แม้ปี 2012 จะเป็นปีที่ตลาดไอทีมีการเติบโตต่อเนื่องบนผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมและนวัตกรรมบริการที่โดนใจคนทั่วโลก แต่เหรียญย่อมมี 2 ด้าน ตลอดปี 2012 ที่ผ่านมานั้นมีเรื่องราวและเหตุการณ์น่าผิดหวังเช่นกัน ทีมงานไซเบอร์บิซและสำนักข่าวทั่วโลกมองว่านี่คือ 6 อันดับเรื่องน่าผิดหวังบนโลกไอทีปี 2012 ซึ่งเชื่อว่าทุกเรื่องจะถูกนำมาปรับปรุงให้ดีกว่าในปีงูทอง 2013 อันดับที่ 6 BlackBerry 10 BB10 ที่รอมานานแสนนาน แม้ว่าในงานแบล็คเบอร์รี่ แจม 2012 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ริม หรือรีเสิร์ช อิน โมชัน จะยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า ภายในปี 2013 BlackBerry 10 หรือบีบี 10 จะได้รับการตัดสายสะดือแล้วโผล่ออกมาในโลกไอทีอย่างแน่นอน แต่ต้องยอมรับว่าบีบี 10 เป็นโครงการที่ถูกเลื่อนแล้ว เลื่อนอีก จนทำให้บีบี 10 ถึงถูกจัดเป็นนวัตกรรมน่าผิดหวังแห่งปี 2012
ความล่าช้าของบีบี 10 ยิ่งทำให้เกิดระยะห่างระหว่างริมกับคู่แข่งตัวฉกาจรายอื่น อาทิ ไอโอเอส และแอนดรอยด์ มิหนำซ้ำเวลานี้วินโดวส์โฟน ระบบปฏิบัติการตัวความหวังของไมโครซอฟท์ก็ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วด้วยผ่านผู้ผลิตที่เป็นพาร์ทเนอร์ชิปกันอย่าง โนเกีย เอชทีซี และซัมซุง
ที่สำคัญ จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าวางเดิมพันว่า บีบี 10 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ QNX เมื่อถือฤกษ์วางจำหน่ายทั่วโลก จะสามารถบุกตลาดได้ดีอย่างที่ริมคุยเอาไว้จริงหรือไม่ ถ้าออกมายอดเยี่ยม ถือว่าริมชนะเดิมพันครั้งใหญ่ในธุรกิจสมาร์ทโฟน แต่ถ้าไม่งานนี้ริมเสียรังวัดแน่ๆ
อันดับที่ 5 ASUS PadFonePadFone คอนเซปต์ดี แต่ยอดขายแป้ก Transformer แต่โดยพลันที่เอซุส เปิดตัวสมาร์ทโฟนนามว่า PadFone ทำให้ความเป็น Transformer สมบูรณ์แบบขึ้น เพราะ PadFone เป็นสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้สามารถที่จะแปลงมาเป็นโน้ตบุ๊ก และแท็บเล็ตได้
สิ่งที่ทำให้ PadFone ถูกมองว่าน่าผิดหวังนั้นมีหลายจุด เพราะแม้ว่าจะเป็นกระแสร้อนถูกจับตามองอย่างมากในตลาด แต่เมื่อ PadFone วางจำหน่ายทำตลาดจริง เสียงตอบรับกลับไม่เป็นดังหวัง ส่วนหนึ่งคือราคาจำหน่ายที่่ค่อนข้างสูง (ราคาทั้งชุดตกอยู่ที่ 29,990 บาท) หากซื้อเฉพาะตัวสมาร์ทโฟนราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 17,900 บาท ซึ่งราคานี้ยังมีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
การทดสอบหลายครั้งพบว่าการใช้งานโดยภาพรวมของ PadFone ยังไม่ถือว่าดีนัก ขณะเดียวกัน เมื่อ PadFone เข้ามาวางจำหน่ายในเมืองไทย เป็นช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกับการเปิดตัว PadFone 2 ในต่างประเทศ ทำให้ PadFone รุ่นแรก จึงกลายเป็นสินค้าไอทีที่ค่อนข้างน่าผิดหวังไปโดยปริยาย
อันดับ 4 Nokia 808 PureView / Lumia 800-900Nokia 808 PureView ซิมเบียนตัวสุดท้ายก่อนโบกมือลา โด่งดังชนิดไม่ต้องคิดมาก สำหรับ Nokia 808 PureView กล้องสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการซิมเบียน ที่มาพร้อมกับคำโปรยที่ว่า "สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ใช้กล้องหลังความละเอียดสูงถึง 41 ล้านพิกเซล" ซึ่งถ้านับเฉพาะเรื่องการถ่ายอย่างเดียวเพียวๆ 808 PureView จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายภาพได้อย่างน่าทึ่งเป็นที่สุด เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
