นาย “สาธิต รังคสิริ” อธิบดีกรมสรรพากร หลังจากที่เกิดกรณีพิพาทระหว่างนางเอกสาว “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” กับบริษัทออแกไนซ์ที่ชื่อว่า “แอบโซลูท ฟอ ยู จำกัด” ที่มี “อาร์ต กันต์ระพี วิไลภรณ์” เป็นผู้บริหาร โดยต้นเหตุมาจากเฟสบุ๊กของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “เอกมล” ออกมาแฉถึงพฤติกรรมการรับงานของผู้จัดการส่วนตัว และนักแสดงสาว โดยมุ่งประเด็นไปในทำนองที่ว่า ผู้จัดการส่วนตัวมีการโกงเงินพลอยรึเปล่า
ซึ่งสาวพลอยก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยได้นำหลักฐานที่เป็นสำเนาเช็คเงินค่าตัว จำนวน 145,500 มายืนยันต่อหน้านักข่าว พร้อมกับบอกว่า ค่าตัวจริงๆ ของตนอยู่ที่ 150,000 บาท แต่ทางบริษัทออแกไนซ์ดังกล่าวจ่ายมาไม่ครบ ซึ่งพลอยไม่เอาเรื่องก็ดีแล้ว ส่วนเรื่องจะหักค่าภาษี ณ ที่จ่าย ต้องเป็นหน้าที่พลอย ที่จะต้องไปดำเนินการเองหลังจากนี้
ต่อมา ทางบริษัทออแกไนซ์ ได้ออกมาแถลงข่าว โดยชี้แจงว่า บริษัทตนไม่ได้เป็นคนเขียนเฟสบุ๊กดังกล่าวขึ้นมา พร้อมกับชี้แจงว่าทำไม บริษัท หักภาษี ณ ที่จ่าย สาวพลอยแค่ 3 % ซึ่งจริงๆ แล้วตามกฎหมาย นักแสดงสาธารณะจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% พร้อมกับแฉว่าพลอย ได้นำบัตรประชาชนคนอื่นมารับเช็คเงิน ที่สั่งจ่ายในชื่อของ “ไลลา บุญยศักดิ์” ทางบริษัทเห็นว่าบัตรประชาชนเป็นของบุคคลทั่วไป จึงจำเป็นต้องหักภาษี 3% ตามกฎหมาย แต่ก็ยินดีให้สรรพากรเข้ามาตรวจสอบ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย ว่าสมควรหรือไม่
ล่าสุดเช้าวันนี้ ทางรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ได้สัมภาษณ์นาย “สาธิต รังคสิริ” อธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยแจกแจงว่า....
“ปกติแล้วนักแสดงสาธารณะจะต้องจ่ายภาษีตามมาตรา 40(8) ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร คือจะต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ร้อยละ 5 หลังจากนั้น สิ้นปี นักแสดงก็จะต้องมีการยื่นแบบฟอร์มรายได้รวมประจำปี โดยจะคิดอัตราเงินรวม ถ้าไม่เกิน 300,000 บาท จะหักภาษีร้อยละ 60 แต่ถ้าหากเกิน 300,000 บาทขึ้นไป จะหักภาษีในอัตราร้อยละ 40”
“สำหรับกรณีของ พลอย เฌอมาลย์ กับบริษัท แอบโซลูท ฟอ ยู จำกัด นั้น ต้องเป็นการตกลงกันระหว่างผู้จัดงานกับตัวนักแสดง เรื่องนี้ทางสรรพากรไม่สามารถเข้าไปยุ่ง หรือไกล่เกลี่ยได้ จนกว่าจะมีการยื่นแบบภาษีรายได้รวมประจำปี และตามหลักกฎหมายแล้ว การหักภาษีจะต้องหักจากผู้ที่มีรายได้ (คือคนที่ได้รับเงิน) เช่น ผู้มีรายได้คือ นาย ก. แต่ผู้จ่ายไปหักภาษี นาย ข. สรรพากร มีสิทธิ์ที่จะประเมินว่า ผู้จ่ายเงินยังไม่ได้จ่ายผู้รับตามจริง ภาษีที่หักมาก็ยังไม่เป็นผล ต้องทำตามกฎหมายจ่ายให้ใคร หักคนนั้น”
“ส่วนกรณีผู้รับไม่ได้ถูกหักภาษีตามจริง พอถึงเวลายื่นแบบฟอร์มรายได้รวมประจำปี ถ้ายื่นไม่ครบตามจำนวนรายได้ที่ปรากฎ ก็จะมีความผิดทันที ฉะนั้นจะต้องดูว่า ผู้รับเงิน ยื่นภาษีเงินได้ครบรึเปล่า กรณีนี้ บริษัท จ่ายชื่อเช็ค เป็นชื่อของคุณ พลอย เฌอมาลย์ ซึ่งจ่ายถูกต้อง ถูกตัว แต่คนเซ็นรับเป็นบุคคลอื่น ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงอีกว่า ผู้รับเงินจัดตั้งเป็นบริษัทหรือไม่ และได้ว่าจ้างนักแสดงคนดังกล่าวอย่างไร ซึ่งต้องไปดูรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง แต่ถ้าหากจ่ายเช็คในนามคุณ เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และสิ้นปี คุณพลอย นำเงินไปคิดหักภาษีรายได้ประจำปีครบอย่างถูกต้อง ทางบริษัทผู้จ่ายเงิน ก็จะมีความผิดฐานหักภาษีไม่ครบถ้วน”
ที่มา: manager.co.th
