สุรินทร์ อมรชัชวาลกุล กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท มีเดีย-อินฟินิตี้ จำกัด เจ้าของแบรนด์อาม่า
สำหรับครึ่งปีหลัง บริษัทจะวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตระกูลอาม่าในชื่อ "เลดี้อาม่า"
"เลดี้อาม่า" สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีขนาดตัวอักษรและไอคอนขนาดใหญ่ให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก
โทรศัพท์มือถือ 5 ภาษานี้ถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า 'มือถืออาเซียน' โดยสุรินทร์ อมรชัชวาลกุล กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท มีเดีย-อินฟินิตี้ จำกัด เจ้าของแบรนด์อาม่า เปิดเผยว่าภายในโทรศัพท์จะประกอบด้วยภาษาลาว เขมร พม่า ไทย และอังกฤษ คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายได้ภายในเดือนก.ค. 2555
'ราคาของมือถืออาเซียนคาดว่าจะอยู่ที่หลักพันนิดหน่อย เราดึงคนพื้นที่มาพัฒนา UI โดยตรง วันนี้แรงงานพม่าและประเทศกลุ่มอาเซียนมีจำนวนมากในไทย ส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์ในการสื่อสารพื้นฐาน ปัญหาคือคนเหล่านี้อ่านภาษาไทยได้น้อย เชื่อว่าจะดึงลูกค้าจากกลุ่มผู้ใช้ส่วนนี้ได้'
สุรินทร์ระบุว่าช่องทางวางจำหน่ายมือถืออาเซียนจะแตกต่างจากมือถืออาม่า จากเดิมที่อาม่าวางจำหน่ายในร้านเจมาร์ท ตู้ค้าอิสระ และร้านดีแทคเซ็นเตอร์ แต่มือถืออาเซียนจะวางจำหน่ายตามคอมมูนิตี้มอลล์นอกกรุงเทพ เช่น ตลาดนัดในสมุทรปราการ ทั้งหมดบริษัทมีแผนขยายไปยังโมเดิร์นเทรดในอนาคต
แผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ของอาม่านั้นยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์อาม่าทั้งหมดอย่างที่หลายคนเข้าใจ จุดนี้เชื่อว่าผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดว่าเป็นการเพิกถอนแบรนด์ แต่ความจริงโทรศัพท์บางรุ่นเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ
'เรานำเข้าโทรศัพท์มือถือ ก็ต้องทำตามข้อกำหนด กสทช. เพื่อให้ได้ไลเซนส์มา อาม่าและอาม่าพลัสซึ่งเป็นรุ่นที่เราทำตลาดไป 2 ปีที่แล้วเกิดผิดพลาด กสทช. จึงเพิกถอนใบอนุญาตเพราะเอกสารผิด การทดสอบเครื่องเพื่อรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นหน้าที่หลักของเรา เรายึดลูกค้าเป็นหลัก และเข้าใจว่าซื้อโทรศัพท์มือถืออาม่าให้พ่อ-แม่ใช้งาน ทุกคนไม่ต้องการเอาพ่อแม่มาเสี่ยง เราจึงส่งให้แล็ปเทสต์อีกครั้ง ซึ่งก็พบว่าไม่มีปัญหา ลูกค้าปลอดภัยจริงๆ'
อาม่าและอาม่าพลัสเป็นส่วนหนึ่งในโทรศัพท์มือถือ 280 รุ่นที่ถูก กสทช. สั่งให้ทำลายทิ้งภายใน 30 วัน นับตั้งแต่มีประกาศวันที่ 20 มิถุนายน 2555 โดย กสทช. แจ้งว่า เพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ทั้ง 280 รุ่นเนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ผ่านการทดสอบจากต่างประเทศ หรือมีการปลอมแปลง แก้ไข เปลี่ยนแปลง ทำให้ข้อมูลการทดสอบผิดจากผลการทดสอบต้นฉบับ และไม่ให้ผู้ประกอบการ นำเข้าโทรศัพท์ทั้ง 280 รุ่นมาจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป โดย กสทช. ยกเว้นให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์ทั้ง 280 รุ่นสามารถใช้งานต่อไปได้โดยไม่มีความผิด
