บัตรประชาชนของ "นายทวีศักดิ์" ที่ "พลอย" นำมาใช้หักภาษี หลังจากที่ “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” และแม่ “ธัญดา นิลภิรมย์” ร่วมด้วยทนายความ “ก้อง หิรัญสุรงค์” ออกมาแถลงข่าวชี้แจงกรณีพลอยใช้บัตรประชาชนคนอื่นมาหักภาษี ว่า เป็นความผิดพลาดของฝ่ายบัญชี ที่ส่งบัตรประชาชนไปให้บริษัทออแกไนซ์คู่กรณีผิด ซึ่งตอนนี้ทางตนได้ส่งไปให้ออแกไนซ์แก้ไขมาใหม่แล้ว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น กระแสตามมาก็มีทั้งเห็นใจและให้โอกาส แต่บางคนก็ยังเห็นว่า ยังไงพลอยก็ควรโดนตรวจสอบ เพื่อให้ความถูกต้องในทางกฎหมายอยู่ดี
ล่าสุด ผู้สื่อข่าว นสพ.เดลินิวส์ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านพักของ นายทวีศักดิ์ บุนนาค อายุ 77 ปี ในย่านประชาอุทิศ ฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของบัตรประชาชนที่พลอยเอามาให้หักภาษี เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า นายทวีศักดิ์ เจ้าของบัตร ได้ยอมรับว่า ตนเป็นพ่อของคนขับรถพลอย และอีกฝ่ายเป็นคนมายืมบัตรของตนไปใช้ในการรับค่าตัว ซึ่งตนไม่รู้ว่าผิดกฎหมายจึงยินดีให้ไป
โดยเจ้าตัวเผยว่า พอมีข่าวออกมารู้สึกตกใจอยู่บ้าง ก่อนเล่าย้อนให้ฟังว่า ตนและแม่ของนางเอกพลอย เป็นญาติห่างๆ กัน ต่อมาลูกชายของตนชื่อตึ๊ง ได้เริ่มทำงานเป็นคนขับรถให้พลอยเป็นระยะเวลานานหลายปี
ต่อมาลูกชายได้มาขอยืมบัตรประชาชน บอกว่า เอาไปให้พลอยในการรับเงินค่าตัว ตนเลยยอมให้ไป เพราะเห็นว่าลูกชายทำงานอยู่ด้วยมาเป็นเวลานาน โดยทุกครั้งเวลาที่พลอยจะรับเช็คค่าตัวต่างๆ จะฝากลูกชายให้พาไปรับเช็คขึ้นเงินที่ธนาคาร เพื่อโอนเข้าบัญชีของนางเอกสาว ซึ่งเกิดเรื่องแล้วมีชื่อของตนเป็นข่าวออกไป ก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะมีเพื่อนบ้านมาถาม แต่ไม่ได้เครียดอะไร
เมื่อถามว่า หลังเกิดเรื่อง ทางดาราสาวได้โทรศัพท์มาสอบถามข่าวคราวหรือไม่ นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า พลอยไม่ได้โทร.มาสอบถามใดๆ ทั้งยังบอกอีกว่า ตนไม่รู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ที่ยอมทำอย่างนี้ เพราะเห็นว่า พลอยก็ดีกับทางครอบครัวตนมาตลอด ที่ผ่านมา ไม่เคยเรียกร้องรับค่าตอบแทนใดๆ เพราะตนเองก็มีเงิน
สำหรับประวัติ นายทวีศักดิ์ ปัจจุบัน อายุ 77 ปี เคยรับราชการสังกัดกองสัญญาณทหารเรือ ปัจจุบันคือ กองสื่อสาร เคยออกศึกสมัยกบฏแมนฮัตตัน ล่าสุด ได้เข้า รพ.ผ่าตัดต้อหิน จึงอาจทำให้มีตัวอักษร “ICU” อยู่ในสำเนาบัตรประชาชน ตามที่ปรากฏออกมาตามสื่อฉบับต่างๆ
จากกรณีดังกล่าว ในเมื่อไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของฝ่ายบัญชี ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า นางเอกสาวตั้งใจที่จะเลี่ยงภาษีหรือไม่?!
ที่มา: manager.co.th
