TOUGHPAD แท็บเล็ตพันธุ์อึด บุกตลาดไทย

[Nick]

"พานาโซนิค" ขอเป็นผู้นำทุกเซ็กเม้นท์ในตลาดโน้ตบุ๊กพันธุ์อึด ที่กันน้ำ กันกระแทก หรือการตกจากที่สูงได้



<a href="https://www.youtube.com/watch?v=A5i3PtG1Olg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=A5i3PtG1Olg</a>





<a href="https://www.youtube.com/watch?v=0FiMZAIhvnw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=0FiMZAIhvnw</a>

นายใหญ่พานาโซนิคกำหนดทิศทางธุรกิจขอเป็นผู้นำทุกเซกเมนต์ในตลาดโน้ตบุ๊กพันธุ์อึด ไม่สนตลาดคอนซูเมอร์ที่มุ่งแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก หลังครองแชมป์เบอร์ 1 โน้ตบุ๊กทนทานทั่วโลก 11 ปีซ้อน เตรียมขยายตลาดอาเซียนและไทย แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายและทีมขายเพิ่ม ตั้งเป้าโตเท่าตัวทุกปี หวังยอดขาย 1 ล้านเครื่องปี 2015 พร้อมเตรียมส่ง TOUGHPAD แท็บเล็ตพันธุ์อึด 7 นิ้วลงตลาดไทย
       
       ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดโน้ตบุ๊กหลากหลายแบรนด์ในปัจจุบันส่วนใหญ่ให้ความสำคัญต่อดีไซน์หรือฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ในจำนวนนี้ยังคงมีช่องว่างสำหรับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กพันธุ์อึดที่มีความแข็งแรงทนทานทนต่อสภาพการใช้งานสมบุกสมบันอย่างอุตสาหกรรมน้ำมัน ป่าไม้ ก๊าซ โรงพยาบาล หรือแม้แต่ตำรวจ
       
       ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นที่มีความทนทานต่อสภาพการใช้งานที่เหมาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นกันน้ำ กันกระแทก หรือการตกจากที่สูงได้ ทำให้โน้ตบุ๊กพันธุ์อึดขยายตัวอย่างมากในปัจจุบัน แม้จะยังไม่มีใครสามารถประมาณการมูลค่าตลาดรวมของโน้ตบุ๊กประเภทนี้ได้ หรือแม้กระทั่งประมาณการส่วนแบ่งตลาดในตลาดโน้ตบุ๊กทั่วไปว่ามีสัดส่วนมากน้อนแค่ไหนก็ตาม แต่การตอบรับจากตลาดทำให้โน้ตบุ๊กพันธุ์อึดมีการเติบโตในสัดส่วนที่น่าพอใจทุกปี
       
       พานาโซนิคเป็นหนึ่งในผู้ทำตลาด RUGGED PC หรือคอมพิวเตอร์ทนทานเพื่อการใช้งานสมบุกสมบันด้วยเป้าเป็นผู้นำในทุกอุตสาหกรรมที่ทำตลาด เช่น การแพทย์ น้ำมัน ป่าไม้ หรือแม้แต่การใช้ในกิจการของตำรวจ แทนการเจาะตลาดคอนซูเมอร์ทั่วไปที่ให้ความสำคัญต่อการแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก โดยมองว่าไม่เป็นผลดีเลยหากผู้ผลิตต้องผลิตสินค้าโดยคำนึงเรื่องการแข่งขันด้านราคามากกว่าสิ่งที่ผู้ใช้จะได้รับจากสินค้านั้นๆ
       
       มร.ฮิเดะ ฮาราดะ ผู้อำนวยการ IT PRODUCT BUSINESS DIVISION AVC NETWORKS COMPANY (ITPBD) ในเครือ PANASONIC CORPORATION กล่าวว่า พานาโซนิคเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโน้ตบุ๊กเพื่อการใช้งานทนทาน (RUGGED) ทั่วโลกมาแล้ว 11 ปี และเป็นเบอร์ 1 ในตลาดแท็บเล็ตเพื่อการใช้งานทนทานทั่วโลกในไตรมาส 4 ของปี 2012 อีกทั้งยังเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโน้ตบุ๊กโดยรวมทุกประเภทในญี่ปุ่นติดต่อกันมาแล้ว 9 ปี
       
       ในญี่ปุ่นพานาโซนิคทำตลาดทั้งองค์กรธุรกิจและตลาดคอนซูเมอร์ทั่วไปภายใต้แบรนด์ Let's NOTE ส่วนตลาดนอกประเทศญี่ปุ่นใช้แบรนด์ TOUGHBOOK สำหรับโน้ตบุ๊กพันธุ์อึด และ TOUGHPAD สำหรับทำตลาดแท็บเล็ตพันธุ์อึด ซึ่งการใช้ชื่อที่แตกต่างกันนี้เป็นเพราะการรับรู้เรื่องแบรนด์ในญี่ปุ่นที่มีมาก่อนหน้านี้แล้ว
       