"เลดี้อาม่า" สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีขนาดตัวอักษรและไอคอนขนาดใหญ่ให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก
สุรินทร์ระบุว่าบริษัทจะดำเนินการส่งผลการทดสอบครั้งใหม่ให้ กสทช. พิจารณาอีกครั้ง ในระหว่างรอความคืบหน้าจาก กสทช. ถึงขั้นตอนที่บริษัทต้องดำเนินการเพิ่มเติม
สำหรับครึ่งปีหลัง บริษัทจะวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตระกูลอาม่าในชื่อ "เลดี้อาม่า" จุดเด่นคือการเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีขนาดตัวอักษรและไอคอนขนาดใหญ่ให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ และชื่อรุ่นนี้ไม่เกี่ยวกับ'เลดี้กาก้า'แต่อย่างใด
'ที่ตั้งชื่อว่าเลดี้เพราะจะได้ให้ความรู้สึกทันสมัย ผู้ใช้สามารถโหลดโปรแกรมจาก Google Play ได้เหมือนผู้ใช้แอนดรอยด์ทั่วไป เราเขียน UI (ส่วนติดต่อผู้ใช้) ขึ้นมาครอบใหม่ ตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์ คาดว่าจะวางจำหน่ายทันช่วงวันแม่ ราคาราว 5,000-7,000 บาท'
นอกจากนี้ สุรินทร์ยังมีแผนเปิดตัวมือถือตระกูลซูเปอร์อาม่ารุ่นใหม่ ที่สามารถวัดความดันโลหิตของผู้ใช้ได้ โดยตัวเครื่องจะมีสายเชื่อมระหว่างตัวบีบมือและโทรศัพท์เพื่อให้ผู้ใช้ครอบแขนเพื่อวัดความดันได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังเป็นอุปกรณ์ต้นแบบที่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะวางตลาด
"ต้องให้มั่นใจก่อนว่าเครื่องคุณภาพดี และได้มาตรฐานการแพทย์"
สุรินทร์ระบุว่าหลังการปล่อยภาพยนตร์โฆษณาทางฟรีทีวี ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์อาม่านั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมามือถืออาม่าขยายตัวราว 60-70% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับงบการตลาดปี 2555 ที่บริษัทเตรียมไว้ 30 ล้านบาท
Company Related Link :
MediaInfinity
ผู้สร้างมือถือแบรนด์"อาม่า"เผยยอดขายฉลุย โอดข่าว กสทช. สั่งเพิกถอนใบอนุญาตจำหน่ายมือถือรุ่น 'อาม่าพลัส' นั้นทำให้ถูกเข้าใจผิดว่ามือถืออาม่าทั้งตระกูลถูกแบน แต่แท้จริงแล้วมีผลกับบางรุ่นเท่านั้น ระบุบริษัทเตรียมเปิดตลาดด้วยรุ่นใหม่ 'เลดี้อาม่า' สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์พร้อมไอคอนขนาดใหญ่อ่านสบายตาสำหรับผู้สูงวัยที่จะวางตลาดช่วงวันแม่ ตามหลัง 'มือถืออาหม่อง' โทรศัพท์มือถือ 5 ภาษาที่อาหม่องหรือชาวพม่า รวมถึงชาวลาวและเขมรจะสามารถใช้งานได้ด้วยภาษาของตัวเอง โทรศัพท์มือถือ 5 ภาษานี้ถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า 'มือถืออาเซียน' โดยสุรินทร์ อมรชัชวาลกุล กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท มีเดีย-อินฟินิตี้ จำกัด เจ้าของแบรนด์อาม่า เปิดเผยว่าภายในโทรศัพท์จะประกอบด้วยภาษาลาว เขมร พม่า ไทย และอังกฤษ คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายได้ภายในเดือนก.ค. 2555
