Author Topic: เฟซบุ๊ก หุ้นพุ่ง สูงสุด รับ ประกาศผล ประกอบการไตรมาส 3  (Read 784 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นักลงทุนเทคะแนนความเชื่อมั่นให้เฟซบุ๊ก (Facebook) หลังประกาศผลประกอบการงดงามในไตรมาส 3 ของปี 2012 ทำให้มูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเปิดจำหน่าย IPO ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
       
       มูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นมากกว่า 19% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (24) หลังเฟซบุ๊กประกาศว่าสามารถทำรายได้จากธุรกิจโฆษณาบนอุปกรณ์มือถือเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ โดยมูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กปิดที่ 23.23 เหรียญสหรัฐที่ตลาดแนสแดค นับเป็นมูลค่าหุ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังจากที่หุ้นเฟซบุ๊กตกต่ำลงมากกว่า 47% จากราคา IPO ซึ่งเคยเปิดไว้ที่ 38 เหรียญสหรัฐ
       
       เฟซบุ๊กรายงานว่าตลอดไตรมาส 3 ที่ผ่านมา (กรกฎาคม-กันยายน 2012) บริษัทสามารถทำรายได้ 1,262 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.9 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 954 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว
       
       อัตรารายได้ที่เพิ่มขึ้นของเฟซบุ๊กทำให้นักลงทุนมั่นใจในอนาคตของเฟซบุ๊ก โดยเฉพาะเมื่อเฟซบุ๊กประกาศอัตราการเติบโตในธุรกิจโฆษณาที่เพิ่มเป็น 1,090 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเติบโต 43% จากปีที่แล้ว ทำให้ค่าใช้จ่ายที่สูงจนทำให้เฟซบุ๊กต้องขาดทุน 59 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 3 ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจนักลงทุน ทั้งที่เคยทำกำไร 414 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว
       
       การเติบโตของธุรกิจโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือนั้นทำรายได้ให้เฟซบุ๊กช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาถึง 14% โดยข้อมูลระบุว่าช่วงท้ายของไตรมาส ธุรกิจโฆษณาจากโทรศัพท์มือถือนั้นทำรายได้ให้เฟซบุ๊กมากถึงวันละ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นตัวเลขที่ถูกใจนักลงทุนอย่างเห็นได้ชัด

   
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

นอกจากค่าใช้จ่าย ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เฟซบุ๊กขาดทุนในไตรมาสนี้คือค่าธรรมเนียมการชำระเงินผ่านระบบเฟซบุ๊ก ซึ่งมักเป็นธุรกรรมจากการซื้อสินค้าหรือบริการในเกมนั้นลดลง 9% จุดนี้นักลงทุนไม่มีความกังวลเพราะเฟซบุ๊กได้แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีศักยภาพในการสร้างรายได้จากโทรศัพท์มือถือจริง
       
       มูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กนั้นเคยทำสถิติสูงสุดที่ 45 เหรียญสหรัฐฯในวันที่เฟซบุ๊กประกาศขาย IPO ก่อนจะปิดตลาดที่ 38.23 เหรียญสหรัฐในวันเดียวกัน กระทั่งเฟซบุ๊กประกาศผลประกอบการพลาดเป้าในไตรมาสที่ 2 (เมษายน-มิถุนายน 2012) ทำให้มูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กลดลงต่อเนื่องจนแตะระดับต่ำสุดที่ 17.73 เหรียญสหรัฐในวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา
       
       จุดที่น่าสนใจคือมูลค่าหุ้นที่ลดลงของเฟซบุ๊กทำให้การตัดสินใจซื้อกิจการเครือข่ายสังคมของผู้รักการถ่ายภาพอย่างอินสตาแกรม (Instagram) ของเฟซบุ๊กนั้นมีมูลค่าลดลงด้วย โดยจากแถลงการณ์ที่เฟซบุ๊กประกาศว่าการซื้อกิจการอินสตาแกรมสำเร็จเรียบร้อย ระบุว่ามูลค่าการซื้อกิจการอิสาตาแกรมอยู่ที่ 715 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น จากเดิมที่เคยมีการประกาศไว้สูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขจากมูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กในวันที่หุ้นเพิ่มสูงสุด
       
       มูลค่าซื้อกิจการอินสตาแกรม 715 ล้านเหรียญนี้ประกอบด้วยเงินสด 300 ล้านเหรียญสหรัฐ และหุ้นของเฟซบุ๊กจำนวน 23 ล้านหุ้นที่ต้องปันให้กับผู้ถือหุ้นอินสตาแกรม พนักงาน และผู้ก่อตั้ง
       
       Company Related Link :
       Facebook

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)