Author Topic: “ซี ศิวัฒน์” โกรธ คนปล่อยข่าวแอบคั่ว “กระแต อาร์สยาม” 2 ปี ยันไม่เคยเกินเลยฝ่ายหญิง  (Read 746 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai






  “ซี” โกรธขึ้นกู คนปล่อยข่าวนอกใจ “เอมี่” แอบคั่ว “กระแต อาร์สยาม” นาน 2 ปี ท้าถ่ายรูปมายัน ไม่เถียงตามไปดูกระแตเล่นคอนเสิร์ตแต่ไม่ได้เฝ้า ส่วนที่คนเห็นไปปาร์ตี้สระน้ำด้วยกัน แค่บังเอิญเจอ ย้อนเดือดกรณีนักร้องสาวไปใส่บาตรตอนตนบวชเป็นพระ มันผิดตรงไหน บอกมีหลายคนไปบ่อยกว่าอีกฝ่ายแปลว่าคนนั้นต้องเป็นเมียตนด้วยล่ะสิ ยันไม่เคยเกินเลยฝ่ายหญิง เผยข่าวดังกล่าวทำทะเลาะเอมี่ ตอนนี้เคลียร์แล้ว ประกาศแต่งปีหน้า
       
       หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่า พระเอกหนุ่ม “ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” แอบนอกใจแฟนสาว “เอมี่ กลิ่นประทุม” ไปคั่วนักร้องลูกทุ่ง “กระแต นิภาพร แปงอ้วน” หรือ “กระแต อาร์สยาม” มานานกว่า 2 ปี ถึงขั้นตามไปเฝ้าถึงคอนเสิร์ต หนำซ้ำนักร้องสาวยังดอดไปใส่บาตรตอนที่หนุ่มซียังบวชเป็นพระอยู่ ทั้งที่ฝ่ายชายเองก็ยังคบกับเอมี่อยู่ รวมถึงประเด็นที่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้สองสาวซัดกันผ่านอินสตาแกรม หลังจากปล่อยเรื่องราวบานปลายมาสักใหญ่ ล่าสุดพระเอกหนุ่มซีทนกระแสโจมตีที่ถาโถมเข้ามาไม่ไหว งานนี้เลยจัดตั้งโต๊ะแถลงข่าวระหว่างเดินทางมาอัดรายการ “จันทร์พันดาว โจ๊ะพรึมพรึม” ที่สตูดิโอ เจเอสแอล ลาดพร้าว 107 โดยเจ้าตัวขอเคลียร์ตัวเองว่า
       
       “ก็ไม่มีอะไรครับ ขอเคลียร์เรื่องนี้ก่อนเลย เมื่อกี้มีคนถามว่าทำไมถึงเพิ่งจะออกมาแถลง คือตั้งแต่แรกเลยนะครับ ไม่คิดว่าจะออกมาแถลงอะไร ก็อยู่ในวงการมาตั้งนาน อย่างมีข่าวกับสาวๆ เนี่ยมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ครั้งแรกที่ได้ยินรู้สึกว่าถ้าจำไม่ผิดผมอยู่ที่หัวหิน กำลังซ้อมละครเวทีอยู่ แล้วมีพี่นักข่าวโทร.มาถามถึงเรื่องข่าวกระแตขึ้นมา ผมก็งงและบอกว่าไม่ได้มีอะไรครับ พร้อมกับบอกว่าถ้าได้มีโอกาสเจอจะอธิบายให้ฟัง”
       
       “ต่อมาก็มีนักข่าวมาถามเรื่องนี้อีก ผมก็ได้ปฏิเสธไปเพราะมันไม่ได้มีอะไรจริงๆ เลยไม่ได้คิดว่าจะมีแถลงข่าวอะไร เดี๋ยวไปออกงานอีเวนต์ก็คงจะได้เจอพี่ๆ นักข่าวแล้วพูดทีเดียว ก็กลายเป็นว่างานที่ตกลงไว้ก็ไม่ได้ไป เลยทำให้เป็นกระแสอีกว่าผมหนีพี่ๆ นักข่าวอีก จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่าไม่ได้หนี คืออยากจะเคลียร์อยู่แล้วพร้อมคุณเอมี่ด้วย ไม่อยากออกมาพูดคนเดียว เหตุที่ไม่ออกมาสักทีเพราะว่ารอให้มีงานตรงกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าได้ตามนะครับ ผมมักจะได้ทำงานต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่”
       
