ผกก. และนักแสดงนำ จาก Blue is the Warmest Color เจ้าของรางวัลเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีนี้ ปิดฉากลงแล้วสำหรับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ประจำปี 2013 ซึ่งในท้ายที่สุดผู้กำกับเจ้าของผลงานหนังเลสเบียนจากฝรั่งเศส รวมถึงนักแสดงนำหญิงทั้งสองคน สามารถคว้ารางวัลใหญ่ "ปาล์มทองคำ" ไปครองได้ในที่สุด เกียรติยศสูงสุดในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 66 หรือรางวัลปาล์มทองคำตกเป็นของ Blue is the Warmest Color หนังฝรั่งเศสที่เล่าเรื่องราวประเภทการก้าวผ่านพ้นวัยของตัวละคร ผ่านความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของหญิงสาวสองคน นำแสดงโดย อเดล เอ็กโคปูลอส และ ลีอา เซย์ดูซ์ ผลงานการกำกับของ แอบเดลลาทีฟ เคชีช ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนของฝรั่งเศสอีกต่อหนึ่ง
Blue is the Warmest Color ที่มีความยาวถึง 3 ชั่วโมง ถูกจับตามองในฐานะเป็นงานที่เต็มไปด้วยฉากเลิฟซีนอันเปิดเผย เรียกว่านอกจากความรุนแรงที่เป็นประเด็นถกเถียงในคานส์ปีนี้ด้วยหนังอย่าง Only God Forgives และ Shield of Straw แล้ว ในอีกด้านหนังว่าด้วยคนชอบเพศเดียวกันทั้ง Blue Is the Warmest Colour และ Behind the Candelabra ผลงานที่ว่าด้วยชีวิตของนักเปียโนชื่อดัง ลิบาราชี ของ สตีเวน โซเดอร์เบิร์กห์ ก็ดูจะเป็นที่พูดถึงตลอดเทศกาลพอ ๆ กัน
และไม่ใช่เพียงผู้กำกับที่ได้รับรางวัลเท่านั้น แต่คณะกรรมการยังตัดสินใจมอบรางวัลปาล์มทองคำพิเศษให้กับนักแสดงนำหญิงของเรื่องทั้งสองคนด้วย
Blue is the Warmest Color เล่าเรื่องของ อเดล เด็กสาววัย 15 ปีที่ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงหลังได้พบกับเด็กสาวผมสีน้ำเงิน เอมมา ที่ทำให้เธอได้ค้นพบตัวตน และความปรารถนาในฐานะหญิงสาวคนหนึ่ง
ถือว่าพลิกความคาดหมายอยู่ไม่น้อยที่คณะกรรมการประจำเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งนี้อันประกอบไปด้วย สตีเวน สปีลเบิร์ก, นิโคล คิดแมน, อังลี, คริสตอฟ วอลต์ซ ฯลฯ มอบรางวัลให้กับหนังที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แทนที่จะเป็นผลงานใหม่ของผู้กำกับชื่อดังระดับโลก อย่าง พี่น้องโคเอน หรือ เจียจางเค่อ คนทำหนังชื่อดังจากประเทศจีน ที่ก่อนหน้านี้ได้รับการจับตามองในฐานะตัวเต็ง
"ผมควรจะอุทิศรางวัลนี้ให้กับคนรุ่นใหม่ของฝรั่งเศส ที่ผมเองมีโอกาสได้พบเจออยู่ช่วงใหญ่ ๆ ตลอดการทำหนังเรื่องนี้" ผู้กำกับ เคชีช กล่าวหลังได้รับรางวัล "คนหนุ่มสาวเหล่านั้นสอนอะไรผมมากมายเกี่ยวกับจิตวิญญาณอิสระ และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน"
เคชีช วัย 52 ปี ที่เกิดในตูนิเซียยังกล่าวยกย่องกระแสคลื่นปฏิวัติการเดินขบวน การประท้วงและสงครามซึ่งเกิดขึ้นในโลกอาหรับตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนในช่วงหนึ่งของการรับรางวัล "ผมอยากจะอุทิศหนังให้กับคนรุ่นใหม่กลุ่มอื่นด้วย ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้สำหรับการปฏิวัติในตูนิเซีย พวกเขาก็สร้างแรงบันดาลใจสำหรับการใช้ชีวิตอย่างเสรีเช่นเดียวกัน ในการแสดงออกอย่างเปิดเผย และมีความรักด้วยอิสระอย่างที่"
สำหรับการมอบรางวัลในปีนี้ สปีลเบิร์ก ยอมรับว่าเสียงของกรรมการไม่ได้เป็นเอกฉันท์เสียทีเดียว "สำหรับผมหนังเรื่องนี้เล่าถึงความรักอันยิ่งใหญ่ และเป็นเรื่องรักอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เอกสิทธิ์พิเศษในการเฝ้าติดตามชมอย่างใกล้ชิดด้วยความสมจริงสมจัง โดยไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แต่เหมือนได้รับการเชื้อเชิญให้ร่วมสังเกตการณ์ถึงเรื่องของความรักอันลึกซึ้ง และเรื่องราวเกี่ยวกับหัวใจที่ค่อย ๆ แตกสลายมาตั้งแต่ตอนต้น ด้วยวิธีเล่าอันสุดวิเศษที่ทำให้เวลาแทบจะหยุดนิ่ง"