แต่การที่โนเกีย ยังคงยึดติดกับความเป็นซิมเบียน จึงทำให้ 808 PureView นำร่องในฐานะสมาร์ทโฟนซิมเบียน ที่ไร้ซึ่งอนาคตในธุรกิจมือถือปัจจุบัน ทำให้เสียงตอบรับในตัว 808 PureView ออกมาค่อนข้างเงียบเหงา ปนความเสียดายที่ว่า มือถือกล้องเทพแบบนี้ ไม่น่าจะอยู่ในมือซิมเบียน
อย่างไรก็ตาม โนเกียกลับมาแก้ตัวได้สำเร็จพอตัว กับการหยิบยืมเทคโนโลยี PureView ใส่ไว้ในวินโดวส์โฟน 8 ตัวท็อปอย่าง Nokia Lumia 920 แต่ในระหว่างนั้นการที่โนเกียตัดสินใจออกวินโดวส์โฟน Lumia 800 และ Lumia 900 มาขัดตาทัพ กลับกลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องน่าผิดหวังที่ประสบพบเจอ เพราะตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่น ไม่รองรับการอัปเกรดเป็นวินโดวส์ 8 ทำได้เพียงให้กลายเป็น 7.8 เท่านั้น จึงทำให้ผู้ที่ซื้อเครื่องทั้ง 2 รุ่นดังกล่าว ต้องเจ็บใจกับโนเกียอยู่ลึกๆ
อันดับ 3 Sony และตระกูล AlphabetSony กับการซอยรุ่นที่เยอะมาก จนน่าตกใจ จาก Sony Ericsson สู่แบรนด์ Sony แบบเต็มตัว ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนนำร่อง 3 รุ่น ในโพซิชันที่ต่างกัน ได้แก่ Xperia U, P และ S ทำให้หลายคนเชื่อมั่นว่า โซนี่ มีแนวโน้มที่จะกลับมาสู่ตลาดสมาร์ทโฟนได้สบาย
แต่คล้อยหลังจากนั้นไม่นานจู่ๆ โซนี่ เกิดอาการของเข้าผิดสำแดงหรืออย่างไร หลังจากที่ส่ง Xperia 3 รุ่นที่กล่าวไว้ข้างต้นออกสู่ตลาด ก็เกิดสมาร์ทโฟนจากค่ายโซนี่นับ 10 รุ่น จนผู้บริโภคสงสัยพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ ว่า ออกมาทำไมเยอะแยะ แถมแต่ละรุ่นที่ออกมา ความสามารถไม่ต่าง หน้าตาคล้ายคลึงกันแทบทั้งหมด สินค้าที่ออกมาแต่ละรุ่นแทบจะตีตายกันเอง
ที่สำคัญ สมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิปของโซนี่ ถ้านำไปเปรียบเทียบเดี่ยว"ตัวต่อตัว"กับคู่แข่ง ยังถือว่าแทบสู้ไม่ได้ อีกทั้งยังไม่ความชัดเจนด้วยว่า รุ่นใดกันแน่ที่เป็นแฟลกชิปตัวจริงเสียงจริง นอกจากนี้ โซนี ไทย ก็ยังเสียเวลากับการรอนำเครื่องเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ส่งผลให้กว่าเครื่องจะเข้ามาทำตลาด เทคโนโลยีที่เคยใหม่สมัยเปิดตัวก็กลับล้าหลังไปจนได้
อันดับที่ 2 Nexus QNexus Q เหมือนจะว้าว แต่ไม่ว้าว ภายในงาน Google I/O 2012 ที่จัดไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา อย่างที่ทราบงานดังกล่าวมีการเปิดตัวแท็บเล็ต 7 นิ้ว แบรนด์เน็กซัส (Nexus) ตัวแรกออกมาอย่าง Nexus 7 ซึ่งในเวลานี้นั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ดีที่สุดในตลาด
อย่างไรก็ตามในงาน Google I/O กลับไม่ได้มีแค่ Nexus 7 แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่กูเกิลภูมิใจนำเสนอกับนวัตกรรมนี้ นั่นคือ Nexus Q ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเล่นภาพยตร์ หรือเพลง จากเพลย์สโตร์ รวมไปถึงการเล่นคลิปผ่านยูทูป (YouTube) ซึ่งการมาของ Nexus Q อาจทำให้กูเกิลสามารถบุกเข้าไปยังคอนเทนต์ที่เป็นเอนเตอร์เทนเมนท์ง่ายขึ้น และเมื่อนำมาผนวกกับอุปกรณ์นานาชนิดที่เป็นแอนดรอยด์ ยิ่งทำให้เจ้า Nexus Q กลายเป็นอุปกรณ์ที่น่าใช้ เพราะมีอีโคซิมเต็มที่แข็งแกร่งมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อ Nexus Q ถูกเข็นออกมาวางจำหน่าย กระแสการตอบรับกลับไม่เป็นอย่างที่กูเกิลคาดหวัง เนื่องจาก Nexus Q โดนกลุ่มผู้ใช้สับเละ ว่าใช้งานยาก ไม่มีอินเตอร์เฟส จนกระทั่งถูกมองว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่กูเกิลกลับหยิบมันมาวางจำหน่ายก่อน และเป็นอย่างที่คาด ในที่สุด Nexus Q ต้องเก็บฉากกลับบ้านไปอย่างเงียบๆ