       “เพราะฉะนั้นไม่ได้มีเจตนาจะหนีพี่ๆ นักข่าวหรือเบี่ยงเบนประเด็นอะไรเลย ผมก็รองานมาเรื่อยๆ และพี่ที่จัดงานเขาบอกว่าเดี๋ยวจะมีงานวันที่ 19 นี้ ซึ่งกระแสในอินเทอร์เน็ตมันแรงมาก ก่อนที่ผมจะโพสต์อินสตาแกรมวันนั้น คุณเอมี่ได้เอาข่าวจากกระทู้ในอินเทอร์เน็ตมาให้ผมดู ด่ากันรุนแรงมากซะจนผมรู้สึกว่ามันรอไม่ได้แล้ว ผมเลยต้องออกมาโพสต์อินสตาแกรม”
       
       “แล้วหลังจากนั้นก็ยังไม่จบอีก ทำให้ผมรอวันที่ 19 ไม่ได้แล้ว ก็ควรออกมาให้สัมภาษณ์พี่ๆ นักข่าวทุกคน แต่วันนี้ถ้าถามจากใจ ผมไม่ได้อยากออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะว่าผมอยากจะให้สัมภาษณ์พร้อมกันกับเอมี่ด้วย ออกมาคนเดียวมันเหมือนกับแก้ตัว เพราะระยะเวลามันก็นานมาขนาดนี้แล้ว แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวผมคนเดียว มันเกิดขึ้นกับครอบครัวของเอมี่ด้วย และที่สำคัญเกิดขึ้นกับน้องกระแตด้วย ในฐานะที่เราเป็นผู้ชายก็ควรจะออกมาแถลงข่าว ผมเคลียร์เลยว่าผมไม่ได้มีเจตนาจะให้เรื่องราวมันเลยเถิดขนาดนี้”
       
       ยอมรับสนิทกับ “กระแต” มา 2 ปีแล้ว
       “ซึ่งที่เรารู้จักกันน่าจะประมาณ 2 ปีนะครับ แต่ครั้งนั้นไม่ได้สนิทกันเลย เพิ่งมาสนิทช่วงหลังๆ ตอนขึ้น 7 สีคอนเสิร์ต คือเราทำงานด้วยกันหลายครั้งพอสมควรครับ ได้มีโอกาสไปเจอน้องกระแตและกระต่ายด้วย ยังชื่นชมน้องเขาว่าเอ็นเตอร์เทนเก่ง เราเจอกันหลายครั้ง จริงๆ ไม่ได้มีกระแสอะไรเลยจนมีอินสตาแกรมเกิดขึ้น เหมือนพี่ๆ นักข่าวสงสัยกันว่าอินสตาแกรมของทั้งคู่ว่ามันอะไรกันแน่ แต่ว่ามันมีคนๆ หนึ่งมาโพสต์ในอินสตาแกรมผม ว่าเห็นซีไปดูคอนเสิร์ตกระแตที่อินซอมเนียพัทยาไปหลังเวทีด้วย รู้จักกันเหรออะไรสักอย่าง ซึ่งผมเห็นแล้ว ผมอยากจะบอกว่าถ้าผมไปเฝ้ากระแตจริง ผมไม่ได้ชี้นำนะ ผมจะบ้าปัญญาอ่อนเดินเข้าไปในร้านเพื่อ ผมไปนั่งในรถดีกว่าไหม ผมไม่ได้โด่งดังอะไร แต่ว่าวันนั้นผมไปคนเห็นผมหมด ไปดูตารางได้เลยว่าผมถ่ายละครอยู่ที่พัทยาหรือไม่”
       
       “แล้ววันนั้นผมต้องไปขึ้น 7 สีคอนเสิร์ต ซี ซิวัฒน์ จัดเต็ม ผมไม่มีเวลาซ้อม ผมต้องเลือกศิลปินมาร่วมงานเอง ผมก็คุยกับเอมี่พอดี ว่ากระแตเล่นอยู่ที่นั้น ผมก็โทร.ไปบอก แต่จริงๆ ผมเลือกศิลปินอยู่หลายท่าน ผมก็เลยเลือกคนที่ผมเคยร่วมงานมาก่อน ก็มีพี่ยิ่งยง ยอดบัวงาม พี่ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ และพี่เอกชัย ศรีวิชัย แต่พี่เอกชัยไม่ว่าง จึงขาดคน ผมเลยเลือกคนที่ร้องเพลงและเอ็นเตอร์เทนคนได้ด้วย แน่นอนหนึ่งนั้นก็คือกระแต-กระต่าย”
       