สำหรับรางวัล Grand Prix ที่ถือว่าเป็นเกียรติยศลำดับรองลงไปในปีนี้ เป็นของ Inside Llewyn Davis หนังที่ว่าด้วยแวดวงดนตรีโฟล์คในยุค 60s ของ โจล และอีธาน โคเอน คนทำหนังคู่พี่น้องสุดดังแห่งสหรัฐฯ ที่มี แครี มัลลิแกน, จัสติน ทิมเบอร์เลค และ ออสการ์ ไอแซค แสดงนำ เป็นรางวัลของพี่น้องโคเอนที่คานส์อีกครั้งหลังเคยพา Barton Fink คว้าปาล์มทองคำที่นี่เมื่อปี 1991 มาแล้ว
คนทำหนังชาวเม็กซิโก อาเม็ต เอสคาเลนเต้ ก็คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมไปได้จากหนังสุดรุนแรง Heli ที่เล่าเรื่องสงครามยาเสพติดผ่านเหตุการณ์ที่ครอบครัวหนึ่งต้องเข้าไปสู่วังวนแห่งอาชญากรรม และการแก้แค้น เป็นงานหนังสุดรุนแรงในคานส์ปีนี้อีกเรื่อง ที่มีฉากทรมานซึ่งคนดูหลายคนไม่สามารถทนดูหนังจนจบได้
ตัวแทนจากประเทศจีนก็คว้ารางวัลใหญ่บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้จาก A Touch of Sin ของ เจียจางเค่อ ที่เล่าเรื่องชวนตื่นตระหนกอันว่าด้วยความฉ้อฉลในเมืองจีน ที่ประชาชนโดนกดขี่ และตอบโต้ได้ด้วยความรุนแรงเท่านั้น
ด้านรางวัลในสาขานักแสดง สำหรับฝ่ายหญิงตกเป็นของดาราชาวฝรั่งเศส เบเรนิซ เบโจ ที่เคยสร้างชื่อมาในหนังเงียบขาวดำ The Artist ที่ไปไกลถึงรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาแล้ว ซึ่งในปีนี้เธอกลับมาคานส์ด้วยหนังดราม่าครอบครัว The Past ผลงานของผู้กำกับชาวอิหร่าน อัสการ์ ฟาร์ฮาดี ส่วนดารานำชายตกเป็นของ บรูซ เดิร์น วัย 76 ปี ที่สวมบทเป็นพ่อผู้มีปัญหาพิษสุราเรื้อรังใน Nebraska หนังแนวโรดมูวีของ อเล็กซานเดอร์ เพย์น
Like Father, Like Son หนังครอบครัวสะเทือนใจที่เล่าถึงสถานการณ์การสลับตัวเด็กในโรงพยาบาล ที่อีก 7 ปีต่อมาผู้เป็นพ่อแม่ต้องตัดสินใจว่าจะเลี้ยงดูลูกที่ไม่ได้เป็นสายเลือดแท้ ๆ ของตนเองต่อไป หรือกลับไปเอาทายาทแท้ ๆ กลับมาดูแลแทน เป็นผลงานของผู้กำกับชาวญี่ปุ่น ฮิโรคาซึ โคเรอิดะ คือหนังที่ได้รับรางวัลจากคณะกรรมการหรือ Jury Prize ในปีนี้ไปครอง
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานประจำปี 2013 ถือเป็นงานครั้งที่ 66 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 - 26 พ.ค. มี The Great Gatsby เป็นหนังเปิดเทศกาล และหนังฝรั่งเศส Zulu เป็นหนังฉายเปิดปิดฉากเทศกาลประจำปีนี้
หนังสายประกวด
Palme d'Or – Blue Is the Warmest Colour by Abdellatif Kechiche
Honorary Palme d'Or – Adèle Exarchopoulos and Léa Seydoux for Blue Is the Warmest Colour
Grand Prix – Inside Llewyn Davis by Joel & Ethan Coen
Best Director – Amat Escalante for Heli
Best Screenplay – Jia Zhangke for A Touch of Sin
Best Actress – Bérénice Bejo for The Past
Best Actor – Bruce Dern for Nebraska
Jury Prize – Like Father, Like Son by Hirokazu Koreeda
หนังสายรอง Un Certain Regard
Prize of Un Certain Regard – The Missing Picture by Rithy Panh
Un Certain Regard Special Jury Prize – Omar by Hany Abu-Assad
Un Certain Regard Best Director – Alain Guiraudie for Stranger by the Lake
Un Certain Regard Best First Film – Fruitvale Station by Ryan Coogler
A Certain Talent – Diego Quemada-Diez for The Golden Cage
ที่มา: manager.co.th