เอ-โฮสต์รุกหน้าบริการครบวงจร ต่อยอดผสานเซอร์วิสร่วมซอฟต์แวร์-ฮาร์ดแวร์ ตั้งเป้าเติบโต 20% เบนเข็มลุยภาคการศึกษาและโรงพยาบาลด้วยผลิตภัณฑ์ของออราเคิลและไอบีเอ็ม เน้นทำสัญญาระยะยาวสร้างรายได้ต่อเนื่อง นายจรูญรัฐ ปิงคลาศัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ถึงบริษัทว่า ได้แบ่งออกเป็น 2 มิติ คือฝั่งหนึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย (ดิสทริบิวเตอร์) ให้แก่ออราเคิล และไอบีเอ็ม อีกส่วนหนึ่งคือในแง่ของเซอร์วิส เนื่องมาจากบริษัทเริ่มมาจากส่วนนี้ จึงทำให้มีพนักงานเป็นจำนวนมาก ส่วนมากก็จะทำงานร่วมกับคู่ค้าเพื่อให้การสนับสนุนในการส่งต่อซอฟต์แวร์ให้แก่ลูกค้า
“สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากฝ่ายขายราว 75% ส่วนอีก 25% มาจากฝั่งเซอร์วิส แต่ถ้ามองในแง่ของกำไรสุทธิแล้วจะมาจากฝั่งเซอร์วิสมากกว่าเพราะว่าให้มาร์จิ้นสูงกว่า และด้วยเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการเติบโตในปีนี้ 20% ทำให้หันมาเน้นให้บริการแบบ High Value Service เน้นกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนเป็นหลัก”
รายได้รวมของบริษัทเอ-โฮสต์ย้อนกลับไปในปี 2554 อยู่ที่ 450 ล้านบาท ส่วนในปี 2555 อยู่ที่ 550 ล้านบาท และในปี 2556 ตั้งเป้าไว้ 700 ล้านบาท ซึ่งอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15-20% โดยมาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ การปรับรูปแบบการให้บริการของบริษัท และเทรนด์ของเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยผลักดันให้องค์กรภาคเอกชนหันมาใช้บริการมากขึ้น
“ภาพรวมการแข่งขันในตลาดเริ่มสูงขึ้น หลายบริษัทสามารถพัฒนาขึ้นมาให้บริการในขั้นสูงได้ เอ-โฮสต์จึงต้องการสร้างความแตกต่างในธุรกิจด้วยการผสมผสานธุรกิจเข้าด้วยกันเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า”
โดยเอ-โฮสต์ถือเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ของออราเคิล และไอบีเอ็มในระดับสูง ทั้งยังรับหน้าที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาในการวางแผนให้แก่องค์กรที่สนใจในการลงทุนทางด้านไอที เพื่อสร้างรายได้และพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานแก่องค์กร
แต่เดิมกลุ่มเป้าหมายหลักของเอ-โฮสต์ จะเน้นไปที่อุตสาหกรรมการผลิต และภาคธุรกิจการเงินการธนาคาร แต่จากแนวโน้มของการแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้หันไปให้ความสำคัญต่อตลาดในภาคการศึกษา และโรงพยาบาลมากขึ้น เพื่อนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรทั้งซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ พร้อมกับเซอร์วิสแก่องค์กรเหล่านั้น
ประกอบกับทางออราเคิลได้หันมาขายบริการในรูปแบบแอปพลายแอนซ์ ที่จำหน่ายทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ร่วมกันมากขึ้น ทำให้เอ-โฮสต์ที่มีประสบการณ์ในด้านการให้บริการมากว่า 14 ปีสามารถต่อยอดเพื่อให้บริการในเชิงที่ปรึกษาเพิ่มเติมเข้าไปด้วย
“อีกจุดหนึ่งที่เป็นแผนงานที่สำคัญคือการทำสัญญาให้บริการในระยะยาว 3-5 ปี จากเดิมที่ทำสัญญา 1-2 ปีเพื่อสร้างรายได้ระยะยาวให้แก่บริษัทในทุกๆ ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการให้บริการแบบ High Value Service”
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างในช่วง 2-3 ปีหลัง ด้วยการเข้าร่วมกับมหาวิทยาลัยในระดับที่รองลงมาเพื่อเฟ้นหานักศึกษาที่มีความสนใจทางด้านธุรกิจไอทีมาร่วมฝึกงานในบริษัทตั้งแต่ช่วงปี 3 และปี 4 จึงส่งผลให้สามารถหาพนักงานใหม่ที่พร้อมทำงานเข้ามาในบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
Company Relate Link :
A-host
ที่มา: manager.co.th