       “เอมี่ก็รับทราบดีครับ นี่ก็เป็นประเด็นอย่างหนึ่งว่าผมมีการบอกเอมี่หรือไม่ เพราะการมาพูดคนเดียวก็เหมือนแก้ตัว จริงๆ ผมมีเบอร์ทั้งคุณแม่กระแต เบอร์น้องแล้วก็เบอร์กระต่าย แต่เวลาคุยผมมักจะโทร.หาแม่มากกว่าน้องด้วยซ้ำ วันนี้ถามได้เลยผมยังถ่ายรูปกับพนักงานในร้าน ถ่ายรูปกับคนในร้านด้วยซ้ำ แล้วทำไมต้องไปคอมเมนต์แบบนั้น บอกว่าไปเฝ้าแอบคุยกันสองต่อสอง ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ่ายรูปมาให้กูดูหน่อยเถอะ โกรธๆ ไม่ได้โกรธหรอก แต่ผมมองในมุมที่ว่าเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น ผมจำเป็นต้องเล่าเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพ”
       
       ส่วนประเด็นตามไปหา “กระแต” ถึงที่บ้านนั้น เจ้าตัวเคลียร์ว่า
       “แล้วทำไมครับ ก็ไอ้เขาคนนี้คือใคร ผมไม่ได้ไปครับ ผมแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาพูดแบบนี้ ผมอยากจะถามว่ารู้ได้ไง เห็นได้ไง เห็นก็ถ่ายรูปมาดิจะได้จบ คือถ้าพูดกันจริงๆ คือเรื่องมันไม่มีอะไรเลย แค่คนๆ เดียวออกมาพูด พูดให้ดีก็ดี ถ้าพูดให้ไม่ดีก็ไม่ดี ถ้าเกิดคุณจะมาพูดว่านั่งคุยสองต่อสองก็ไม่แปลก วันนั้นไม่ได้ไปนั่งเฝ้าครับ”
       
       ย้อนกรณี “กระแต” ไปใส่บาตรทุกวันตอนตนบวชเป็นพระมันผิดตรงไหน
       “แล้วทำไมทุกคนก็ไปตักบาตร แล้วมันผิดตรงไหน บอกว่าไปตักบาตรทุกวันรู้ได้ไงว่าไปตักบาตรทุกวัน แต่ว่าไปนะครับ แต่ว่าไม่ได้ไปทุกวัน เพราะฉะนั้นแล้ว มันมีหลายคนที่ไปตักบาตรผมมากกว่าเขาอีก แปลว่าคนนั้นที่ไปตักบาตรมากกว่าเขาคนนั้นก็ต้องเป็นเมียผมด้วยสิ ผมว่าไอ้เรื่องของการทำบุญเนี่ย แล้วแต่ว่าใครจะคิด”
       
       อ้างไปปาร์ตี้สระน้ำกับสาว “กระแต” บังเอิญเจอ แต่ไม่ได้ไปต่อด้วยกัน
       “อันนั้นเป็นปาร์ตี้เพื่อนผมเองครับ คนไปผูกเรื่อง ผมไม่อยากพูดไม่อยากแก้ แต่ว่าไม่ได้ไปด้วยกัน แต่ว่าได้เจอน้องจริงๆ แต่ไม่ได้ไปปาร์ตี้กันต่อครับ ไม่จริงเลยต่างคนต่างกลับครับ”
       
       เผยมีโทร.ไปเคลียร์กับ “กระแต” ตั้งแต่มีข่าวช่วงแรกๆ
       “โทร.ไปตั้งแต่มีข่าวในช่วงแรกๆ และหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุย เพราะมันไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ เวลาผมมีข่าวกับผู้หญิงที่เป็นสาวๆ ผมก็พูดให้ฟังแบบชิลล์ๆ แต่วันนี้ไม่ได้แล้วเพราะว่าด้วยคอมเมนต์ที่อ่าน พอโทรน้องก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนนั้นข่าวยังไม่ได้รุนแรงถึงขนาดนี้ ก็ถามว่าแม่ซีเรียสไหม ก็ฝากขอโทษแม่ด้วยนะ ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร เราสนิทกัน ก็ไม่เป็นไร ผมกลัวอย่างเดียวว่าถ้าใครที่จะมาร่วมงานกับผมต่อไปต้องมานั่งเกร็งลำบากไม่อยากไปไหนมาไหนด้วยกัน กลัวจะมีปัญหาหรือเปล่า แต่ตอนนี้ไม่ได้คุยกับน้องเลยครับ เพื่อความสบายใจของคุณเอมี่ด้วย”
       
