"เป้า สายัณห์" เผยไม่ตกใจเป็นมะเร็งแต่แปลกใจเป็นได้ไงเหล้าไม่กิน-บุหรี่ไม่สูบ ลั่นทำใจได้จะไม่ร้องไห้ ไม่บอกว่าตนเองป่วยและจะยิ้มจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย อ้อนแฟนเพลงรักน้อยๆ รักนานๆ และรักตลอดไป เผยอาจจะย้ายโรงพยาบาลเหตุเครื่องมือที่นี่ไม่พร้อม แม้ผลตรวจจะยังออกมาไม่ออกมายืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์แต่โอกาสที่ทางด้านของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "เป้า สายัณห์ สัญญา" จะป่วยเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งที่ตับอ่อนในระยะสุดท้ายนั้นสูงมาก ซึ่งล่าสุดในช่วงเย็นของวันนี้(18)ทางด้านลูกทุ่งชื่อดังก็ได้เปิดใจถึงอาการป่วยของตนเองระหว่างเข้ารับการรักษาที่ห้อง 401 ชั้น 4 อาคาร 1 โรงพยาบาลศรีวิชัยมาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมว่า...
“ตอนที่ทราบว่าป่วย ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ถามตัวเองว่าเป็นได้ยังไง กูเป็นมะเร็งหรือ เหล้าก็ไม่ดื่มบุหรี่ก็ไม่สูบ ออกกำลังกายบ่อยๆ ดูแลสุขภาพตลอด ทุกเช้าจะวิดพื้น 30 ครั้ง ยกดัมเบล 150 ครั้ง ไม่เห็นเหรอผมออกงานไหนจะล่ำบึ้กตลอด ผมน้ำหนัก 75 ก.ก. จนพี่ แอ๊ด สมบัติ เมทะนี และ เพลิน พรมแดน ก็ยังบอกเลยว่าบึ้ก คุณพนม นพพร ยังบอกว่ายอมแพ้หุ่นของผมเลย"
"พอรู้ว่าเป็นมะเร็ง ก็รู้สึกแปลกใจ ก็มาคิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดไหน แต่เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ เพียงแต่ว่าเราจะอยู่ได้สักแค่ไหน ทุกอย่างอยู่ที่กำลังใจของเรา ร่างกายของเราว่าเราจะสู้กับมันได้ไหม โรคมันมาอาศํยเราอยู่ แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้าเรามีกำลังใจดี เราก็อาศัยจากหลายๆ ทาง เช่น นั่งสวดมนต์และสมาธิ จะทำให้จิตใจเราว่างเปล่า ไม่คิดอะไร"
"เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไร จะเป็นอะไรก็เป็นไป จะเป็นโรคร้ายแค่ไหน สุดท้ายมันจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ สมมติถ้าโชคชะตาชีวิตจะต้องตายต้องสิ้นบุญ วันสุดท้ายที่คนมาเห็นผม แล้วผมจะยิ้มยันลมหายใจเฮือกสุดท้าย”
ลั่นจะไม่มีน้ำตา จะไม่บอกว่าตนเองไม่สบาย พร้อมฝากบอกแฟนเพลงหากตนเองต้องตายจากไปก็ขอให้ทำใจให้สบาย ไม่ต้องคิดอะไรมาก..."ผมจะไม่น้ำตาไหล จะไม่บอกว่าไม่สบายและทำใจไม่ได้ ชีวิตเราปล่อยวาง ไม่ต้องคิดอะไร ตอนนี้ห่วงแค่ลูกที่ยังเรียนไม่จบและครอบครัว ลูกๆ ยังไม่มีใครเป็นฝั่งเป็นฝา ผมมีลูก 4 คน เรียนจบ 2 คน ก็ห่วง 2 คนที่เหลือ"
"แต่ถ้าถามเรื่องความเป็นอยู่ ภรรยาของตนก็ทำงานดูแลลูกได้สบาย ไม่ต้องไปห่วงอะไร เขาทำงานเดือนละ 1-3 แสน อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงแฟนๆ ว่าการที่ตนล้มเจ็บครั้งนี้ เป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต และก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าตนจะมีบุญอยู่รอดไปได้หรือเปล่าจะหายไหม หรือจะจบชีวิตในครั้งนี้ แต่ถ้ามันจะจบชีวิตในครั้งนี้ ก็อยากฝากบอกแฟน ๆ ว่าขอให้ทำใจให้สบาย ไม่ต้องไปคิดอะไร"
"เราก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขบุญวาสนามีความสุขกันมา 20-30 ปีแล้ว มันก็โอเคแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องร่วมวงการ เราเคยรักกันอยู่ร่วมกันมาก็ไม่ต้องไปคิดอะไรนะ ทุกๆ คนก็ต้องตามๆ กันไป รักน้อยๆ แต่รักให้นานๆ และให้รักกันตลอดไป แม้วันที่ตนจะจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ขอให้แฟนเพลงยังรัก สายัณห์ สัญญา และก็ยังมีเสียงเพลงไพเราะของตนอาจทำให้คุณคลายเครียดและทุกข์ได้"
เจ้าตัวยอมรับอาจจะย้ายโรงพยาบาลหลังคุณหมอบอกเครื่องมือไม่พอ..."คงจะต้องย้าย เนื่องจากว่าคุณหมอที่นี่บอกว่าเครื่องมือในการตรวจรักษาไม่ค่อยพร้อมเท่าที่ควร ส่วนว่าจะย้ายไปที่ไหนต้องขอปรึกษากันก่อน เพราะครอบครัวของผมจะพบแพทย์ที่ ร.พ.ศรีวิชัย และที่ ร.พ.สมิติเวช ลูกสาวผมก็เกิดที่นั่น"
ที่มา: manager.co.th