หลังจากเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ iOS 7 ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพาเวอร์ชันล่าสุดของแอปเปิลถูกนำมาเอกซเรย์ จนพบว่ามีคุณสมบัติใหม่จำนวนหนึ่งที่บอกใบ้ถึงไอโฟนรุ่นถัดไปที่หลายคนเรียกกันเล่นๆ ว่า “iPhone 5S” และไม่แน่ว่าอาจจะเกี่ยวเนื่องถึงไอแพดรุ่นถัดไปด้วย คำบอกใบ้ครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสาวกแอปเปิลทั่วโลก เพราะที่ผ่านมาแอปเปิลขึ้นชื่อมานานเรื่องการเก็บความลับของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทกำลังซุ่มพัฒนาอยู่ เมื่อครั้งนี้แอปเปิลเลือกเปิดตัวเฉพาะ iOS 7 ในงาน WWDC 2013 ที่ผ่านมา ชาวไอทีทั่วโลกจึงตื่นเต้นกันมากเมื่อคุณสมบัติใหม่ใน iOS 7 สามารถแสดงแนวโน้มว่าแอปเปิลจะต้องเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์เครื่องเพื่อให้ไอโฟนหรืออุปกรณ์รุ่นใหม่รองรับ iOS 7 ได้ดีกว่าเดิม
***ปรับทัพกล้องใหม่ หลักฐานจาก iOS 7 บอกชัดว่าแอปเปิลจะปรับปรุงกล้องถ่ายภาพดิจิตอลในอุปกรณ์ของตัวเองแน่นอน เชื่อว่าจะครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์เพื่อการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
หลักฐานนั้นคือ iOS 7 รองรับการถ่ายวิดีโอความเร็วสูง 60fps (เฟรมต่อวินาที) เทียบกับมาตรฐานสมาร์ทโฟนปัจจุบันที่ถ่ายภาพได้ 30fsp จุดนี้สามารถสรุปได้ว่าไอโฟนรุ่นถัดไปจะสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ละเอียดกว่าเดิม 2 เท่าตัว
นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าแอปเปิลจะทำให้ไอโฟนสามารถรองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูง 1080p HD ซึ่งทำให้วิดีโอมีความลื่นไหลและคมชัดมากกว่า 720p ที่ใช้กันมากในสมาร์ทโฟนท้องตลาด โดยเฉพาะกรณีการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหว หรือการถ่ายวิดีโอเมื่อสมาร์ทโฟนมีการเคลื่อนที่
นอกจากนี้ วิดีโอที่ถ่ายด้วยความเร็ว 60fps ยังเหมาะสำหรับการผลิตวิดีโอสโลว์โมชัน หรือวิดีโอเคลื่อนไหวช้าที่ทำให้ได้อารมณ์การชมอีกแบบ
อย่างไรก็ตาม แอปเปิลกลับไม่ได้เน้นคุณสมบัติการถ่ายวิดีโอ 60fps ของ iOS 7 บนเวทีงาน WWDC โดยเฉพาะความสามารถในการระดมถ่ายภาพนิ่งมากกว่า 60 ภาพในทุก 1 วินาทีที่มีการกดชัตเตอร์ จุดนี้รายงานจากซีเน็ตระบุว่าแอปเปิลอาจไม่พัฒนาให้ไอโฟนหรือไอแพดมีโหมดการทำงานลักษณะนั้น แต่ความสามารถนี้จะยังคงอยู่ตราบใดที่ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอความเร็ว 60fps ได้
นอกจากการเปลี่ยนแปลงหน่วยประมวลผลภาพที่อาจเกิดขึ้นในไอโฟนรุ่นใหม่ นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าแอปเปิลจะใช้เทคนิคเพื่อปรับให้ iPhone 5 รุ่นปัจจุบันสามารถถ่ายภาพด้วยความเร็ว frame-rate เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว ซึ่งจะต้องเป็นเทคนิคที่ไม่กระทบอายุการใช้งานแบตเตอรี่เครื่อง
หากแอปเปิลลงมือเปลี่ยนแปลงระบบถ่ายภาพในไอโฟนจริง กลุ่มเซ็นเซอร์กล้องถ่ายภาพก็จะถูกพัฒนาให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงการถ่ายวิดีโอ ซึ่งทั้งหมดจะสามารถทำควบคู่ไปกับแอปพลิเคชัน รวมถึงการเปิด option หรือตัวเลือกใหม่ที่อาจไม่เคยมีในไอโฟนหรือไอแพดรุ่นใดมาก่อน
