Author Topic: “แกรมมี่” รับขาดทุน ทีวีดาวเทียม แต่เป็น ธรรมชาติของ การทำธุรกิจใหม่  (Read 587 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“อากู๋” ยอมรับทีวีดาวเทียมขาดทุนเพราะเป็นการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ต้องลงทุนคอนเทนต์มาก ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจที่ต้องขาดทุนในระยะเริ่มแรก ตั้งใจจะให้ขาดทุนน้อยที่สุดและจะดันยอดขายกล่องจีเอ็มเอ็มแซดให้ได้ 2 ล้านกล่องภายในสิ้นปี
       
       เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาลุยทำธุรกิจสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมกันยกใหญ่ บริษัทแกรมมี่เองก็เช่นกัน โดย “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ได้กล่าวยอมรับว่าขาดทุนแต่จะพยายามไม่ให้ขาดทุนมาก และเป็นเรื่องธรรมดาของการเริ่มทำธุรกิจใหม่ที่จะต้องลงทุนเลยทำให้มีค่าใช้จ่ายเยอะ ต้องขาดทุนไปอีก 5 ปี
       
       “ปีนี้ก็เป็นปีที่ลงทุนเราพยายามที่จะไม่ไห้ขาดทุนเราพยายามที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีที่สุดละเอียดที่สุดมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรทั้งสิ้น พยายามที่จะให้มันคุ้มทุนเพราะว่าเราลงทุนต่างๆเยอะแยะ สำหรับเรื่องกล่องจีเอ็มเอ็อแซดตอนนี้จำนวนกล่องก็ยังเข้าสู่ในเป้าหมายอยู่ถ้ามีก็ล้านกว่าสองล้านกว่า ตอนนี้มันอยู่ในเดือนที่สำคัญอยู่เพราะสิ้นปีมันเป็นช่วงเวลาขายดี”
       
       “เราก็จะมีการกระตุ้นยอดขายโดยเกมบัตรมีเกมวันเราก็จะมีละคร คือเราจะสร้างรายการใหม่ๆ ให้มากที่สุดในบรรดาช่องดาวเทียมทีวี แล้ววันที่ 30 พฤศจิกายนนี้เราจะมีคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดๆ ถ่ายทอดสดดูพร้อมกันทั่วประเทศ เรามีละครหนังสั้นจากหนังที่ดีที่สุดของ GPS ทำให้มาเป็นหนังสั้นอยู่ในกล่อง เรามีน้าเน็คที่จะมาทอกโชว์สนุกสนานทุกวัน เรามีน้าป๋องมาเล่าเรื่องผีที่เขาถนัดสนุกสนานไม่งมงาย เรามีรายการต่างๆ เยอะแยะเราเตรียมแบบเต็มที่เราซื้อรายการจากต่างประเทศมีต่างๆ นานา”
       
       “การที่เราซื้อคอนเทนต์เยอะแบบนี้ก็ทำให้เรามีผลกระทบอย่างหนึ่งในเรื่องคอนเทนต์ที่เราต้องรับผิดชอบมันคือค่าใช้จ่าย ตอนนี้มันคือการลงทุนแต่เราจะพยายามทำให้ไม่ขาดทุน ถ้าขาดทุนก็เรียกว่าสุดความสามารถแล้วแต่ปีหน้าคงได้อะไรที่ยากมาก็คงจะเดินเครื่องได้ก็จะพยายามไม่ให้ขาดทุน”
       
       “มันเป็นช่วงแรกๆ คุณลองนึกดูว่าเราตั้งบริษัทใหม่เนี่ยหรือเราตั้งโรงงานใหม่ทุกสิ่งทุกมันอย่างมันเป็นการลงทุน เมื่อมีการลงทุนช่วงแรกค่าใช้จ่ายก็เยอะหน่อยรายได้น้อย แต่คุณต้องมีคนอยู่ครบมีคอนเทนต์อยู่ครบเพราะฉะนั้นมันเป็นธรรมชาติของมันอยู่แล้วแม้ว่าจะขาดทุนก็ไม่ผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น”
       
       “เป้าหมายที่เราตั้งเราพยายามทำให้ถึง คือเราจะไม่คิดว่าจะต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้เพราะว่ามันเป็นสิ่งใหม่การคาดคะเนอาจจะไม่แม่นยำเหมือนสิ่งที่เราเคยทำมาแล้วเพราะว่ามันเป็นปีแรก ลองคิดดูว่าปีนี้เราเริ่มด้วยการทำกล่อง ขายเราต้องมีพนักงานขายเราต้องมีโกดังเราต้องมีเทคโนโลยีมันมีเรื่องราวที่ต้องทำเยอะแยะ ยิ่งมีคอนเทนต์ที่เราซื้อมา พอใบอนุญาตไม่ออกเราก็ขายไม่ได้แต่เราก็สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”
       
       “คือตอนนี้เราก็พยายามทำให้มันเข้าเป้าทุกคนทำงานเต็มที่ กะว่าตัวเลขกล่องต้องมีล้านห้าล้านหกแน่นอนแหละ ในปีแรกคุณสามารถทำเป้าได้ดีขนาดนี้ก็ถือว่าก็เป็นเรื่องที่นักลงทุนเขาบอกค่อนข้างมหัศจรรย์แล้ว จริงๆ เราไม่ได้ขายตั้งแต่ต้นปีหลังน้ำท่วมมันอุปสรรคเยอะ ผมมาขายจริงๆ เดือนพฤษภาคมจนถึงธันวาคมเพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่าทีแรกเราก็ตั้งเป้าไว้ทั้งปีแต่พอทำได้มันทำได้แค่ 7 เดือน 8 เดือนเพราะฉะนั้นมันอาจจะไม่ได้เป้าอย่างที่เราคาดหวัง เป็นธรรมดาของ 5ปีแรกในการทำธุรกิจอาจจะมีปัญหาหน่อยมันเป็นธรรมชาติ”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)