       “และถ้าถามว่าผมไม่ได้ติดต่อไปน้องมีติดต่อมาไหม ก็ไม่เลยครับ เขาก็คงเกรงใจ แต่ไม่มีปัญหาอะไรครับ ถ้าพูดถึงฝั่งครอบครัว ก็กราบขอโทษครอบครัวของเอมี่ด้วย ถ้าเกิดทำให้ไม่สบายใจ รวมทั้งครอบครัวของน้องกระแตด้วย ถ้าหลังจากนี้มีคอมเมนต์อะไรหรือว่าอะไรที่ยังไม่เคลียร์ก็มาถามผมได้ ผมก็ไม่รู้ว่าทำยังไง ก็มาว่าผมได้คนเดียว ผมก็เป็นผู้ชาย ฝั่งโน้นก็เป็นผู้หญิง ความรู้สึกของเอมี่และครอบครัวเขาที่มีความเชื่อมั่นในความรักของผม อีกฝั่งหนึ่งคือน้องกระแตที่เขาทำงานของเขา และวันหนึ่งมาร่วมงานกับผมปุ๊บก็มีปัญหาเสียจนคนทั้งประเทศไปตัดสินเขาขนาดนั้น ผมว่ามันไม่แฟร์แค่นั้นเอง”
       
       พอมีข่าวเกิดขึ้น “เอมี่” หวั่นไหวและทะเลาะกัน
       “คือเราไม่เคยมีปัญหากันเลยนะ จนกระทั่งว่ามีคอมเมนต์ออกมาไปดูหนังช็อปปิ้งอะไรกันออกมาอีก ผมจึงต้องออกมาพูด จากที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องความรักกันเลย จนมีกระแสเยอะเป็นใครก็รู้สึกมันเลยเป็นที่มาที่ไปของการโพสต์อินสตาแกรม ขอบคุณผู้หวังดีทั้งหลายด้วยที่ไปบอกอะไรทั้งๆ ที่ผมอยากจะรู้ว่าเห็นกับตาหรือเปล่า แล้วไอ้ที่บอกเขาๆ ช่วยบอกผมหน่อยเถอะใคร เขาบอกมาเขานี่ใคร ช่วยพามาหน่อย วันหลังเห็นอย่าเห็นอย่างเดียว ถ่ายรูปมาให้กูดูด้วย”
       
       “ซึ่งเอมี่มีการหวั่นไหวกับข่าวแน่นอนสิครับ เราก็มีทะเลาะกันครับ มีครับแต่ไม่ได้รุนแรง ก็มีการคุยการเคลียร์กัน เพราะผมอ่านคอมเมนต์แล้ว ผมมีความรู้สึกว่ามันเศร้าใจ เคลียร์กับเอมี่เรียบร้อยแล้วครับไม่มีอะไรเลย เอมี่เข้าใจแล้วครับ ผมยืนยันเลยครับว่ายังรักกันดีเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เอมี่เขาก็พารานอยด์บ้าง เพราะว่าคนพูดเป็นเสียงเดียวกันหมด”
       
       “เรื่องการโพสต์อินสตาแกรมในรูปมันเหมาะไม่เหมาะ มันขึ้นอยู่กับความคิดของคุณเท่านั้นเอง ทุกคนมีสิทธิ์ออกความเห็นได้ ตราบใดที่นิ้วมือไม่เท่ากัน ความคิดของคนก็แตกต่างกัน แต่จะพูดอะไรออกไปเราต้องรับผิดชอบคำพูดของเรา อย่าลืมว่าถ้าบอกว่าทำไมถึงปล่อยให้เรื่องบานปลายขนาดนี้ ก็เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของเขาไง เขาจึงสามารถพูดอะไรก็ได้ อย่าลืมว่าคุณกำลังเล่นกับความรู้สึกคนอยู่ เราไม่ใช่เครื่องจักร เรามีความรู้สึก ความจริงเป็นยังไงมีผม มีเอมี่ มีกระแตเท่านั้นที่รู้”
       
