นายปรัธนา ลีลพนัง (ใส่สูท)
นายปรัธนา ลีลพนัง รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์ และบริการดิจิตอล เอไอเอส ให้ข้อมูลว่า การจัดโครงการ Starup ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรมากขึ้น ซึ่งแต่ละภาคส่วนก็มีความสำคัญแตกต่างกันไป ในส่วนของเอไอเอสเองก็เปรียบเสมือนเป็นปลายท่อของโครงการให้แก่ผู้เข้าร่วมที่จะจำหน่ายแอปพลิเคชันที่พัฒนาไปยังตลาดขนาดใหญ่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
"นอกจากฐานลูกค้าเอไอเอสกว่า 36 ล้านรายแล้ว กลุ่มพันธมิตรใน Singtel ที่มีฐานลูกค้าอีกเกือบ 500 ล้านราย ก็ถือเป็นอีกตลาดหนึ่งที่เชื่อว่านักพัฒนาที่เข้าร่วมจะได้นำแอปพลิเคชันเข้าไปวางจำหน่ายด้วย"
เอไอเอส มองว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มบริษัทนักพัฒนารายใหญ่ๆในประเทศมีอยู่เพียง 250 กว่ารายเท่านั้น การเปิดโครงการนี้จึงเป็นการช่วยขยายฐานบริษัทนักพัฒนาให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้มากขึ้น ซึ่งจากการจัดงานในครั้งที่ผ่านมา ทำให้มีกว่า 300 บริษัทย่อย ที่เข้ามาร่วมพัฒนาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 30 แอปพลิเคชันทั้งที่เริ่มวางจำหน่ายแล้ว และกำลังจะออกวางจำหน่ายกับเอไอเอส
"ปีที่ผ่านมามีบริษัทรายย่อยเข้ามาร่วมกับเอไอเอสทั้งในและนอกโครงการราว 300 ราย ส่วนปีนี้คาดว่าทั้งปีน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 700 ราย ส่วนในโครงการนี้เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้สมัครเข้ามาราว 400 คน ก่อนแบ่งเป็นทีมเพื่อคัดเลือกให้เหลือ 25 ทีม และ 5 ทีมตามลำดับ"
โดยในครั้งนี้ เอไอเอสได้รับความร่วมมือและการสนับสนุน จากหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งซิป้า ซอฟต์แวร์ปาร์ค เนคเทค อินเวนท์ ธนาคารกสิกร ไมโครซอฟท์ และโนเกีย รวมกับพาร์ทเนอร์ด้านสื่อออนไลน์ Thumpsup พาร์ทเนอร์ด้านการให้คำปรึกษาธุรกิจ StartUp อย่าง EGGidea Business Incubator และคอมมูนิตี้อย่าง HUBBA มาร่วมสร้างกลุ่มนักพัฒนาชาวไทยให้เข้มแข็งมากขึ้น
สำหรับงาน “AIS The StartUp Weekends 2013” เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาชาวไทย ได้สมัครเข้าร่วมแสดงความคิด ประกวดสร้างแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อพัฒนาเป็นสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าเอไอเอส ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย 3 ส่วน คือ 1. “AIS The StartUp Weekends” ใช้เวลา 2 สัปดาห์ แบ่งเป็นรอบคัดเลือกผู้ที่มีความรู้เฉพาะด้านต่างๆ มาจับกลุ่มเพื่อทำเวิร์คช้อปร่วมกัน โดยคัดเลือกเหลือ 25 กลุ่ม จากนั้นเข้าสู่รอบ Pitching เพื่อคัดเลือก 5 ทีม
ซึ่งทั้ง 5 ทีมจะได้รับรางวัลทุนพัฒนา ทีมละ 200,000 บาท และการสนับสนุนจากพันธมิตรอีกมากมาย เช่น Microsoft Bizspark พร้อมทั้ง Windows Azure Cloud ฟรี เป็นเวลา 1 ปี (มูลค่า 4,000,000 บาท/ ทีม ), พื้นที่ออฟฟิศทำงานเวลา 3 เดือน จาก HUBBA (มูลค่า 60,500 บาท/ทีม) และอบรมเวิร์คช้อปกับ Nokia Window Phone 2 วัน (มูลค่า 10,000 บาท/ทีม)
2. “AIS The StartUp Boot Camp” จัดหลักสูตรอบรมเข้มข้น ตลอดกว่า 3 เดือน จากทั้งวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาให้ความรู้แบ่งปันประสบการณ์ ทั้งในเชิงเทคโนโลยีและเชิงธุรกิจการลงทุน
โดยผู้ประกอบการที่สำเร็จหลักสูตรจากโครงการนี้ จะต้องมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถออกสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์ได้ และทีมชนะเลิศ 1 ทีม จาก Boot Camp จะได้รับทุนพัฒนาเป็นเงิน 600,000 บาท พร้อมการสนับสนุนด้านแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์จากเอไอเอส มูลค่า 3,000,000 บาท
"งานครั้งที่ผ่านมาเรานำทีมชนะเลิศไปเข้า Boot Capm ที่สิงค์โปร์ แต่ในงานครั้งนี้ทางเอไอเอสจะจัดงานขึ้นในประเทศไทย ด้วยการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศในมาตรฐานระดับเดี่ยวกันมาแทน เพื่อให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 5 รายสามารถผลิตแอปพลิเคชันออกมาวางจำหน่ายหลังจบโครงการได้ทันที"
3. “AIS The StartUp Investor Day” เชิญนักลงทุน และพันธมิตรธุรกิจจากทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาร่วมฟังการนำเสนอผลงานของผู้ประกอบการที่ผ่านกิจกรรม AIS The StartUp Weekends 2013 นี้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสครั้งสำคัญในการพบปะ พูดคุย ตลอดจนได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนอย่างเอ็กซ์คลูซีฟ
"กลุ่มนักลงทุนที่เข้าร่วมกับเอไอเอสในครั้งนี้ นอกจากกลุ่ม อินเวนท์ในเครือบริษัท อินทัชแล้ว ยังมีกลุ่มพาร์ทเนอร์จากสิงเทลอย่าง INNOV8 รวมถึงนักลงทุนจากธนาคารกสิกรไทย ทำให้เชื่อว่าถ้านักพัฒนาสามารถนำเสนอผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ก็จะมีนักลงทุนเข้ามาช่วยเหลือแน่นอน"
Company Relate Link :
AIS
ที่มา: manager.co.th
