Author Topic: ประชากรเน็ตจีนทะลุ 538 ล้านคน  (Read 847 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


      สำรวจพบประชากรอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนมีจำนวนทะลุ 538 ล้านคนแล้ว อัตราเติบโตพุ่งกระฉูด 39.9% ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา (เมษายน-มิถุนายน 2555) เฉพาะผู้ชมวิดีโอออนไลน์ในจีนคิดเป็นจำนวนสูงถึง 350 ล้านคน สูงกว่าประชากรอินเทอร์เน็ตทั่วสหรัฐฯ ที่มีจำนวนทั้งหมด 302 ล้านคนอย่างเห็นได้ชัด
       
       จากข้อมูลในรายงานของศูนย์สารสนเทศเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจีนเรื่อง “Statistical Report on Internet Development in China” พบว่าจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศจีนมีจำนวนเกิน 538 ล้านคนแล้วในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 39.9% จาก 485 ล้านคนเมื่อช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า
       
       อัตราเติบโต 39.9% นั้นเพิ่มขึ้นจากอัตราเติบโตที่เคยวัดได้ 36.2% เมื่อไตรมาส 2 ของปี 2554 โดยหากแยกส่วนการใช้งาน พบว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือนั้นเพิ่มขึ้น สวนทางกับจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสายหรือบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่ลดลงต่อเนื่องมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
       
       จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือ Mobile Internet ในจีนนั้นมีจำนวน 388 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22% จาก 318 ล้านคนที่ลงทะเบียนใช้งานเมื่อปีที่แล้ว โดยจำนวน 388 ล้านคนนี้คิดเป็น 72.1% ของประชากรออนไลน์ทั้งหมดในจีน
       
       ขณะที่มังกรออนไลน์พร้อมใจกันเมิน Broadband Internet หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงซึ่งมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากการสำรวจช่วงปลายเดือนมิถุนายนจำนวนผู้ใช้บรอดแบนด์ในจีนมีเพียง 380 ล้านคน จากปี 2553 ที่จำนวนผู้ใช้บรอดแบนด์ในจีนพุ่งสูงที่สุด 450 ล้านคน โดยผู้ใช้งานกว่า 70 ล้านคนหรือคิดเป็น 15.5% ตัดสินใจเลิกใช้งานบรอดแบนด์ไปเรียบร้อย
       
       สถิติล่าสุดระบุว่า จำนวนชื่อโดเมนเนม (domain name) ที่จดในจีนนั้นมีจำนวน 8.73 ล้านชื่อในขณะนี้ โดย 3.98 ล้านชื่อเป็นยูอาร์แอลที่ลงท้ายด้วย “.cn” สำหรับจำนวนแอดเดรส IPv6 ในจีนนั้นมีมากเป็นอันดับ 3 ของโลกในขณะนี้ ตามหลังบราซิล และสหรัฐอเมริกา
       
       สำหรับจำนวนผู้ใช้บริการซื้อสินค้าผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโมบายล์ชอปปิ้งนั้นมีจำนวน 37.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 59.7% ในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา โดยปลายปี 2554 จำนวนผู้ใช้โมบายล์ชอปปิ้งนั้นพบว่ามีจำนวนเพียง 23.47 ล้านคน
       
       นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่าชาวจีนไว้ใจการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น โดยมีผู้ใช้ในขณะนี้มากกว่า 44.4 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 45.2% เมื่อเทียบกับ 30.58 ล้านคนในปลายปี 2554
       
       อีกจุดที่น่าสนใจคือชาวจีนนิยมชมวิดีโอออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยจำนวนผู้ชมวิดีโอออนไลน์แดนมังกรเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดถึง 25 ล้านคนนับตั้งแต่ต้นปี 2555 ทำให้ยอดผู้ชมวิดีโอออนไลน์ของจีนทะลุหลัก 350 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าประชากรอินเทอร์เน็ตในแดนลุงแซมสหรัฐอเมริกาที่มีอยู่ทั้งสิ้น 302 ล้านคนตามสถิติล่าสุด
       
       ในจำนวน 350 ล้านคน ข้อมูลระบุว่าชาวจีนชมวิดีโอออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือราว 100 ล้านคน ถือเป็นกลุ่มตลาดมหาศาลที่ยังมีการขยายตัวได้อีกในอนาคต
       
       รายงานสถิติผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนนี้ถูกเผยแพร่ในเวลาไล่เลี่ยกับการสำรวจผู้บริโภคจีนในตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยพบว่าเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีปริมาณการชอปปิ้งออนไลน์มากที่สุด ซึ่งแซงหน้าปักกิ่ง กว่างโจว และเซินเจิ้น ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทันสมัยของจีน
       
       ข้อมูลข้างต้นได้มาจากการสำรวจของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังของจีนอย่างเถาเป่า (Taobao) ซึ่งสำรวจการใช้จ่ายออนไลน์จาก 2,300 เมืองทั่วประเทศจีน โดยศึกษาบนพื้นฐานสภาพเศรษฐกิจ ประชากร การใช้จ่าย และการใช้งานอินเทอร์เน็ต จนพบว่าจีนนั้นมี 4 เมืองที่อยู่ในกลุ่ม tier-1 ซึ่งมีการใช้จ่ายผ่านเถาเป่ามากที่สุดคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 34.9% และทั้ง 4 เมืองก็คือ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กว่างโจว และเซินเจิ้น
       
       สำหรับประเทศกลุ่ม tier-2 ที่มีการใช้จ่ายรองลงมานั้นมี 24 เมือง โดยกลุ่ม tier-3 มีจำนวน 94 เมือง, กลุ่ม tier-4 อีก 156 เมือง, กลุ่ม tier-5 จำนวน 381 เมือง และกลุ่ม tier-6 จำนวน 1,643 เมือง
       
       ทั้งหมดนี้ถือเป็นครั้งแรกในจีนที่มีการจัดกลุ่มเมืองตามศักยภาพด้านอีคอมเมิร์ซ โดยความจริงที่น่าสนใจอีกจุดที่พบคือกลุ่ม tier-6 ของจีนมีอัตราเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับทุกกลุ่ม เช่นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2555 ที่ผ่านมาอัตราการใช้จ่ายของกลุ่ม tier-6 เติบโต 150.6% เมื่อเทียบกับกลุ่ม tier-1 ที่มีอัตราเติบโต 20.7% เท่านั้น

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)