***เซ็นเซอร์ใหม่ยกแผง ข้อมูลระบุว่า iOS 7 รองรับเซ็นเซอร์ inclinometer (อินคลิโนเมเตอร์) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับวัดความลาดเอียงทั้งมุมสูงและต่ำ โดยจะทำงานสัมพันธ์กับแรงโน้มถ่วงโลก ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากว่าไอโฟนหรือไอแพดอาจจะมีการเพิ่มเซ็นเซอร์ชุดใหม่ ในลักษณะเดียวกับที่ซัมซุงเพิ่มเซ็นเซอร์ชุดใหม่ใน Galaxy S4 มาแล้ว
ซัมซุงนั้นติดเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิหรือ barometer รวมถึงเซ็นเซอร์วัดความชื้น (humidity sensor) ไว้ใน Galaxy S4 ทั้งที่ไม่เคยติดในสินค้ารุ่นใดเลย นักวิเคราะห์จึงมองว่าแอปเปิลอาจจะเลือกติดเซ็นเซอร์ชุดใหม่ให้กับไอโฟนยุคหน้าเช่นกัน หรือไม่ก็อาจจะใช้วิธีรวบรวมข้อมูลแบบใหม่จากข้อมูลที่เก็บได้จากเซ็นเซอร์เดิม
สมมติว่าหากแอปเปิลใช้วิธีติดเซ็นเซอร์ชุดใหม่ลงในอุปกรณ์ การประเมินข้อมูลรอบข้างจากไอโฟนในขณะนั้นแบบเรียลไทม์ย่อมทำให้เกิดลูกเล่นน่าสนใจบนหลายแอปพลิเคชัน เช่น แอปพลิเคชันแผนที่ 3 มิติอาจจะนำข้อมูลเรียลไทม์ไปใช้ในการเปลี่ยนแปลงมุมมองบนแผนที่ 3 มิติที่สมจริงกว่าเดิม หรือแอปพลิเคชันออกกำลังกาย ที่อาจจะนำข้อมูลติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมไปใช้ในการสรุปผลของผู้ใช้แต่ละคน
นอกจากนี้ แอปพลิเคชันเกมยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลในเซ็นเซอร์ชุดใหม่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเกมแนว augmented reality หรือเกมเสมือนจริงที่ผู้เล่นจะได้เห็นโลกจริงและโลกเสมือนบนหน้าจอเดียวกัน ซึ่งจะสามารถแสดงผลหรือกำหนดเงื่อนไขในเกมได้สนุกสนานท้าทายกว่าเดิม
***เปลี่ยนโฉมปุ่ม toggle ปุ่ม toggle บนอุปกรณ์ของแอปเปิลนั้นมี 2 ส่วน หนึ่งคือปุ่ม toggle บนหน้าจอ ซึ่งเป็นปุ่มเปิดปิดคุณสมบัติที่เราเห็นบนจอเมื่อเปิดเมนูอย่างการตั้งค่า (settings menu) หรือเมนูอื่นๆ ที่ผ่านมา iOS ใช้ปุ่มทรงกระบอกมาตลอด สำหรับให้ผู้ใช้แตะที่ปุ่มบนจอเพื่อเลื่อนสวิตช์และตั้งค่าระบบตามต้องการ
iOS 7 แสดงชัดเจนว่าปุ่ม toggle มีการเปลี่ยนดีไซน์ให้สั้นลง ซึ่งเป็นไปได้ว่าปุ่ม toggle ส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นปุ่มฮาร์ดแวร์ที่อยู่ข้างเครื่องไอโฟน ไอแพด และไอพอดนั้นอาจจะเปลี่ยนดีไซน์ไปด้วย
นักวิเคราะห์เชื่อว่าปุ่ม toggle สำหรับปิดเสียงอุปกรณ์พกพาของแอปเปิลที่ติดบริเวณด้านซ้ายของเครื่องจะมีการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับ iOS 7 เชื่อว่านี่จะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์อุปกรณ์ตระกูลไอที่เห็นได้ทันทีจากภายนอกตัวเครื่อง
***ไร้แวว NFC ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นการรองรับชิปเทคโนโลยี NFC หรือ near field communication ในไอโฟนรุ่นใดๆ เชื่อว่าไอโฟนรุ่นถัดไปก็จะไม่มีเทคโนโลยี NFC ในไอโฟนเช่นกัน แต่จะเป็นเทคโนโลยีไร้สายที่แอปเปิลลงทุนอยู่ในขณะนี้อย่าง AirDrop
นักวิเคราะห์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ AirDrop จะแจ้งเกิดในไอโฟนเจเนอเรชันถัดไป โดย AirDrop จะเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่มีบทบาทในการแชร์ภาพและวิดีโอของผู้ใช้ไอโฟนแห่งอนาคต ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่าแอปเปิลเมินเฉยต่ออิทธิพลของ NFC ที่หลายประเทศเปิดให้ผู้ใช้แตะสมาร์ทโฟนกับเครื่องอ่านเพื่อจ่ายชำระเงินหรือเพื่อแชร์คอนเทนต์ แต่จะใช้บริการ Passbook เพื่อการชำระเงิน และ AirDrop จะเสริมแกร่งด้านการแชร์ไฟล์ภาพและวิดีโอแทน
