อาร์เอสมั่นใจธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์โตสวนกระแสเศรษฐกิจ ทำเงินไม่น้อยกว่า 480 ล้านบาทหรือโตกว่า 40% เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง พร้อมเปิดกลยุทธ์“โซเชี่ยล มีเดีย” ชูจุดแข็งเป็นผู้นำตลาดดิจิตอลคอมมูนิตี เผยไตรมาส 3 รุกตลาดเอดูเทนเมนต์ ส่วนรายได้รวมตั้งเป้าไว้ที่ 2,600 ล้านบาท
นายยรรยง อัครจินดานนท์ รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้กลุ่มธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% คิดเป็นรายได้ 480 ล้านบาท หลังจากปีที่ผ่านมา มีรายได้ในกลุ่มธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์อยู่ที่ 350 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ประมาณ 35-40% โดยบริการที่ช่วยผลักดันให้รายได้กลุ่มธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์เติบโต ได้แก่ บริการโมบาย บิสซิเนส 80% และบริการออนไลน์ บิสซิเนส 20% ปัจจุบันรายได้จากธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% จากรายได้รวมทั้งหมดของอาร์เอส และในรอบปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 2,600 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ในปีนี้มองว่ามีแนวโน้มการเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่โดยรวมชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงกลุ่ม โดยเฉพาะสื่ออินเทอร์เน็ตและมือถือ และเชื่อว่าเงินช่วยเหลือประกันสังคม 2,000 บาทที่รัฐบาลจะอัดฉีดให้แก่ผู้ทำประกันในเดือนเมษายนนี้ จะทำให้ยอดดาวน์โหลดดิจิตอลคอนเทนต์เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนกลยุทธ์ในการปรับแผนธุรกิจทางด้านการตลาด และบริการใหม่ ๆ คือ นวัตกรรม (Innovation) อุปกรณ์สื่อสาร ความเร็วในการรับส่งข้อมูล กลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมความบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ ให้รองรับกับอุปกรณ์ สื่อสารแบบพกพา รวมถึงการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีไฟล์ขนาดใหญ่และมีคุณภาพเพื่อรองรับกับเทคโนโลยีในอนาคตที่จะเกิดอย่างเช่น 3จี
นายยรรยงกล่าวถึงภาพรวมในธุรกิจโมบายบิสซิเนสว่า ปีนี้คาดว่ามูลค่าตลาดบริการเสริมจะมีการขยายตัวมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 10-15% โดยอาร์เอสจะสามารถทำส่วนแบ่งทางการตลาดได้ประมาณ 50% จากตลาดรวมดิจิตอลมิวสิกกว่า 1,500 ล้านบาท และตลาดรวมดิจิตอลดาวน์โหลดบนมือถือ ทั้งหมดกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจโมบายบิซิเนสมาจาก บริการเสียงรอสาย (Ring back tone) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 80% บริการโมบายดาวน์โหลด 20%
นอกจากนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ “โซเชียล มีเดีย” (Social Media) มากยิ่งขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมียอดคนใช้อินเทอร์เน็ตสูงถึง 15.4 ล้านราย และผลสำรวจระบุว่าผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี เป็นกลุ่มที่ใช้เวลาในแต่ละวันอยู่กับสื่อดิจิตอลมากสุดถึง 75% (ผลสำรวจของ Synovate) ซึ่งอาร์เอสมีจุดแข็งทางด้านการเป็นผู้นำตลาดวัยรุ่นและตลาดดิจิตอลคอมมูนิตี
สำหรับธุรกิจออนไลน์บิซิเนสของอาร์เอสประกอบไปด้วยเว็บไซต์ชีซ่าดอทคอม (
www.zheza.com) ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัว Zheza เวอร์ชัน 2 พร้อมก้าวสู่การเป็น “ดิจิตอล เวิลด์” (Digital World) ที่เน้นการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นแบบ 360 องศา รวมถึงการเป็น “ออนไลน์สโตร์” (Online Store) โดยกลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเน้นที่เด็กวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี ปัจจุบันเว็บไซต์ชีซ่าดอทคอมมีสมาชิกกว่า 2,000,000 คน ภายในเวลา 2 ปี และมียอดคนเข้าเว็บไซต์กว่า 110,000 IP/วัน พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีสมาชิกในเว็บไซต์ 3,000,000 คน
ด้านเว็บไซต์เพลงดอทคอม (
www.pleng.com) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “มิวสิก อินสไปเรชัน” (Music Inspiration) มีกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างกว้างโดยมีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งจะประกอบด้วยคอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เพลง , มิวสิก วิดีโอ , เบื้องหลังต่างๆ , รายการทีวี , คอนเสิร์ต รวมถึงกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งสื่อออนไลน์ที่เห็นความสำคัญในการนำคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมในอดีตของอาร์เอสมาให้บริการในคอนเซ็ปต์ “Rewind” ซึ่งประกอบด้วยคอนเทนต์ประเภท เพลง และมิวสิกวิดีโอ ปัจจุบันเว็บไซต์เพลงดอทคอมมีฐานสมาชิกกว่า 25,000 คน และมียอดคนเข้าเว็บไซต์กว่า 30,000 Visitor/วัน นอกจากนี้ยังมียอดการ Embed คอนเทนต์อยู่ที่กว่า 500,000 ครั้ง/วัน โดยตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีสมาชิกในเว็บไซต์ 75,000 คน และบริษัทยังมีแผนเปิด “ออนไลน์ เอดูเทนเมนต์ คอมมูนิตี” (Online Edutainment Community) ในไตรมาส 3 ของปีนี้
ที่มา:
http://www.manager.co.th