       นอกจากตลาดในญี่ปุ่นแล้ว พานาโซนิคมีนโยบายที่จะขยายตลาดไปในภูมิภาคอื่นๆ มร.ฮิเดะกล่าวว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่พานาโซนิคจะขยายตลาดมายังภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้นจากการเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดที่ยังมีอยู่อีกมากหลังเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
       
       “เริ่มจากการลงทุนเพิ่มในเรื่องบุคลากรด้านการตลาด ทีมงานขาย แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นในไทยจากปัจจุบันที่มีเดอะแวลลูซิสเต็มส์เป็นตัวแทนจำหน่าย แต่ก็ยังจะไม่ตั้งสำนักงานในไทย โดยจะยังให้ขึ้นตรงต่อสิงคโปร์ไปก่อน โดยมองว่าในไทยมีตลาดที่น่าสนใจ เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งนอกจากให้การสนับสนุนเรื่องบุคคลแล้ว ยังให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนด้านกิจกรรมทางสังคมด้วยเช่นกัน”
       
       ผู้บริหารพานาโซนิคกล่าวว่า ยังไม่มีแผนที่จะขยายตลาดมาในส่วนคอนซูเมอร์ทั่วไป ด้วยเหตุผลที่ว่าตลาดคอนซูเมอร์มีการแข่งขันกันสูงโดยเฉพาะเรื่องราคา เมื่อต้องแข่งขันกันมากก็จะทำให้พานาโซนิคไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตรงตามเป้าหมายที่ว่าต้องการนำเสนอโปรดักต์ที่ดีที่สุดให้เหมาะสำหรับการใช้งานมากที่สุดได้ เพราะต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เลือกมาเฉพาะเพื่อให้ทำราคาได้เท่านั้น
       
       “โน้ตบุ๊กแบบทั่วๆ ไปมีในตลาดเยอะแล้ว เราต้องขายจำนวนมากเพื่อให้ทำราคาได้ซึ่งก็ไม่ใช่นโยบายในการทำธุรกิจของพานาโซนิค เราต้องการให้ลูกค้ามีผลผลิตมากที่สุด ได้รับประสิทธิภาพมากที่สุด และมีความพึงพอใจมากที่สุดด้วยการคิดค้นโปรดักต์ที่มีความแตกต่างจากคอนซูเมอร์พีซีทั่วไปที่มีอยู่ในท้องตลาด โดยจะคงคอนเซ็ปต์ของการเป็นโน้ตบุ๊กทนทาน กันแรงสั่นสะเทือน เหมาะต่อสภาพแวดล้อมสมบุกสมบัน โดยไม่หยุดการทำงาน”
       
       จุดเด่นของพานาโซนิคอยู่ที่การมีโรงงานผลิตและทดสอบของตัวเอง ชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดมาจากโรงงานของพานาโซนิคเองทำให้สามารถคัดสรรชิ้นส่วนคุณภาพมาประกอบเป็นโปรดักต์ได้ตรงตามความต้องการ การมีโรงงานทดสอบของตัวเองทำให้ทราบข้อดีข้อเสียของโปรดักต์แต่ละรุ่น ตลอดจนพัฒนาต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็วในขณะที่แบรนด์อื่นต้องส่งไปทดสอบที่อื่น ในแต่ละวันเครื่องจะถูกสุ่มมาทดสอบความสมบุกสมบันในการใช้งาน อย่างการตกจากที่สูงขณะเครื่องเปิดใช้งาน โดยแต่ละรุ่นจะสามารถรองรับความสมบุกสมบันต่างกันออกไป อย่างรุ่น Fully รองรับการตกจากที่สูงได้ถึง 120 เซนติเมตร รองลงมาเป็นรุ่น Semi รองรับการตกจากที่สูงได้ 90 เซนติเมตร และ 76 เซนติเมตรสำหรับรุ่นbusiness
       
       จากการทดสอบตกจากที่สูงขณะเปิดเครื่องพบว่าเครื่องยังสามารถใช้งานได้ปกติเช่นเดียวกับการทดสอบฉีดน้ำใส่เครื่องในระดับแรงดันน้ำต่างๆ พบว่าเครื่องยังสามารถใช้งานได้ปกติเช่นกัน เรียกได้ว่าใช้งานกลางฝนตกหนักได้สบาย พร้อมกันนี้ยังทำการทดสอบอีกหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างด้านอุณหภูมิ การใช้งานในที่มีแสงแดดจัดก็สามารถดูภาพได้อย่างชัดเจน รวมทั้งการทดสอบรองรับน้ำหนักจากการนั่งทับได้เป็น 100 กิโลกรัมโดยตัวเครื่องไม่พัง และโดยเฉพาะหน้าจอไม่แตก
       
