ภาพหลุดชิ้นส่วนประกอบที่มีการติดป้าย iPhone 5C บนกล่องพลาสติกสีขาวภาพที่เชื่อกันว่าเป็น iPhone 5c สีเหลือง ฟ้า และเขียว วันนี้สัญญาณมากมายชี้ไปในทางเดียวกันว่าแอปเปิล (Apple) กำลังเร่งมือผลิตสมาร์ทโฟน "ไอโฟน (iPhone)" รุ่นใหม่ที่มีราคาประหยัดกว่าบนฝาหลังที่ทำจากพลาสติก บางสัญญาณมาจากภาพหลุด ขณะที่บางสัญญาณมาจากข้อมูลของบริษัทผู้รับจ้างผลิต และบางสัญญาณมาจากการสัมภาษณ์แรงงานของกลุ่มรักษาสิทธิมนุษยชนที่เล่าถึงการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่อย่างน่าสนใจ 1 ไอโฟนพลาสติกเริ่มเปิดสายผลิตเต็มตัว องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน China Labor Watch ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก เปิดเผยรายงานคำสัมภาษณ์แรงงานในบริษัทเพกาตรอน (Pegatron) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตไอโฟนในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานในบริษัท ปรากฏว่าบางส่วนของคำสัมภาษณ์นั้นอ้างถึงการผลิต "ไอโฟนพลาสติก" ซึ่งเป็นไอโฟนที่ยังไม่เคยปรากฏโฉมในท้องตลาดเลย
แรงงาน Pegatron ส่วนหนึ่งเล่าว่ามีหน้าที่หลักคือการติดฟิล์มกันรอยบนฝาหลังพลาสติกของไอโฟน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝาหลังเครื่องมีรอยขูดขีดบนสายพานประกอบเครื่อง แรงงานระบุว่าหน้าที่นี้สามารถทำได้ง่ายและสามารถทำได้ทันทีหลังจากได้เริ่มอบรมเพียง 5 นาที และการติดฟิลม์นั้นใช้เวลาเร็วมากไม่ถึง 1 นาที
รายงานระบุด้วยว่า ไอโฟนรุ่นพลาสติกจะถูกแอปเปิลเปิดตัวในเร็ววันนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดสายการผลิตแบบจำนวนมากหรือ mass production แบบทุกแผนก ดังนั้นกระบวนการผลิตบางส่วนจึงยังไม่เน้นให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมากนัก ซึ่งกรณีของกลุ่มตัวอย่างที่ China Labor Watch สัมภาษณ์มานั้นพบว่ากระบวนการผลิตเป็นไปได้ช้ากว่าบางแผนกที่เริ่มต้นการผลิต mass production ไปแล้ว
2 ราคาเหยียบหมื่น หลังจากมีข่าวลือมากมาย นักวิเคราะห์จากฟอร์เรสเตอร์อย่าง Charles Golvin (ชาร์ลีส์ โกลวิน) ยืนยันว่าราคาเครื่องเปล่าที่โอเปอเรเตอร์ไม่ได้สนับสนุนหรือ unsubsidized จะอยู่ที่ 299-329 เหรียญสหรัฐ (ราว 9,000-10,000 บาท) สำหรับรุ่นความจุข้อมูล 8GB จาก iPhone 5 รุ่นปัจจุบันที่จำหน่ายในราคา unsubsidized มูลค่ามากกว่า 650 เหรียญ หรือประมาณ 20,000 บาท
นี่ถือเป็นราคาประเมินล่าสุดของ"ไอโฟนพลาสติก"ที่เริ่มเป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2013 โดยสำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นอลระบุว่าไอโฟนพลาสติกจะใช้วัสดุโพลีคาร์บอนเนทแทนอะลูมิเนียมที่ใช้ในฝาหลัง iPhone 5 ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไอโฟนที่สามารถตอบความต้องการของตลาดในวงกว้าง
3 ชื่อรุ่น iPhone 5C สำนักข่าวบิสสิเนสอินไซเดอร์ (Business Insider) รายงานว่าไอโฟนพลาสติกจะใช้ชื่อว่า iPhone 5C เบื้องต้นคาดว่าอักษร “C” นั้นย่อมาจากคำว่า “color” เพื่อแสดงว่าเป็นรุ่นไอโฟนที่มีสีสัน ขณะที่สาธารณชนวิจารณ์ว่า C อาจจะมาจากคำว่า “cheap” หรือราคาถูกก็ได้
รายงานนี้ตรงกับรายงานจากเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ที่เชื่อว่าไอโฟนพลาสติกจะใช้ชิ่อรุ่นว่า iPhone 5C แถมยังตรงกับภาพหลุดชิ้นส่วนประกอบที่มีการติดป้าย iPhone 5C บนกล่องพลาสติกสีขาว ซึ่งทำให้ช่าวชื่อ iPhone 5C มีน้ำหนักมากกว่าเดิมชัดเจน
