Sony Pictures ยืนยันว่าพวกเขาจะพยายามทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จีน เพื่อให้ผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดของ "เควนติน ตารันติโน" กลับเข้าโรงหนังในจีนให้ได้ หลังโดนถอดโปรแกรมออกอย่างกะทันหันด้วยเหตุผลอันคลุมเครือ เป็นข่าวใหญ่อยู่ไม่น้อยเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหลังมีการประกาศว่า Django Unchained จะเป็นหนังเรื่องแรกของ เควนติน ตารันติโน ผกก. ผู้โด่งดังกับการนำเสนอความรุนแรงอันสุดโต่งในภาพยนตร์ ที่จะได้เข้าฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ล่าสุดกลับเป็นข่าวดังกว่าเดิม หลังหนังได้เข้าฉายจริงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และถูกถอดออกจากโปรแกรมอย่างกะทันหันหลังฉายไปได้แค่วันเดียวเท่านั้น
สตีฟ เอลเซอร์ ตัวแทนของ Sony ได้ให้ข่าวกับทางเว็บไซต์ Deadline ยอมรับว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นจริงที่ว่า Django Unchained ถูกถอดออกจากโปรแกรม พร้อมกล่าวเสริมว่าตอนนี้ทางบริษัทกำลังทำงานกับเจ้าหน้าที่ของทางจีน เพื่อให้หนังได้เข้าฉายอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
ในเวลาเดียวกันก็มีข่าวลือออกมาว่าในโรงหนังบางแห่งในจีนได้ฉายหนังไปแล้วด้วยซ้ำ แต่กลับตัดสินใจหยุดฉายหลังหนังเริ่มไปได้แค่ 1 นาทีเท่านั้น พร้อมบอกกับผู้ชมในโรงภาพยนตร์ว่า "เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย" โดยไม่มีคำอธิบายชัดเจนอื่นใดอีก
ซึ่งแหล่งข่าววงในจากจีนแผ่นดินใหญ่ให้ข้อมูลว่า Django Unchained โดนแบนเพราะฉากนู้ดของ เจมี ฟ็อกซ์ ที่สวมบทบาทเป็นทาสผิวสีแม้ จางเหมา แห่ง Sony Columbia จะอ้างว่าทางการจีนได้ตรวจภาพยนตร์ซ้ำ และพบปัญหาในบางจุด ที่เป็นความรุนแรงและฉากเลือดสาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่างหาก
การยกเลิกฉาย Django Unchained น่าจะมีผลกับหนังอยู่ไม่น้อย เพราะตอนนี้จีนแผ่นดินใหญ่คือตลาดหนังที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐฯ เท่านั้น หลังตลาดหนังจีนแผ่นดินใหญ่ทำยอดรายได้จากการขายตั๋วหนังในประเทศแซงญี่ปุ่นได้สำเร็จในปี 2012 ที่ผ่านมา
มูลค่ามหาศาลของตลาดหนังจีนแผ่นดินใหญ่ทำให้ผู้สร้างหนังจากฮอลลีวูดพยายามผลักดันผลงานของตนให้ได้เข้าฉายที่นี่ แม้จีนจะใช้ระบบโควต้าที่อนุญาตให้มีหนังต่างประเทศฉายได้ในจำนวนจำกัด และบางครั้งหนังจากสหรัฐฯ อาจจะต้องพบกับปัญหาการเซ็นเซอร์อันเข้มงวดก็ตาม อย่างเช่นหนังดัง Cloud Atlas ฉบับที่เข้าฉายในเมืองจีน จะสั้นกว่าฉบับปกติที่ฉายทั่วโลกถึง 40 นาที โดยหนังจะมีความยาวเพียง 130 นาที เป็นการโดนตัดทิ้งถึงประมาณ 1 ใน 4 ของตัวหนังทั้งเรื่องเลยทีเดียว
ที่มา: manager.co.th