Author Topic: ATSI ติดปีกซอฟต์แวร์ไทย เสริมการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่ม  (Read 940 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


      เอทีเอสไอระบุผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยอ่อนเรื่องการตลาด จับมือ 'ซิป้า และมืออาชีพทางการตลาด 'เอ็มเอไอ' ผุดโครงการติดอาวุธการตลาดให้ซอฟต์แวร์ไทย เน้นผู้ประกอบการคนไทยที่ทำธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี เชื่อสร้างรายได้เพิ่ม 30%
       
       นายสมพร มณีรัตนะกูล นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย หรือเอทีเอสไอ กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่เป็นฝีมือของบริษัทคนไทยไม่เติบโต รวมถึงไม่เป็นที่ยอมรับในตลาดมากนัก ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยจะมีความรู้ความสามารถทางด้านเทคนิคในการพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ได้ด้อยกว่าบริษัทต่างประเทศเท่าไร รวมไปถึงคุณภาพซอฟต์แวร์ที่ออกสู่ตลาดถือว่ามีคุณภาพสูงพอๆกัน สามารถตอบโจทย์การใช้งานทางด้านธุรกิจได้เป็นอย่างดีก็คือ เรื่องความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการตลาด เพราะทุกวันนี้การตลาดถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น จะเห็นว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในประเทศไทยปีนี้มีอัตราการเติบโต 5% ต่อปีเท่านั้น เมื่อเทียบกับต่างประเทศที่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เติบโตสูงกว่ามาก
       
       กว่า 90% ของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยในเวลานี้ที่ยังไม่มีการนำเรื่องการตลาดเข้ามาเสริมศักยภาพในการทำตลาดแต่ประการใด ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของการลดราคาซอฟต์แวร์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่เห็นคุณประโยชน์ของซอฟต์แวร์ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มศัยกภาพในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ราคาของซอฟต์แวร์ที่ผลิตโดยคนไทยมีราคาต่ำกว่าซอฟต์แวร์ที่ผลิตจากบริษัทต่างประเทศ ซึ่งหากผู้ประกอบการคนไทยนำการตลาดมาใช้จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
       
       ด้วยเหตุนี้ทางเอทีเอสไอจึงได้ร่วมมือกับทางสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า และสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย หรือเอ็มเอไอ นำนักการตลาดมืออาชีพเข้ามาช่วยฝึกอบรมผู้ประกอบการรวมถึงทีมขายในเรื่องเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดภายใต้โครงการติดอาวุธการตลาดให้ซอฟต์แวร์ไทย ซึ่งเป็นการจัดทำหลักสูตรด้านการตลาดและการขายสำหรับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ รวมถึงการจัดทำเวิร์กช็อปให้กับผู้ที่เข้าอบรมในโครงการนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงประเด็นพร้อมนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจได้ทันที
       
       ผู้เข้าร่วมโครงการฯ นี้จะต้องเป็นผู้ประกอบซอฟต์แวร์ไทยที่มีหุ้นอย่างน้อย 51% และต้องดำเนินธุรกิจมาไม่น้อยกว่า 3 ปี เพื่อต้องการผู้ประกอบการที่สามารถดำเนินธุรกิจในตลาดได้แล้วมาเรียน โครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร หลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการโดยตรง กับหลักสูตรสำหรับทีมขาย ทั้ง 2 หลักสูตรผู้ประกอบการจะออกค่าใช้จ่ายเอง และจะมีการคืนเงินให้ประมาณ 30% เมื่อเข้าเรียนจนจบหลักสูตร
       
       “เชื่อว่า ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมในโครงการนี้จะสามารถนำความรู้ที่ได้ช่วยให้เติบโตในเชิงของรายได้ประมาณ 20-30% เพราะโครงการนี้มีการทำเวิร์กช็อปลงลึกไปในรายละเอียดจริงๆ ไม่ใช่แค่อบรบครึ่งวัน หนึ่งวันเหมือนที่เคยทำก่อนหน้านี้”
       
       นางสุวิมล เทวะศิลชัยกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นโครงการแรกที่อบรมเรื่องการตลาดอย่างจริงๆ กว่าทุกโครงการที่ผ่านมาที่ทางซิป้าให้การสนับสนุน เพราะนอกจากตัวหลักสูตรที่แบ่งเป็น 2 หลักสูตรแล้ว ยังมีให้เรียนถึง 2 ระดับ ที่สำคัญหลักจากเรียนเสร็จแล้ว ยังจะมีคลีนิกการตลาดที่กำลังเตรียมการจัดทำเป็นพิเศษเพื่อต่อยอดหลักจากที่เรียนไปแล้ว โดยจะเป็นลักษณะการนำปัญหาต่างๆ มาให้ที่ปรึกษาทางการตลาดมาช่วยวิเคราะห์ แก้ปัญหาหลังจากที่นำความรู้ดังกล่าวไปดำเนินการแล้ว ซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ ไตรมาส
       
       “ที่ผ่านมา การจัดเทรนนิ่งของซิป้ามีการอบรมเรื่องการตลาดให้อยู่แล้ว แต่เป็นลักษณะแตะๆ เท่านั้น ไม่ได้จริงจังอะไรมาก ผู้ที่ให้ความรู้ก็ไม่ได้เป็นผู้ที่มีความรู้การตลาดจริงๆ ทำให้เวลานำไปปฏิบัติทำได้ค่อนข้างยาก แต่โครงการนี้ถือเป็นการผลิกโฉมในการเทรนนิ่งการตลาดเท่าที่ทางซิป้าจัดทำขึ้นมา ในความตั้งใจแล้ว จะผลักดันโครงการนี้ให้เกิดมีขึ้นทุกปี”
       
       Company Relate Link :
       ATSI
       SIPA

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
872 Views
Last post October 06, 2011, 01:37:09 PM
by Nick