เทคโนฯลาดกระบังเปิดผลประเมินแผนพัฒนา "รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์" สอบผ่านได้คะแนนแค่ 50% ชำแหละทั้งปัญหาขาดบุคลากรที่มีทักษะ แถมหลายหน่วยงานรัฐยังไม่รับรู้แผนพัฒนา E-government"ไอซีที" รับลูกเป็นศูนย์กลางฝึกอบรมบุคลากรเพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อน
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ดำเนินโครงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในภาพรวมถือว่าผ่านเกณฑ์โดยได้ 2 คะแนน จาก 4 คะแนน โดยมีจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงอีกหลายด้าน ทั้งจำนวนคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐที่มีเพียง 4.6 คนต่อเครื่อง ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 1.25 คนต่อเครื่อง ทั้งๆ ที่สำรวจจากหน่วยงานในเขตกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ยังพบว่ามีหน่วยงานรัฐจำนวนมากไม่ทราบถึงแผนการพัฒนาและรายละเอียดของแผน E-government เพราะขาดการผลักดันอย่างต่อเนื่องจึงส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระบบให้มีทิศทางสอดคล้องกัน รวมทั้งปัญหาของบุคลากร ผู้ปฏิบัติงานซึ่งไม่ได้เป็นผู้จบด้านไอทีโดยตรงที่เข้ามาดูแลระบบ ทำให้ขาดทักษะที่จะปฏิบัติงาน
ขณะที่โครงสร้างบุคลากรไอทีของภาครัฐเกิดช่องว่างระหว่างผู้บริหารระดับกลางและฝ่ายปฏิบัติการ คือมีผู้บริหารระดับกลางน้อย ขณะที่ฝ่ายปฏิบัติการมีประสบการณ์ไม่มาก แต่มีภารกิจที่ต้องดูแลมาก ทำให้ขาดโอกาสเข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มทักษะ ซึ่งผลการประเมินเสนอให้จัดตั้งศูนย์อบรมที่มีเนื้อหาตรงกับความต้องการและภารกิจในระบบราชการ รวมถึงเป็นศูนย์กลางให้บริการแก่หน่วยงานต่างๆ โดยให้กระทรวงไอซีทีรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้เกิดการลงทุนซ้ำซ้อนในหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงการกำหนดโครงสร้างค่าตอบแทนด้าน ไอทีให้เหมาะสม
ปลัดกระทรวงไอซีทีกล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงได้พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แต่การจัดตั้งเป็นหน่วยงานพิเศษที่มีหน้าที่เฉพาะในการอบรมทักษะไอทีของภาครัฐอาจจะยากในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ กระทรวงจึงจะเน้นให้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยสร้างหลักสูตรกลางขึ้นมาโดยใช้คนและสถานที่ของศูนย์ฝึกอบรมของหน่วยงานใต้สังกัดอย่าง ทีโอที กสทฯ หรือสำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นศูนย์กลางในการฝึกอบรม และกำลังจะจ้างที่ปรึกษามาวิเคราะห์หาหลักสูตรที่เหมาะสมในการฝึกอบรมทักษะให้กับข้าราชการ คาดว่าใน ปี 2553 จะสามารถผลักดันให้มีการตั้ง งบประมาณดำเนินการในส่วนนี้ได้
ผลการศึกษาหน่วยงานภาครัฐมีความพร้อมในการใช้งานโครงข่าย GIN เพียง 80.5% จากค่าเกณฑ์วัด 90% ด้านบุคลากรฝ่ายไอทีมีเพียง 44.6% เท่านั้นที่สามารถดูแลระบบเครือข่ายเบื้องต้นได้ และมีบุคลากรเพียง 24% ที่ดูแลระบบขั้นสูงได้ ห่างจากเกณฑ์มาตรฐานของประเทศที่พัฒนาแล้วที่ความพร้อมของบุคลากรด้านนี้จะอยู่ราว 61-66% ที่สำคัญคือหน่วยงานที่ได้ใช้โครงข่ายแล้วมีความพึงพอใจในระดับ 2.7 น้อยกว่าค่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 3.5
ด้านประสบการณ์การใช้บริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชน จากการสำรวจพบว่าประชาชนยังนิยมเดินทางไปทำธุรกรรมที่หน่วยงานภาครัฐ 71% และมี 54.8% เคยใช้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอ นิกส์ ส่วนใหญ่เป็นการยื่นภาษีเงินได้และสืบค้นข้อมูลของภาครัฐ
ขณะที่ประโยชน์และความพึงพอใจจากการใช้งาน ประชาชนทั่วไปให้น้ำหนักกับการลดเวลาเดินทาง ความสะดวกรวดเร็ว และการสามารถติดต่อใช้บริการได้ตลอดเวลามากที่สุด
ที่มา:
http://www.matichon.co.th