4 มีให้เลือก 5 สี วันนี้ภาพหลุดของ iPhone 5C นั้นถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ โดยในภาพแสดงชัดเจนว่า iPhone 5C มีสีสัน 5 เฉดให้เลือกทั้งขาว ดำ เหลือง ฟ้า และเขียว ซึ่งยังไม่มีการยืนยันใดๆว่าเป็น iPhone 5C จริงหรือหลอก
5 เปิดตัววันที่ 6 กันยายนนี้? นอกจาก iPhone 5C รายงานจากสื่อใหญ่อย่างฮัฟฟิงตันโพสต์ (Huffington Post) ยังระบุว่าสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง iPhone 5S จะเปิดตัวในงานประชุมที่แอปเปิลจะจัดขึ้นวันที่ 6 กันยายนนี้ ซึ่งหากข่าวนี้เป็นจริง จะแปลว่า iPhone 5S คือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่สามารถเปิดตัวได้เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า
จุดนี้สอดคล้องกับซีอีโอแอปเปิลอย่างทิม คุ้ก (Tim Cook) ที่เคยบอกใบ้เรื่องนี้เมื่อครั้งประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปีการเงิน 2013 ของบริษัท (เมษายน-มิถุนายน 2013) ว่า Apple จะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงช่วงปี 2014 ที่จะถึงนี้ ซึ่งที่ผ่านมา แอปเปิลเคยเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแทนที่จะเป็นฤดูร้อนนับตั้งแต่การเปิดตัว iPhone 4S เมื่อปี 2011
6 ลดราคาเพราะยอดขายไอโฟนทรงตัว ก่อนหน้านี้ สื่อออนไลน์เชื่อว่าแอปเปิลต้องการเปิดตัวไอโฟนเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งที่วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนหลายระดับราคาจนทำให้มีส่วนการตลาดสูงมาก สถิติล่าสุดตอกย้ำว่าความเชื่อนี้เป็นจริงเนื่องจากการสำรวจของบริษัทวิจัย Strategy Analytics พบว่าซัมซุง (Samsung) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติเกาหลีใต้สามารถครองส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนมากกว่า 33.1% ขณะที่แอปเปิลมีเพียง 13.6% เท่านั้น
ในรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2013 ของแอปเปิล ยักษ์ใหญ่อเมริกันสามารถขายไอโฟนได้ 31.2 ล้านเครื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า 20% ในขณะที่ไอแพด (iPad) แท็บเล็ตสุดฮิตมียอดขายตกลง 14% เหลือ 14.6 ล้านเครื่อง ขณะที่เครื่องเล่นมัลติมีเดียอย่างไอพ็อด (iPod) ทรุดหนักเพราะยอดขายลงลง 32% ลงมาอยู่ที่ 4.57 ล้านเครื่อง เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์แมคอินทอชที่มียอดขายลดลง 7% เหลือ 3.75 ล้านเครื่อง
ทั้งหมดนี้ แอปเปิลระบุว่าสามารถทำรายได้รวมทั้งสิ้น 3.53 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และทำกำไรได้ 6.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าจะทำรายได้เหนือกว่าไตรมาสเดียวกันของปี 2012 แต่กำไรกลับลดลงจากที่เคยทำได้ 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนว่าแอปเปิลต้องรีบดำเนินการเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยเร็ว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของแอปเปิลคือการออกมายืนยันว่าบริษัทได้เปลี่ยนแปลงรายชื่อทีมบริหารแอปเปิลด้วยการดึงบ็อบ แมนส์ฟิลด์ (Bob Mansfield) รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีของแอปเปิลออกจากตำแหน่งเพื่อดำเนินโครงการลับของบริษัทแทน ทำให้สื่อมวลชนคาดว่าโครงการลับที่อดีตผู้บริหารแอปเปิลกำลังดูแลอยู่อาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างนาฬิกาอัจฉริยะ iWatch ก็ได้
ทั้งหมดนี้ ยังไม่มีการยืนยันใดๆจากแอปเปิลตามเคย
ที่มา: manager.co.th