“อ๊อฟ ชนะพล” โดนใบสั่งจากผู้ใหญ่ให้ดัดฟัน เพราะอยากให้ดูดีขึ้น เชื่อไม่กระทบงานละคร ปัดความรักกับสาวนอกวงการส่อแววสะดุด เผยหุ้นกันทำร้านกาแฟ โอดฝนตกลูกค้าไม่เข้าร้าน ฝันอยากขยายขึ้นห้าง เจอหน้าพระเอกหนุ่ม “อ๊อฟ ชนะพล สัตยา” ในงานบวงสรวงละครเรื่อง “โทน” ที่ช่อง 7 แต่เป็นที่สังเกตว่า หนุ่มอ๊อฟนั้นพูดไม่ค่อยชัด สอบถามไป เจ้าตัวก็ได้ชี้แจงว่า เพิ่งไปดัดฟันมา เพราะเจอใบสั่งจากผู้ใหญ่เหตุอยากให้ตนดูดีขึ้น
“ที่ผมพูดไม่ค่อยชัดเพราะผมดัดฟันครับ ครั้งก่อนดัดข้างบน ครั้งนี้ดัดข้างล่างครับ แต่เป็นการดัดข้างใน คิดว่าไม่กระทบงานครับ เพราะมันยิ่งทำให้ผมเน้นคำพูด ตอนนี้ดัด 4 เดือนแล้ว ผู้ใหญ่อยากให้เราดัดจะได้ดูดีขึ้น ผมก็โอเคครับ”
ปฏิเสธความรักกับสาวนอกวงการส่อแววสะดุด ยันยังรักกันดี ส่วนธุรกิจร้านกาแฟที่หุ้นกัน เจ้าตัวปัดไม่ใช่การสร้างอนาคตร่วมกัน
“เรื่องความรักตอนนี้ก็เรื่อยๆ ครับ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ก็ประคองไว้ ส่วนข่าวว่ากำลังระหองระแหงกัน ผมว่าพี่ๆ สื่อไม่ค่อยเจอผม เลยไม่ได้อัปเดต เพราะผมทำงานต่างจังหวัด เราก็เหมือนเดิมครับ ค่อยเป็นค่อยไป ละครก็เยอะด้วย งานยุ่งไม่ได้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ครับ ถ้ามันมีผลก็คงตั้งแต่แรกแล้ว ก็ยังเจอกันบ้างที่ร้านกาแฟ”
“ร้านอยู่แถวแยกรัชดา ชื่ออ๊อฟ คอฟฟี่ บายชนะพลครับ ตอนนี้สภาพดินฟ้าอากาศก็ไม่เป็นใจ คนไม่ค่อยเข้าร้าน แต่ถ้าแฟนคลับอยากเจอที่ร้านก็จะโทร.มาหาว่าว่างไหม ถ้าว่างก็เข้ามาร้านหน่อย มีแฟนคลับอยากเจอ ถ้าผมว่างก็มาครับ ซึ่งเขาจะอยู่ร้าน ก็จะมีแฟนคลับแวะเวียนไปบ่อยๆ ซึ่งเขาเองก็มีส่วนหุ้นด้วยครับ ผมให้เขาไปดูเวลา ผมไม่ว่างแล้วก็มีพี่เบิร์ดผู้จัดการผมด้วย ถ้าผมว่างก็ไป”
“แฟนคลับไปแวะเวียนที่ร้าน อันนี้เขาก็คงต้องรับให้ได้ ถ้ารับไม่ได้คงลำบาก แฟนคลับ แฟนละครเยอะ เพราะเขาอยากไปชิม เราก็อยากเอาตัวเราไปทำธุรกิจให้มากกว่านี้ เพราะต่อไปผมอยากขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น ตอนนี้ก็กำลังศึกษาก่อนเพราะเป็นธุรกิจที่ใหญ่ จริงๆ ผมอยากทำขึ้นห้างมากกว่า แต่ว่าต้องใช้เวลา ต้องให้คนติดใจรสชาติกาแฟไปก่อน ให้รสชาติได้มาตรฐาน”
“แต่ไม่ได้คิดว่าวางรากฐานด้วยกัน ไม่ครับๆ ผมว่าร้านกาแฟเป็นร้านในฝันของใครหลายๆ คน ดาราหลายคนก็อยากทำ อยากมีธุรกิจร้านกาแฟไว้นัดคุยนัดเจอแฟนคลับ อยากให้อยู่นานที่สุด ก็เลยเลือกคนที่ไว้ใจได้ดูแลร้าน แล้วก็คนชงกาแฟด้วยเป็นคนที่สำคัญมาก เพราะให้ความสำคัญกับคนชงกาแฟส่งให้เขาไปเรียนชง ยอมรับว่าแรกๆ รสชาติอาจไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ ตอนนี้โอเคขึ้นแล้ว และก็มีคนติดแล้วครับ”
“ถามว่าทำธุรกิจด้วยกันกลัวมีปัญหาไหม มันไม่เสมอไปครับ เราแบ่งส่วนกันไป ที่สำคัญ เรื่องพวกนี้ถึงไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว มันก็มองเป็นเรื่องธุรกิจอนาคตความสัมพันธ์จะเป็นยังไงก็ตาม แต่ร้านกาแฟก็ยังต้องอยู่ต่อไป ผมโฟกัสเรื่องธุรกิจกับงาน ผมก็พยายามเข้าไปดูด้วยตัวเองมากขึ้น เผื่ออนาคตเรามีสาขา มีแฟรนไชส์”
ที่มา: manager.co.th