       บอกไม่จำเป็นที่สองสาวจะต้องเคลียร์กัน ไม่เชื่อซัดกันผ่านอินสตาแกรมมาแล้ว
       “ลองถามเขาดูครับว่าเขามีการเคลียร์กันหรือยัง แต่ผมว่ามันไม่มีอะไรต้องเคลียร์ เพราะว่าผมได้คุยกับเอมี่แล้วเขาก็เข้าใจว่าไม่มีอะไร ไม่เคลียร์กันครับ เพราะไม่มีอะไรต้องเคลียร์ เพราะหลังจากมีข่าวผมก็เคลียร์ไปแล้ว ถ้าจะเคลียร์ผมต้องเคลียร์กับเอมี่มากกว่า”
       
       “แล้วในเรื่องของอินสตาแกรมผมต้องถามกลับไปว่า มั่นใจขนาดไหนว่าทั้งคู่พูดถึงกันและกัน เพราะว่าผมไม่อยากจะชี้นำ คือถ้าไปตามดูอินสตาแกรมน้องจริงๆ น้องเป็นคนที่ทำบุญทำทานมานานแล้ว แต่มีหลายคนที่พูดว่าจะทำบุญสร้างภาพทำไม ถ้าเราเป็นคนทำบุญจริงๆ มีคนมาพูดแบบนี้จะรู้สึกยังไง ถ้าดูจริงๆ ในเรื่องของอุปสรรคที่เอมี่ขึ้น มันเป็นหลังจากที่เราเคลียร์กันแล้ว เอมี่เขาเลยขึ้นแบบนั้น คนคบกันก็มีอุปสรรคเป็นธรรมดา เขาเข้าใจกันผิด”
       
       อึกอักประเด็นคนมอง “กระแต” ชอบตนจริงๆ
       “หน้าตาดีมากเลย ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมเคลียร์เลยว่ามันไม่มีอะไรในทำนองแบบนั้นแน่นอนครับ อีกเรื่องหนึ่งไอ้ที่ส่งว่าอยากกอดที่รักอะไรในไลน์ รู้ได้ไงวะ เห็นแล้วเอาออกมา วันนี้บอกเลยนะครับว่าผมกับเอมี่ยังรักกันอยู่ และได้เคลียร์ปัญหาเรียบร้อยแล้ว ผมเคลียร์ไปหมดแล้ว แต่เอมี่กับน้องคงไม่ได้ต้องมีอะไรเคลียร์กัน ผมทำงานของผม น้องก็ทำงานของน้องต่างคนต่างทำงาน ถ้าวันหนึ่งกลับมาร่วมงานได้ไหม ได้ครับเพราะผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน หลังจากนี้ก็คงต้องระวังมากขึ้นว่าจะเป็นยังไง”
       
       ย้ำความสัมพันธ์กับ “กระแต” ไม่มีในเชิงชู้สาว
       “เป็นแค่พี่น้องครับ ไม่มีทางชู้สาวครับ ผมยืนยันตรงนี้เลยว่าผมไม่ได้ทำอะไรเกินเลย ผมรู้ลิมิตของผมว่าผมทำอะไร แล้วสำหรับน้องกระแตผมไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปกว่าที่ผมพูดเลยครับ (เคยไปไหนมาไหนด้วยกันไหม?) สองต่อสองไม่เคยครับ ไม่เคยเลย ไปเต้นไปซ้อมเต้นเป็นกลุ่มไปครับ”
       
       ยันไม่มีผลกระทบต่องานแต่งงาน
       “ไม่มีครับ แต่ว่าไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ เป็นปีหน้าครับ ไม่มีครับเพราะเคลียร์เรียบร้อยแล้ว”
       
       พร้อมฝากถึงแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายที่ต่อว่ากันแรง
       “ก็อยากจะบอกว่า ถ้าอยากจะพูดถึงใคร จะตัดสินอะไรใคร จะต้องมั่นใจก่อนว่า เรื่องที่เรารู้มาหรือเห็นกับตามันจะต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าคุณฟังคนอื่นหรือว่าได้แค่ข่าวมา คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอันไหนจริง อันไหนไม่จริง แต่กลับมาตัดสินคนอื่น หรือว่าใครบางคนที่เขามีความคิดเห็นแตกต่างกับเรา ก็มาสาดความรู้สึกใส่กัน ผมว่าควรใจเย็นๆ กันนะครับ ถ้าเรามองโลกในแง่ดีและไม่ได้เป็นแบบนั้น อย่างที่ผมอธิบายไป มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างที่เป็นข่าวเลยด้วยซ้ำ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)