       ปัจจุบันพานาโซนิคให้ความสำคัญต่อR&D เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพความเร็วความแรงของเครื่องที่มักจะมาพร้อมความร้อนและการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ โดยคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีความต้องการใช้แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นหลัก
       
       สำหรับโรงงานผลิตของพานาโซนิคที่โกเบ ประเทศญี่ปุ่นมีกำลังการผลิต 680,000 ยูนิตในปี 2012 และคาดว่าในปี 2013 จะเพิ่มเป็น 830,000 ยูนิต ในจำนวนนี้ 50% เป็นการส่งออก และ 50% เพื่อการทำตลาดในญี่ปุ่นเอง โดยสินค้าที่เป็นล็อตใหญ่จะมีการนำหุ่นยนต์มาช่วยทำการผลิต โดยกำลังการผลิตของโรงงานแห่งที่นี้ 1 เครื่องใช้เวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งผู้บริหารพานาโซนิคกล่าวว่า ผู้ผลิตรายอื่นอาจใช้เวลาน้อยกว่านี้ แต่พานาโซนิคให้ความสำคัญต่อการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้คุณสมบัติตามที่ต้องการ รวมทั้งต้องมีการทดสอบเพื่อให้ผ่านมาตรฐานตามที่กำหนดไว้
       
       นอกจากผลิตตามสเปกที่กำหนดแล้ว โรงงานที่โกเบยังรองรับการผลิตตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการตามความเหมาะสมของแต่ละธุรกิจ อย่างในกลุ่มตำรวจก็จะมีความต้องการใช้งานกันกระแทก รองรับแรงระเบิด ขณะที่ในวงการแพทย์ก็จะต้องการโน้ตบุ๊กกันน้ำมากกว่า รวมทั้งยังสามารถเลือกสี หรือแม้แต่การใส่ชื่อผู้เป็นเจ้าของบนตัวเครื่องก็สั่งได้
       
       มร.ฮิเดะกล่าวว่า ด้วยเป้าหมายของการผลิตโปรดักต์ที่ตอบสนองการใช้งานสมบุกสมบันกันแรงสั่นสะเทือนเพื่อการใช้งานในแต่ละอุตสาหกรรม ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาไม่ได้มุ่งที่ความสวยงาม และไม่ได้ต้องการแข่งขันด้านราคา ซึ่งต่างจากโน้ตบุ๊กเพื่อคอนซูเมอร์ทั่วไปในปัจจุบันที่เน้นรูปลักษณ์สวยงามมีดีไซน์ แต่พานาโซนิคมองว่าดีไซน์ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำตลาด สิ่งที่พานาโซนิคให้ความสำคัญมากกว่าดีไซน์คือการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการใช้งานที่มากขึ้น เช่นต่อเชื่อมผ่านยูเอสบี หรือเอ็กซ์เทอร์นัลดีไวซ์ สมาร์ทการ์ดรีดเดอร์เพื่อการควบคุมความปลอดภัยข้อมูลได้ในทันทีเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน รวมทั้งการเป็นสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานการใช้งานที่สูงกว่าโน้ตบุ๊กทั่วๆ ไป เป็นโน้ตบุ๊กระดับพรีเมียม อย่างการใช้งานกลางแสงแดดจ้าก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบด้านราคากับโน้ตบุ๊กในตลาดคอนซูเมอร์ทั่วไปได้
       
       ในประเทศไทยพานาโซนิคเปิดตัวโน้ตบุ๊กแล้ว 3 รุ่น คือ Toughbook CF-C2 พีซีกึ่งแท็บเล็ต, CF-AX2 อัลตราบุ๊กผสมแท็บเล็ต และ Toughpad FZ-C1 แท็บเล็ตสมบุกสมบัน ทั้งหมดใช้อินเทลคอร์โปรเซสเซอร์เจเนอเรชัน 3 ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมั่นใจว่าด้วยตัวแทนจำหน่ายกว่า 4,000 รายทั่วประเทศของเดอะแวลลูฯ จะช่วยสร้างยอดขายให้พานาโซนิคได้เป็นอย่างดี
       
       ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของพานาโซนิคในไทยจะเป็นกลุ่มเฮลท์แคร์ โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ การสื่อสาร และธุรกิจประกันภัย โดยคาดว่าประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน ปีนี้จะเปิดตัวTOUGHPAD JT-B1 แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วตัวใหม่ล่าสุดเพื่อขยายตลาด รวมทั้งมีแผนขยายไลน์อัปสินค้าอื่นให้มากขึ้นอีกด้วย
       
       “เป้าหมายของพานาโซนิคคือทำตลาดทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตทั่วโลกใน 1 ปี (เดือนเมษายน 2014-มีนาคม 2015) ให้ได้ 1 ล้านเครื่อง โดยมีแผนที่จะขยายตลาดอาเซียนรวมถึงประเทศไทยให้เพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกปี จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 5%”
       
       
       
       Company Relate Link :
       Panasonic

ที่มา: manager.co.th