ถึงวันนี้ EWING นักดนตรีหนุ่มจากอังกฤษผู้โด่งดังในวงการเพลงอิสระเมืองผู้ดี คงจะเป็นที่รู้จัก ทั้งชื่อและเสียงในหมู่ชาวไทยกันแล้ว กับผลงานเพลงที่เขาถ่ายทอดเพื่อบอกเล่าความประทับใจต่อในหลวง เป็นบทเพลงที่ทั้งไพเราะ และเปี่ยมไปด้วยความหมายอันน่าประทับใจ บทเพลงที่กล่าวถึง ความรักอันไม่สิ้นสุด, การร่วมแรงร่วมใจ และจุดรวมใจของคนทั้งชาติ เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ถูกประพันธ์ขึ้น เพื่อสะท้อนมุมมองและความประทับใจต่อในหลวงของเรา แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนสนใจบทเพลงที่ชื่อว่า Love Eternally ขึ้นไปอีก ก็เพลงผลงานชิ้นนี้เกิดขึ้นด้วยฝีมือของศิลปิน และยอดฝีมือทางสายดนตรีจากต่างชาติแทบจะล้วนๆ
ด้วยการดูแลงานผลิตของโปรดิวเซอร์ 2 รางวัลแกรมมี คิปเปอร์ เอลดริดจ์ ที่ทำงานกับ สติง มาแล้วในหลายอัลบั้ม, คาเมรอน เครก มิกซ์เอนจิเนียร์ 2 แกรมมีเช่นเดียวกัน ที่ผ่านการร่วมงานกับศิลปินชั้นนำของอังกฤษ ทั้ง เอมี ไวน์เฮาส์ และ ดัฟฟี มาก่อน รวมถึง พอล กรันด์แมน ซาวเอนจิเนียร์รางวัลแกรมมี และ เวย์น เออร์คูฮาร์ท ที่รับหน้าที่เรียบเรียงเสียงประสานก็เคยร่วมงานกับ โมบี้ มาก่อน คือ ส่วนหนึ่งของทีมงานระดับ “ดรีมทีม” ของ Love Eternally
อย่างไรก็ตาม หัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของเพลง ที่เป็นคนประพันธ์ และขับร้องเพลงดังกล่าว ก็คือ ศิลปินหนุ่มชาวอังกฤษที่ชื่อว่า EWING ที่มีโอกาสเข้ามาบันทึกเสียงเพลงในประเทศไทยเมื่อปีก่อน จนได้เข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจกต์ที่ชื่อว่า OurKingLoveEternally
พอล อีวิง ศิลปินแนวฟังก์, โซล และ อาร์แอนด์บี จากสกอตแลนด์ เริ่มต้นชีวิตนักดนตรีตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ ที่เจ้าตัวเล่าอย่างติดตลก ว่า “ผมว่าพ่อกับแม่คงเห็นผมเข้าไปเล่นตีไอ้โน้นไอ้นี้ในครัว เลยพยายามหาอะไรให้ทำ ก่อนจะทำลายข้าวของพังไปหมด ... ผมเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่ตอนนั้นจนอายุ 11 เมื่อได้เข้าไปเรียนที่สถาบันดิงเวลเลยเปลี่ยนไปเล่นทรัมเป็ท กับแตรแทน”
อันที่จริง อีวิง มีโอกาสเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่เป็นเด็กแล้วกับการได้ร่วมปรากฏตัวในรายการเด็ก Tikkabilla ถึงร่วม 200 ตอน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกเส้นทางสายดนตรีแทน และค่อยๆ ผสมผสานแนวเพลงหลายๆ อย่างเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง “ผมค่อนข้างไร้ระเบียบวินัยครับ เลยไม่เคยได้เรียนดนตรีคลาสสิกแบบจริงจัง และได้ลองเครื่องดนตรีหลายๆ อย่างจึงลองเขียนเพลงของตัวเอง ซึ่งก็ยังทำแบบนั้นจนถึงตอนนี้เลย”
กระทั่งเมื่อร่วม 11 ปีที่แล้ว เมื่อพ่อและแม่ของเขาได้ย้ายจากคิลเทิร์นไปอยู่ที่แบล็คไอล์ อีวิง กลับตัดสินใจเดินทางไปหาชีวิตแห่งแสงสีที่ลอนดอน หาที่พักในแถบย่านเลสเตอร์สแควร์อันโด่งดัง และร่วมเป็นสมาชิกของวงดนตรีทีมีสมาชิกถึง 13 คน ถือว่าเริ่มต้นชีวิตนักดนตรีอย่างจริงจัง
ถึงแม้จะเป็นสมาชิกคนสำคัญของวง แต่สุดท้าย พอล อีวิง ก็เริ่มรู้สึกว่านี่อาจจะยังไม่ได้เส้นทางที่เหมาะสมกับเขาที่สุด ศิลปินหนุ่มมากฝีมือดูจะมีความทะเยอทะยานมากกว่านั้น กับการเป็นศิลปินเดี่ยว
หลังได้ลองผิดลองถูก เพื่อสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง ที่มีสไตล์ส่วนตัว อีวิง ได้มีโอกาสออกอัลบั้มชุดแรก, ได้ร่วมงานกับคนดนตรีชื่อดังอย่าง คิปเปอร์ และสามารถคว้ารางวัล Indy Awards เมื่อปี 2007 อันน่าจะพูดได้ว่าจุดเริ่มต้นในอาชีพศิลปินอย่างแท้จริง
ที่มา: manager.co.th