อันดับ 1 Apple Mapการแสดงผลของแผนที่ผ่าน Apple Map เป็นอะไรที่ 'รับไม่ได้' ภายในงาน Google I/O 2012 ที่จัดไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา อย่างที่ทราบงานดังกล่าวมีการเปิดตัวแท็บเล็ต 7 นิ้ว แบรนด์เน็กซัส (Nexus) ตัวแรกออกมาอย่าง Nexus 7 ซึ่งในเวลานี้นั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ดีที่สุดในตลาด
อย่างไรก็ตามในงาน Google I/O กลับไม่ได้มีแค่ Nexus 7 แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่กูเกิลภูมิใจนำเสนอกับนวัตกรรมนี้ นั่นคือ Nexus Q ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเล่นภาพยตร์ หรือเพลง จากเพลย์สโตร์ รวมไปถึงการเล่นคลิปผ่านยูทูป (YouTube) ซึ่งการมาของ Nexus Q อาจทำให้กูเกิลสามารถบุกเข้าไปยังคอนเทนต์ที่เป็นเอนเตอร์เทนเมนท์ง่ายขึ้น และเมื่อนำมาผนวกกับอุปกรณ์นานาชนิดที่เป็นแอนดรอยด์ ยิ่งทำให้เจ้า Nexus Q กลายเป็นอุปกรณ์ที่น่าใช้ เพราะมีอีโคซิมเต็มที่แข็งแกร่งมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อ Nexus Q ถูกเข็นออกมาวางจำหน่าย กระแสการตอบรับกลับไม่เป็นอย่างที่กูเกิลคาดหวัง เนื่องจาก Nexus Q โดนกลุ่มผู้ใช้สับเละ ว่าใช้งานยาก ไม่มีอินเตอร์เฟส จนกระทั่งถูกมองว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่กูเกิลกลับหยิบมันมาวางจำหน่ายก่อน และเป็นอย่างที่คาด ในที่สุด Nexus Q ต้องเก็บฉากกลับบ้านไปอย่างเงียบๆ
โดยพลันที่แอปเปิลตัดสินใจเตะโด่งกูเกิล ในฐานะผู้ให้บริการด้านแผนที่ออกจากอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการไอโอเอส ทั้งไอโฟน ไอพอดทัช และไอแพด ออกไป ยามนั้นสก็อต ฟอร์สทอล อดีตผู้บริหารของแอปเปิล เป็นผู้บรรยายสรรพคุณของแอปเปิล แมป อย่างเสร็จสรรพ แน่นอนว่าลีลาการพรีเซนต์ของฟอร์สทอลล์ น่าสนใจ ดูน่าเชื่อถือไม่ต่างไปจากสตีฟ จ็อบส์ อดีตซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทผู้ล่วงลับ
แต่เมื่อแอปเปิล แมป ถูกนำมาใช้งานจริง ผ่านระบบปฏิบัติการไอโอเอส 6 สิ่งที่คาดหวังกลับไม่เป็นจริงตามฝัน เมื่อแอปเปิล แมป แสดงแผนที่ การนำทางที่ผิดเพี้ยน และไร้ซึ่งความแม่นยำ ทำให้แอปเปิลโดนโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับความ ‘ห่วย’ ของแอปเปิล แมป ซึ่งเรื่องนี้ สก็อต ซึ่งเป็นผู้ดูแลหน่วยงานในการพัฒนาแผนที่ดังกล่าวนี้ ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ จนทำให้ท้ายที่สุดสก็อตกลายเป็นผู้แพ้ที่ต้องเดินออกจากบริษัทแอปเปิล
และเพื่อตอกย้ำว่า แอปเปิล แมป นำมาใช้งานจริงไม่ได้ ตำรวจของรัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ถึงกับออกประกาศว่า ไม่แนะนำให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์บนไอโอเอสทุกชนิด ใช้บริการของแอปเปิล แมป เป็นอันขาด เนื่องจากมีผู้หลงทางด้วยแอปเปิล แมป แล้วอย่างน้อย 6 ราย โดยส่วนใหญ่หลงทางจากการขับรถตามเส้นทางที่แผนที่ตัวกวนแนะนำทั้งสิ้น
นอกเหนือจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างไอโฟน ไอพอด ไอแพด และอีกสารพัดไอ งานหนักของแอปเปิลในปีหน้า เห็นทีจะเป็นเรื่องของแผนที่ ซึ่งดูสภาพแล้วคงเหนื่อยใช่เล่น ดังนั้นใครที่ใช้อุปกรณ์ตระกูลไอ ก็ไปหาโหลดกูเกิล แมป มาใช้งานแก้ขัดกันไปก่อนดีกว่า
เชื่อเหลือเกินว่า เรื่องน่าผิดหวังทั้ง 6 นี้จะได้รับการปรับปรุงแก้ไขในปี 2013 ซึ่งไม่แน่ บางส่วนของเรื่องน่าผิดหวังในปีนี้ อาจจะเป็นเรื่องยอดเยี่ยมในปีงูทอง 2013 ก็ได้
ที่มา: manager.co.th