ความเชื่อมั่นของแอปเปิลในเรื่องนี้มีเหตุผล เพราะผู้ใช้บริการ Passbook และ AirDrop จะไม่จำเป็นต้องเดินไป “แตะเครื่อง” กับจุดบริการใดๆ ตรงกันข้าม บริการเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินหรือแชร์ข้อมูลจากทุกมุมโลกได้เท่าที่ต้องการ
ไม่ว่าไอโฟนรุ่นถัดไปจะเป็นอย่างไร แต่ iOS 7 ทำให้เกิดข่าวลือมากมายว่าไอโฟนรุ่นถัดไปจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านฮาร์ดแวร์อย่างครบชุด ทั้งหน้าจอที่จะใหญ่ขึ้น มีสีสันมากขึ้น และจะสามารถชาร์จได้แบบไร้สาย
ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีการยืนยันใดๆ จากแอปเปิลตามธรรมเนียม
***** iOS 7 มีดีที่ไหน ***** แอปเปิลการันตีว่า iOS7 คือการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญของระบบปฏิบัติการที่อยู่คู่ไอโฟน ไอแพด ไอพอดทัชมาช้านาน ด้วยดีไซน์ใหม่ถอดด้ามที่ถือเป็นการฉีกแนวเดิมของแอปเปิลทั้งหมด โดยยังเน้นดีไซน์เรียบง่าย ตัดเรื่องความสมจริงออกและไปเน้นในเรื่องสีสัน Animation ที่ซ้อนกันเป็นเลเยอร์ที่สมูทในแนวโมเดิร์น และมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ดังต่อไปนี้
- Control Center : ผู้ใช้สามารถปรับการปิดเปิด Wi-Fi Bluetooth และระบบอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านเมนูลัด (ทำให้ต่อไปผู้ใช้ไอโฟนไม่จำเป็นต้องเปิด Settings เพื่อเข้าไปเปิด Wi-Fi อีกแล้ว)
- Multitasking : แอปทุกตัวจะสามารถใช้งาน Multitasking แบบใหม่ได้แบบเรียลไทม์ จากเดิมเป็นไอคอนเล็กๆ อยู่ด้านล่างเมื่อกดปุ่ม Home สองครั้ง แต่ Multitasking แบบใหม่จะโชว์เป็นหน้าต่างแอปที่กำลังทำงาน และผู้ใช้สามารถปัดซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนแอปใช้งานได้
- Safari : Safari ตัวใหม่จะแสดงผลเป็นแบบ Full Screen มาพร้อม Tab ใช้งานรูปแบบใหม่
- Animation Background : Background บน iOS 7 จะสามารถเคลื่อนไหวได้และเป็นแบบ 3 มิติ
- Camera : โหมดถ่ายภาพใน iOS 7 จะมาพร้อมฟิลเตอร์ตกแต่งภาพ และ Gallery จะสามารถแบ่งอัลบั้มรูปเป็นแบบช่วงเวลา (สามารถดูได้แบบเดือน-ปี) ตามสถานที่ได้
- AirDrop : iOS 7 มาพร้อมโหมดแชร์ภาพผ่าน AirDrop ด้วย
- Siri : สาวนักพูด Siri เองจะมีการปรับอินเตอร์เฟซใหม่หมด และเพิ่มคำสั่งใหม่ๆ รวมไปถึงเสียงที่มีการปรับให้มีความนุ่มนวลเหมือนมนุษย์มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ Siri สามารถใช้งานร่วมกับรถยนต์ได้ผ่านระบบ iOS on the car
- App Store : สามารถกรองแอปโดยกำหนดเป็นช่วงอายุได้ และการอัปเดตแอปจะไม่มีการแจ้งเตือนอีกต่อไป เพราะ App Store ตัวใหม่จะอัปเดตแอปให้อัตโนมัติ
- Music : สามารถชมอัลบั้มแบบแนวนอนได้ในลักษณะของตารางหมากรุก
- iTunes Radio : สถานีวิทยุออนไลน์ที่รวมคลื่นสถานีฟรีๆ ไว้มากมายโดยปราศจากโฆษณา โดยบริการ iTunes Radio จะเปิดให้ทดสอบในสหรัฐอเมริกาก่อน
- FaceTime audio : นอกจาก Facetime จะสามารถใช้งานแบบวิดีโอคอลได้แล้ว ใน iOS 7 ผู้ใช้ยังสามารถใช้ Facetime เฉพาะเสียงแบบ VoIP (คล้าย Viber) ได้ด้วย
- Activate Phone : ระบบป้องกันการลักขโมยข้อมูลเมื่อเครื่องสูญหายแบบใหม่ที่จะต้องใช้ล็อกอิน Apple ID ในการปลดล็อกตัวเครื่อง
iOS 7 จะเปิดให้ดาวน์โหลดในช่วงเดือนกันยายนบนอุปกรณ์ iPhone 4 หรือสูงกว่า iPad 2 หรือสูงกว่า และ iPad mini ส่วนเวอร์ชันทดสอบสำหรับนักพัฒนาเปิดให้ดาวน์โหลดวันนี้เฉพาะไอโฟน
Company Related Link :
Apple
ที่มา: manager.co.th