ไอโฟน 5 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของแอปเปิลนั้นวางตลาดโดยใช้วัสดุประเภทกระจกและอะลูมิเนียม รายงานจากแหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมไทย ระบุเอไอเอสจะเริ่มเปิดให้สาวกแอปเปิลลงทะเบียนแสดงความสนใจซื้อเครื่องไอโฟนรุ่นล่าสุด iPhone 5 ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นไป เบื้องต้นคาดกำหนดการเปิดสั่งจองของจริงคือสัปดาห์หน้า เพื่อรับเครื่องต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากแอปเปิลเริ่มวางจำหน่ายไอโฟน 5 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานจากแหล่งข่าวในวงการโอเปอเรเตอร์ไทยระบุว่า เที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคมนี้ เอไอเอสจะเปิดให้ลูกค้าเอไอเอสที่สนใจไอโฟน 5 ร่วมลงทะเบียนก่อนเปิดจอง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้สั่งจองเครื่องเต็มตัวช่วงต้นสับดาห์หน้า
แหล่งข่าวเชื่อว่าสิทธิพิเศษของการลงทะเบียนนี้จะจำกัดเฉพาะลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น โดยคาดว่าเอไอเอสจะจัดงานเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งจะต้องมีกระบวนการเตรียมพร้อมทั้งการรับเครื่อง และการเปลี่ยนซิมการ์ดให้เป็นนาโนซิม
ยังไม่มีรายงานจากโอเปอเรเตอร์รายอื่นว่าจะเปิดจองไอโฟน 5 ในรูปแบบใด โดยปีที่แล้ว เอไอเอสนั้นจัดขั้นตอนการสั่งซื้อไอโฟน 5 ทั้งหมด 2 รอบ โดยรอบแรกเปิดให้ผู้ใช้ลงทะเบียนแสดงความสนใจ ซึ่งเมื่อได้เวลาเปิดสั่งจองเครื่อง ผู้ที่เคยลงทะเบียนสนใจแล้วเท่านั้นจึงจะเข้าไปสั่งจองได้ ซึ่งหากไม่ได้ลงทะเบียน ก็จะไม่สามารถสั่งจองตามระเบียบ สำหรับรอบ 2 จะเปิดให้ผู้ใช้สั่งจองเพื่อนัดวันรับเครื่อง
เบื้องต้น นักสังเกตการณ์คาดว่าทุกเครือข่ายจะเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนหรือสั่งจองได้พร้อมกัน แต่ไม่ชัดเจนว่ารูปแบบการสั่งจองจะถูกประกาศในรูปแบบใด ซึ่งแน่นอนว่าโอเปอเรเตอร์ทุกรายจะพยายามพัฒนากระบวนการรับเครื่องให้ผู้บริโภคไม่ต้องรอนานนับชั่วโมงอย่างที่เป็นมา
สำหรับไอโฟน 5 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของแอปเปิลนั้นวางตลาดโดยใช้วัสดุประเภทกระจกและอะลูมิเนียมประกอบกัน จุดต่างกับไอโฟนรุ่นก่อนคือความบางเครื่อง 7.6 มิลลิเมตร (บางกว่ารุ่น 4S 20%) น้ำหนักเครื่องเบาลงอยู่ที่ 112 กรัม หน้าจอขนาด 4 นิ้ว อัตราส่วน Widescreen 16:9 ความละเอียด 1136x640 พิกเซล ซึ่งแอปเปิลระบุว่าขนาดหน้าจอที่ใหญ่จะทำให้มีพื้นที่ในการแสดงแอปพลิเคชันเพิ่มมากขึ้น และแอปฯ ดั้งเดิมที่ยังไม่ได้ปรับขนาดให้รองรับไอโฟน 5 ก็จะสามารถแสดงผลได้โดยมีขอบสีดำปรากฏด้านบนและล่างหน้าจอ
ไอโฟน 5 ใช้วัสดุประเภทกระจกและอะลูมิเนียมประกอบกัน จุดต่างกับไอโฟนรุ่นก่อนคือความบางเครื่อง 7.6 มิลลิเมตร (บางกว่า 4S 20%) น้ำหนักเครื่องเบาลงอยู่ที่ 112 กรัม หน้าจอขนาด 4 นิ้ว อัตราส่วน Widescreen 16:9 ความละเอียด 1136x640 พิกเซล ซึ่งแอปเปิลระบุว่าขนาดหน้าจอที่ใหญ่จะทำให้มีพื้นที่ในการแสดงแอปพลิเคชันเพิ่มมากขึ้น และแอปฯ ดั้งเดิมที่ยังไม่ได้ปรับขนาดให้รองรับไอโฟน 5 ก็จะสามารถแสดงผลได้โดยมีขอบสีดำปรากฏด้านบนและล่างหน้าจอ
แอปเปิลการันตีว่าไอโฟน 5 สามารถแสดงสีสันได้ชัดเจนขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน 44% บนชิปประมวลผล A6 ที่เร็วกว่าเดิมทั้งกราฟิกและการประมวลผลประมาณ 2 เท่าตัว โดยจุดเด่นของไอโฟน 5 ยังอยู่ที่การรองรับ LTE รวมถึงสัญญาณ HSPA+ และ DC-HSDPA ซึ่งทำให้ไอโฟน 5 สามารถขยายตลาดไปยังหลายประเทศทั่วโลกยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้แอปเปิลการันตีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับการสนทนา 3G ต่อเนื่องที่ 8 ชั่วโมง โดยผู้ใช้จะสามารถท่องเว็บไซต์ผ่าน 3G ได้นาน 8 ชั่วโมง Wi-Fi 10 ชั่วโมง วิดีโอ 10 ชั่วโมง เพลง 40 ชั่วโมง และเปิดเครื่องทิ้งไว้ 225 ชั่วโมง
กล้องของไอโฟน 5 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งนำความสามารถของชิป A6 มาช่วยประมวลผลภาพตั้งแต่เรื่องชัตเตอร์กล้องที่เร็วขึ้น 40% จากรุ่นก่อน ยังมีระบบการจัดการสัญญาณรบกวนหรือ Noise ในสภาพแสงน้อยที่ดีกว่าเดิม พร้อมความสามารถในการถ่ายภาพพานอรามาได้ที่ความละเอียดสูงถึง 28 ล้านพิกเซล
ที่สำคัญ ผู้ใช้ไอโฟน 5 สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง Full HD 1080p บนระบบกันภาพสั่นที่ปรับปรุงใหม่ โดยไอโฟน 5 จะสามารถใช้ระบบตรวจจับใบหน้าหรือ Face detection รวมถึงจับภาพนิ่งระหว่างบันทึกวิดีโอได้
คุณสมบัติเหล่านี้ตรงกับข่าวลือบนโลกออนไลน์ก่อนหน้านี้หลายจุด ที่น่าสนใจคือสายชาร์จที่ปรับเปลี่ยนใหม่ในชื่อ “Lightning” บนขนาดเล็กกว่าเดิม 80% จุดนี้แอปเปิลเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อตัวแปลงให้สายชาร์จเดิมขนาด 30 เข็ม (pin) นำมาใช้กับพอร์ต Lightning ได้
แอปเปิลเปิดราคาจำหน่ายไอโฟน 5 ในสหรัฐฯ (พร้อมสัญญา 2 ปี) ที่ 199 เหรียญ (16GB) 299 เหรียญ (32GB) และ 399 เหรียญ (64GB) โดยปรับลดราคาไอโฟน 4S ปัจจุบันลงเหลือ 99 เหรียญ
ที่มา: manager.co.th