“กิ๊บซี่” รับ “เกิร์ลลี่ เบอร์รี่” ใกล้วงแตก เหตุโตแล้วถึงจุดอิ่มตัว ส่วนซิงเกิลใหม่จากที่ต้องออกปลายปีต้องเลื่อนไม่มีกำหนด เพราะเพลง และเสื้อผ้ายังเป็นสไตล์เดิมๆ บอกถ้าไม่มีอะไรแปลกใหม่ก็ไม่ออกดีกว่า แพลนหลังจากสาว “กิ๊ฟซ่า เกิร์ลลี่ เบอร์รี่” พ้นโทษเมาแล้วขับเมื่อไหร่จะได้เห็นผลงานเพลงใหม่แน่นอน แต่ตอนนี้สาวกิ๊ฟซ่าก็พ้นโทษมานานแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววของผลงานเพลง รวมไปถึงสมาชิกในวงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ต่างก็แยกย้ายไปทำงานอื่นของตนเอง ล่าสุด เจอสาว “กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์” ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามถึงความคืบหน้าเรื่องของผลงานเพลง เจ้าตัวก็เผยว่า จริงๆ ทุกอย่างพร้อมแล้ว เพียงแต่งานที่ออกมายังไม่ถูกใจสมาชิกเพราะเป็นสไตล์เดิม จึงไม่ออกดีกว่า
“ตอนนี้กิ๊บถ่ายละครเรื่องวิวาห์ป่าช้าแตก และถ่ายหนังอีกเรื่องนึง ซึ่งตอนนี้หลายคนก็มีงานอื่นเหมือนๆ กับกิ๊บเช่นกัน กิ๊บว่าแพลนงานเพลงต้องเลื่อนออกไปอีก ซึ่งความจริงมันจะต้องออกเมื่อปลายปีที่แล้ว และกลับมารวมตัวกัน ออกช่วงนี้ แต่กลายเป็นว่าตอนนี้มีอะไรที่ทำยากมาก และเห็นพ้องต้องกันกับผู้ใหญ่ว่า ถ้าทำแล้วไม่ต่างจากเดิมก็อย่าเพิ่งทำดีกว่า และถ้าทำตอนนี้มันออกมาไม่ดีแน่นอน เพราะกิ๊บคิวเต็ม 7 วันแล้ว แต่ยังไงก็ต้องมีแน่นอน”
“ตอนนี้เรายังรวมตัวกันไม่ได้ แต่ละคนแยกย้ายไปทำงานของตัวเองค่อนข้างเยอะ และมาทำงานวงน้อยลงเยอะ ไม่ได้มีปัญหากัน เพราะว่าอยู่กันมานาน และถ้ามันจะแตกก็คงแตกไปนานแล้ว ผู้ใหญ่ก็เรียกไปคุย เพลงก็มีทำแล้ว เสื้อผ้าก็มีแล้ว แต่ไม่ชอบเลย ไม่ใช่จะมาทำอะไรก็ได้เลย แต่คิดว่าน่าจะไม่เกินปลายปีนี้ งานเรามันก็ตันไอเดีย ยังไม่เกิด มันยากจริงๆ ค่ะ และตอนนี้เวลาของแต่ละคนไม่ได้ ทำแล้วไม่เต็มที่ และคิดไม่ออกว่าจะต้องทำออกมายังไงให้คนดูสนุกกับมันได้เต็มที่เพราะเราทำมาเยอะแล้วจริงๆ”
“เราก็คิดกันไว้บ้างแล้วอนาคตว่า ณ จุดนึงต้องมีจุดที่หยุด แต่ไม่ใช่วันนี้และตอนนี้ แต่จะไม่นานนี้แหละ พอถึงจุดนึงที่เราโตขึ้น เพราะเราเองก็ไม่ได้คิดจะออกอัลบั้มแบบนี้ไปเรื่อยๆ มีเปรยๆ กัน แต่ยังไม่ได้คุยกันจริงจัง ต้องรอวันที่เห็นพ้องต้องกันนะคะ ณ วันนี้เราก็ยังต้องทำอะไรต่อไปว่าเรายังเป็นวงเดียวกันอยู่ โตขึ้นแต่ละคนจะมีอะไรที่ทำของตัวเองค่อนข้างเยอะ น่าจะเป็นเรื่องนี้มากกว่า ตอนนี้ต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเองกันไป เราตกลงกันว่าทำอะไรก็ทำที่อยากทำ แล้วตรงนี้คืออะไรที่ทุกคนรัก และอยู่กับมันแต่อาจจะช้า เพราะว่าต้องมีชีวิตของเราแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อน”
ที่มา: manager.co.th