอร์รี่ ซีเมล (Terry Semel), เจอร์รี่ หยาง (Jerry Yang) และคารอล บาร์ตซ์ (Carol Bartz) เป็นซีอีโอซึ่งพาชีวิตของ Yahoo ผ่านเนินลุ่มดอนคละเคล้ากันไปในเวลาไม่ถึง 5 ปีที่ผ่านมา ผลประกอบการที่พลาดเป้าบวกกับภาพภาวะผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรมแก่โลกออนไลน์ซึ่งถูกดาวรุ่งอย่าง Facebook และ Google แซงหน้าไป ทั้งหมดนี้ส่งผลให้มูลค่าหุ้น Yahoo มีมูลค่าไม่เกิน 20 เหรียญสหรัฐมานานถึง 3 ปี ทั้งที่เคยมีมูลค่าถึง 33 เหรียญ เมื่อครั้งไมโครซอฟท์เสนอซื้อบริษัทด้วยเงิน 4.75 หมื่นล้านเหรียญในเดือนพฤษภาคมปี 2008
ไม่เพียงไม่เพิ่มขึ้น มูลค่าหุ้น Yahoo ยังลดลงอีก 3% หรือ 51 เซนต์ทันทีที่ประกาศชื่อทอมป์สันเป็นซีอีโอคนใหม่ ก่อนจะปิดที่ 15.38 เหรียญเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
มูลค่าหุ้นที่ลดลงนั้นสะท้อนถึงคำถามที่นักลงทุนมีต่อทอมป์สัน เพราะอดีตผู้บริหาร PayPal ในเครือ eBay วัย 54 ปีคนนี้ไม่มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรายได้หลักของ Yahoo ทั้งงานด้านคอนเทนต์หรือธุรกิจโฆษณาออนไลน์ใดๆ แต่อย่างน้อยการแต่งตั้งครั้งนี้ก็ทำให้ Yahoo ถูกจับตาขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการแต่งตั้งซีอีโอรายใหม่ท่ามกลางข่าวลือว่าบริษัทอาจขายกิจการนั้นสะท้อนถึงความหวังที่ Yahoo ยังมีอยู่
ในประเด็นขายหุ้น ประธาน Yahoo อย่างรอย บอสต็อก (Roy Bostock) ยังคงแบ่งรับแบ่งสู้ว่ายังไม่สามารถตอบคำถามได้ถึงกรณีที่ Softbank Corp. ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Yahoo Japan และ Alibaba Group จากจีนกำลังยื่นข้อเสนอขอซื้อหุ้นคืนจาก Yahoo คิดเป็นมูลค่ารวมหลายหมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังต้องรอดูการตัดสินใจของ Yahoo ต่อไป
นักวิเคราะห์คาดว่า รายรับของ Yahoo ในปี 2011 ที่ผ่านมาจะมีมูลค่าราว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจาก 7 พันล้านเหรียญในปี 2007 อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาเดียวกันนั้นคู่แข่งอย่าง Google นั้นมีรายรับเพิ่มจาก 1.7 หมื่นล้านเหรียญถึง 3.8 หมื่นล้านเหรียญ
สิ่งที่นักสังเกตการณ์จะจับตานับจากนี้คือกลยุทธ์ที่ทอมป์สันจะชูธง โดยที่ผ่านมา อดีตซีอีโอบาร์ตซนั้นสร้างผลงานเรื่องรัดเข็มขัดจนทำให้ Yahoo มีกำไรเพิ่มขึ้น โดยปี 2011 เชื่อว่าบริษัทจะมีกำไรไม่ต่ำกว่า 1.1 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจาก 660 ล้านเหรียญในปี 2007
ขณะร่วมงานกับ PayPal ทอมป์สันดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายเทคโนโลยี (chief technology officer) เป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะขึ้นเป็นประธาน PayPal ในปี 2008 รายรับของ PayPal นั้นเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 1.9 พันล้านเหรียญมาเป็น 4.4 พันล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา ถือเป็นตัวเลขการันตีความสามารถของทอมป์สันได้ส่วนหนึ่ง
เบื้องต้น ทอมป์สันระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะให้ข้อมูลกลยุทธ์ในการผลักดันรายรับของ Yahoo โดยบอกเพียงว่าฐานผู้ใช้ Yahoo กว่า 700 ล้านคนนั้นเป็นจุดแข็งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของ Yahoo เติบโตได้ต่อไป และขณะนี้ ทอมป์สันและทีมกำลังพยายามหาทางสร้างสรรค์สิ่งใหม่และเติมเต็มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้แบบที่โลกไม่เคยมีมาก่อน
การย้ายค่ายของทอมป์สันสร้างแรงสั่นสะเทือนให้ eBay ต้นสังกัดของ PayPal เล็กน้อย โดยมูลค่าหุ้นของ eBay นั้นลดลงราว 1.18 เหรียญ คิดเป็น 4% จนปิดที่ 30.16 เหรียญ จุดนี้ซีอีโอจอห์น โดนาโฮ (John Donahoe) เชื่อว่า PayPal จะยังขยายตัวได้ต่อไป แม้จะไม่มีทอมป์สันเป็นผู้ถือหางเสือให้นาวาของบริษัท
ผลประโยชน์ที่ทอมป์สันได้รับนั้นมีมูลค่ารวมกว่า 10.4 ล้านเหรียญ รวมถึงเงินเดือนกว่า 645,000 เหรียญจาก eBay ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยรายละเอียดคาดว่าจะถูกเปิดเผยช่วง 2-3 วันนับจากนี้
Company Related Link :
Yahoo
PayPal
ที่มา: manager.co.th