“ญาณธน สิมะวานิชกุล” นายใหญ่คนใหม่โนเกียไทย ตั้งเป้าพาโนเกียกลับมาเป็นผู้นำในตลาดอีกครั้ง วางกลยุทธ์ใหม่บนความพร้อมของโปรดักต์และพาร์ตเนอร์ เพื่อให้ครอบคลุมทุกตลาดโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นตลาดหลักของโนเกียมาก่อน พร้อมเปิดตัวโปรดักต์ใหม่หลายรุ่น นายญาณธน สิมะวานิชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) คนใหม่ที่เป็นคนไทยหลังโนเกียมีแต่ต่างชาติคุมอำนาจบริหารสูงสุด นับตั้งแต่นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ลาออกไปให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางธุรกิจโนเกีย ประเทศไทย ว่าเป้าหมายของโนเกียประเทศไทยคือกลับเป็นมาเป็นผู้นำในตลาดอีกครั้งเหมือนในอดีต แต่จะถามว่าเมื่อไหร่นั้นยังตอบไม่ได้ คงต้องใช้เวลาและเป็นไปตามสเต็ปที่วางไว้
ญาณธนย้ำว่า ความมั่นใจของเขาวางอยู่บนการมองเห็นความพร้อมของโนเกียในปัจจุบันทั้งในแง่โปรดักต์ และกำลังเสริมจากพาร์ตเนอร์
“มาถึงวันนี้โนเกียไม่ได้ขายแต่ตัวโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ขายไปพร้อมแอปพลิเคชัน เรามีการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ ให้ทั้งเขาและเราประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ในขณะที่ลูกค้าก็ได้รับความสะดวก ชอบแอปฯ ตัวไหนซื้อง่ายจ่ายเงินในรอบบิลเดียวกันได้ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตให้กังวลใจ”
สิ่งที่โนเกียต้องทำในขณะนี้คือ การสร้างแบรนด์โนเกียให้กลับมาโด่งดังอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น เสริมในส่วนที่เป็นจุดเด่น และแก้ไขในส่วนที่เป็นข้อด้อย รวมทั้งสร้างความพึงพอใจให้เกิดกับคนทุกกลุ่ม
“เมื่อพูดถึงความเป็นผู้นำ การเป็นเบอร์หนึ่ง ต้องให้มีความชัดเจนว่าเป็นเบอร์หนึ่งในด้านไหน แง่ไหน ทุกวันนี้โนเกียมีการวางแผนกันเป็นรายวัน รายสัปดาห์ ทั้งแผนในระยะสั้นและระยะยาว แต่ที่สำคัญก็ต้องขึ้นอยู่กับตลาดด้วย”
นายญาณธนกล่าวต่อว่า จากการเปิดตัวของโนเกีย 920 ทำให้โนเกียกลับมาติดตลาดอยู่ในสมรภูมินี้อีกครั้ง ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด นับถึงวันนี้ก็ยังผลิตไม่ทันขาย ลูกค้ายังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าโนเกียจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างชื่อในเรื่องความทนทาน และคุณภาพ โดยในปีนี้จะมีการเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ๆ ออกมาอีกหลายรุ่น ทั้งโมบายโฟนในตลาดทั่วไปและสมาร์ทโฟนจับตลาดบน
เริ่มจากการเตรียมเปิดตัว 3 โปรดักต์ใหม่ คือ โนเกีย 105, โนเกีย 301 และ ASHA 310 เริ่มจาก โนเกีย 105 หน้าจอสี กันน้ำ กันฝุ่น วิทยุ FM ไฟฉาย มี 2 สี ดำและฟ้า ทำตลาดในราคา 600 บาท ประมาณไตรมาส 2 ของปีนี้ ตามมาด้วยโนเกีย 301 รองรับ 3G กล้อง 3 ล้านพิกเซล มีลูกเล่นที่ถ่ายภาพได้ต่อเนื่อง พร้อมแชร์ข้อมูลผ่านบลูทูธได้ คาดทำตลาดในไทยประมาณเดือน พ.ค.-มิ.ย.ปีนี้ ราคาประมาณ 3,000 บาท อีกรุ่นเป็น ASHA 310 เป็นดูอัลซิม ไว-ไฟในตัว ทำตลาดสัปดาห์หน้า ราคาประมาณ 3,150 บาท
นอกจากนี้ โนเกียยังเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีก 2 รุ่น เสริมความต้องการลูกค้าที่รอคอยสมาร์ทโฟนที่ราคาถูกกว่า 920 เริ่มจาก ลูเมีย 720 ทำตลาดในราคา 11,000 บาท เด่นที่ดีไซน์ บางเพียง 9 มิลลิเมตร เลนส์คาร์ไซส์ รูรับแสง F 1.9 ช่วยให้รับแสงได้ดีทำให้สามารถถ่ายภาพในที่มืดได้ดียิ่งขึ้น ทำตลาดประมาณปลายเดือน มี.ค. มี 5 สีให้เลือก คือ เหลือง แดง ดำ ขาว ฟ้า อีกรุ่นเป็นลูเมีย 520 ราคาประมาณ 6,000 บาท เด่นที่หน้าจอใหญ่ 4 นิ้ว เป็นวินโดวส์โฟนราคาถูกสุดของโนเกีย
ในส่วนของแอปพลิเคชัน โนเกียจะให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับนักพัฒนาเพื่อให้มีแอปพลิเคชันบนโนเกียมากขึ้น อย่างการร่วมมือกับไมโครซอฟท์เพื่อเจาะตลาดกลุ่มนักธุรกิจด้วยแอปพลิเคชันใหม่ๆ โดยจะเน้นความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากค่ายอื่น
เมื่อถามของการทำตลาด 4G ญาณธนกล่าวว่า โนเกียเป็นเจ้าแรกที่ TOT และ TRUE นำลูเมีย 920 และ 820 ไปทดสอบ 4G นอกจาก 2 รุ่นนี้แล้วภายในปีนี้จะมีอีกหลายรุ่นที่เป็น 4G เข้ามาทำตลาดแต่ก็มองว่ายังไม่ต้องรีบร้อนเพราะ 4G ยังเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่ต้องการใช้ดาต้าปริมาณมากๆ ซึ่งยังต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงจะเข้าถึงคนส่วนใหญ่
Company Relate Link :
Nokia
ที่มา: manager.co.th