คณะอนุกรรมการ USO เล็งปรับลดค่าธรรมเนียมลงจากเดิม 3.75% ชี้มีปัจจัยเรื่องการเปิดให้บริการ 3G และการสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน พร้อมชงเรื่องคูปองสนับสนุนเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลเข้าบอร์ดกองทุน USO 8 ก.พ.นี้ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า คณะอนุกรรมการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) เตรียมเสนอบอร์ดคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เพื่อพิจารณาทบทวนปรับปรุงร่างหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรายได้เข้ากองทุนฯ จากเดิมที่มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมนำส่งเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนาอัตรา 3.75% ของรายได้ต่อปี เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับข้อเท็จจริง และส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอ็สเอ็มอี) ให้สามารถแข่งขันได้
“ค่าธรรมเนียม USO ปัจจุบันเป็นไปตามประกาศฯ ชั่วคราวที่มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในอัตรา 3.75% ของรายได้ต่อปี ซึ่งจะใช้ไปจนถึงสิ้นปี 56 และพอเริ่มปี 57 การจ่ายค่าธรรมเนียมโทรคมนาคมจะมีการปรับเปลี่ยนไปเนื่องจากปัจจัยการจ่ายค่า USO จะไม่ผ่านเจ้าของสัมปทานแต่จะผ่านเข้ามาที่ กสทช.โดยตรง ขณะเดียวกันคาดว่ากลางปี 56หลังจากที่มีการให้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 3Gดังนั้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการก็จะต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะเริ่มเข้าสู่ประกาศฉบับใหม่ในปีหน้า”
ทั้งนี้ ผลการจัดเก็บรายได้เข้ากองทุน USO ของปี 2555 งวด 7 เดือนตั้งแต่ มิ.ย. 2555 ถึง 31 ม.ค. 2556 จัดเก็บได้ 2,720 ล้านบาท โดยปัจจุบันเงินกองทุน USO มียอดยกมาจากปี 2554 จำนวน 2,900 ล้านบาท ซึ่งได้นำมาทำโครงการ USO นำ ร่องให้บริการฟรีไว-ไฟใน 2 จังหวัด คือ หนองคาย และพิษณุโลก จำนวน 500 ล้านบาท
“สำหรับโครงการนำร่อง 2 จังหวัดนั้นจะใช้การประกวดราคาซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศ TOR ได้ประมาณต้นไตรมาสที่ 2 หรือในช่วง เม.ย.ของปีนี้ โดยในตอนนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม พ.ศ. …”
ขณะที่แผนงานและเป้าหมายของ USO ระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2555-2559) ที่ส่วนใหญ่มีเนื้องานหรือเป้าหมายตามแผนงานรัฐบาลที่ได้ประกาศแผน Smart Thailand สอดคล้องกับโครงการUSO นั้นเนื่องจากเป็นงานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งเป้าหมายการให้บริการในแต่ละพื้นที่จะไม่แตกต่างกันมาก โดยแผนงาน USO ของ กสทช.มีเป้าหมายที่จะให้คนไทยได้ใช้บริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึงและครอบคลุม โดยบริการเสียงครอบคลุม 99% บริการอินเทอร์เน็ตครอบคลุม 80% ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายใน 5 ปี จากปัจจุบันอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีเพียง 35%
พล.อ.สุกิจกล่าวอีกว่า คณะอนุกรรมการ USO ยังได้จัดตั้งศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียนและชุมชุน (USO NET) เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานตามความนิยมของประชาชนในพื้นที่เป้าหมายโดยกำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่จัดตั้งศูนย์ โดยต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือนิติบุคคล เช่น สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนต่างๆ
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการจัดตั้ง USO NET โรงเรียนจำนวน 218 แห่งแล้วจากทั้งหมดจำนวน 520 แห่ง โดยตามแผนต้องจัดตั้งให้ครบทั้งหมดภายในเดือน ก.พ.นี้ และ USO NET ชุมชนและสังคม ดำเนินการจัดตั้งแล้ว 32 แห่ง จากทั้งหมด 417 แห่งที่จะต้องให้แล้วเสร็จเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ พร้อมทั้งขยายบริการโทรศัพท์สาธารณะในสถาศึกษา ศาสนสถาน และสถานพยาบาล อีกจำนวน 2,359 เลขหมาย
คูปองทีวีดิจิตอลเข้าบอร์ดกองทุน USO 8 ก.พ.นี้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ในฐานะกรรมการและเลขานุการกองทุน USO กล่าวว่า ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ คณะกรรมการกองทุน USO จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติแนวทางการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เสนอเข้ามาก่อนที่จะนำมติของคณะกรรมการกองทุน USO ส่งให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณาต่อไปในวันที่ 13 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ บอร์ด กสท ได้เสนอให้มีการนำเงินที่เป็นราคาตั้งต้นการประมูลช่องทีวีดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจ นำมามาแจกจ่ายเป็นคูปองส่วนลดให้ประชาชนนำไปซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ หรือ กล่องแปลงสัญญาณ (เซตท็อปบอกซ์) อย่างเท่าเทียมกัน โดยจะแจกให้ประชาชนทั้งหมดราว 22 ล้านครัวเรือนขณะที่เงินส่วนเกินจากราคาตั้งต้นที่ได้หลังจากจบการประมูลจะนำเข้าสมทบในกองทุน USO ทั้งหมด
นอกจากนี้ ที่ประชุมกองทุน USO เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2556 มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินกองทุน USO ประจำปี 2556 ภายใต้วงเงิน 250 ล้านบาท จากเดิมที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2556 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2556 เป็นเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2556 จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจมีโอกาสเข้ามาขอรับการส่งเสริมและสนับสนุน เงินจากกองทุนฯ โดยเบื้องต้นตั้งแตวันที่ 17 มกราคม 2556 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2556 ได้มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุน เข้ามาแล้วจำนวน 33 โครงการ รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 453.95 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการกองทุน USO จะต้องพิจารณาคัดเลือกอีกครั้ง
Company Related Link :
กสทช
ที่มา: manager.co.th