ด้วยกระแสความนิยมสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ผลิตแล้ว มันก็ยังได้สร้างรายได้ให้แก่นักพัฒนาและขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมแอพพลิเคชั่นเติบโตจนมีมูลค่าสูงนับพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปัจจุบันด้วย ซึ่งพิสูจน์ได้จากการจ้างงาน โดยแอปเปิ้ลบริษัทเดียวมีการจ้างงานไปแล้วกว่า 300,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ และมีการจ่ายเงินค่าตอบแทนถึง 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่นักพัฒนา แต่อย่างไรก็ดี มันอาจจะเป็นเรื่องยากทีเดียวสำหรับนักพัฒนาตัวเล็กๆ ที่หวังจะร่ำรวยเช่นนั้นบ้าง เพราะจากการศึกษาล่าสุด เปิดเผยว่ารายได้ครึ่งหนึ่งจากการขายแอพพลิเคชั่นอันมหาศาลล้วนมาจากสตูดิโอชื่อดังทั้งนั้น ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 25 สำนักโดย Canalys ผู้ทำการสำรวจ ประมาณการว่าเฉพาะรายได้บนแอพฯ สโตร์ของแอปเปิ้ลและกูเกิล เพลย์ ในสหรัฐฯ ที่ได้รับในช่วงระหว่าง 20 วันแรกของเดือนที่ผ่านมา 25 สตูดิโอดังสามารถทำรายได้ไปได้ถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นและการซื้อไอเท็มต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเกม ไม่ว่าจะเป็น Zynga, Electronic Arts, Disney, Kabam, Rovio, Glu, Gameloft และ Storm8’s TeamLava ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทเกมีรับรายรับก้อนโต Canalys ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะบริษัทเหล่านี้มักจะมีเกมที่มีหลายเวอร์ชั่นหลายซีรีส์และสามารถเล่นเกมข้ามแพลตฟอร์มได้ ตัวอย่างเช่น ค่าย Zynga ค่ายเดียว มีเกมถึง 15 เกมที่ติดโผ 300 อันดับบนชาร์จ iPhone และอีก 9 เกมบน กูเกิล เพลย์ สอดคล้องกับ ผลการสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย GigaOm เมื่อสองเดือนก่อน ซึ่งยิ่งเป็นตอกย้ำความคิดที่ว่า การเป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นมีความท้าทาย โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม 352 คนระบุว่า พวกเขาทำเงินจากการขายแอพพลิเคชั่นได้น้อยกว่า 500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน (15,000 บาท) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ใช่นักพัฒนาเต็มเวลา แต่ก็มีถึง 5% ที่สร้างรายได้มากถึง 20,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน (600,000 บาท)
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com