'ราคาของมือถืออาเซียนคาดว่าจะอยู่ที่หลักพันนิดหน่อย เราดึงคนพื้นที่มาพัฒนา UI (User Interface ; ส่วนปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้) โดยตรง วันนี้แรงงานพม่าและประเทศกลุ่มอาเซียนมีจำนวนมากในไทย ส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์ในการสื่อสารพื้นฐาน ปัญหาคือคนเหล่านี้อ่านภาษาไทยได้น้อย เชื่อว่าจะดึงลูกค้าจากกลุ่มผู้ใช้ส่วนนี้ได้'
สุรินทร์ระบุว่าช่องทางวางจำหน่ายมือถืออาเซียนจะแตกต่างจากมือถืออาม่า จากเดิมที่อาม่าวางจำหน่ายในร้านเจมาร์ท ตู้ค้าอิสระ และร้านดีแทคเซ็นเตอร์ แต่มือถืออาเซียนจะวางจำหน่ายตามคอมมูนิตี้มอลล์นอกกรุงเทพ เช่น ตลาดนัดในสมุทรปราการ ทั้งหมดบริษัทมีแผนขยายไปยังโมเดิร์นเทรดในอนาคต
แผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ของอาม่านั้นยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์อาม่าทั้งหมดอย่างที่หลายคนเข้าใจ จุดนี้เชื่อว่าผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดว่าเป็นการเพิกถอนแบรนด์ แต่ความจริงโทรศัพท์รุ่นที่มีผลกระทบนั้นมีเฉพาะรุ่นอาม่าและอาม่าพลัสเท่านั้น
'เรานำเข้าโทรศัพท์มือถือ ก็ต้องทำตามข้อกำหนด กสทช. เพื่อให้ได้ไลเซนส์มา อาม่าและอาม่าพลัสซึ่งเป็นรุ่นที่เราทำตลาดไป 2 ปีที่แล้วเกิดผิดพลาด กสทช. จึงเพิกถอนใบอนุญาตเพราะเอกสารผิด การทดสอบเครื่องเพื่อรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นหน้าที่หลักของเรา เรายึดลูกค้าเป็นหลัก และเข้าใจว่าซื้อโทรศัพท์มือถืออาม่าให้พ่อ-แม่ใช้งาน ทุกคนไม่ต้องการเอาพ่อแม่มาเสี่ยง เราจึงส่งให้แล็ปเทสต์อีกครั้ง ซึ่งก็พบว่าไม่มีปัญหา ลูกค้าปลอดภัยจริงๆ'
อาม่าและอาม่าพลัสเป็นส่วนหนึ่งในโทรศัพท์มือถือ 280 รุ่นที่ถูก กสทช. สั่งให้ทำลายทิ้งภายใน 30 วัน นับตั้งแต่มีประกาศวันที่ 20 มิถุนายน 2555 โดย กสทช. แจ้งว่า เพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ทั้ง 280 รุ่นเนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ผ่านการทดสอบจากต่างประเทศ หรือมีการปลอมแปลง แก้ไข เปลี่ยนแปลง ทำให้ข้อมูลการทดสอบผิดจากผลการทดสอบต้นฉบับ และไม่ให้ผู้ประกอบการ นำเข้าโทรศัพท์ทั้ง 280 รุ่นมาจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป โดย กสทช. ยกเว้นให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์ทั้ง 280 รุ่นสามารถใช้งานต่อไปได้โดยไม่มีความผิด
สุรินทร์ระบุว่าบริษัทจะดำเนินการส่งผลการทดสอบครั้งใหม่ให้ กสทช. พิจารณาอีกครั้ง ในระหว่างรอความคืบหน้าจาก กสทช. ถึงขั้นตอนที่บริษัทต้องดำเนินการเพิ่มเติม
สำหรับครึ่งปีหลัง บริษัทจะวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตระกูลอาม่าในชื่อ "เลดี้อาม่า" จุดเด่นคือการเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีขนาดตัวอักษรและไอคอนขนาดใหญ่ให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ และชื่อรุ่นนี้ไม่เกี่ยวกับ'เลดี้กาก้า'แต่อย่างใด
'ที่ตั้งชื่อว่าเลดี้เพราะจะได้ให้ความรู้สึกทันสมัย ผู้ใช้สามารถโหลดโปรแกรมจาก Google Play ได้เหมือนผู้ใช้แอนดรอยด์ทั่วไป เราเขียน UI ขึ้นมาครอบใหม่ ตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์ คาดว่าจะวางจำหน่ายทันช่วงวันแม่ ราคาราว 5,000-7,000 บาท'
นอกจากนี้ สุรินทร์ยังมีแผนเปิดตัวมือถือตระกูลซูเปอร์อาม่ารุ่นใหม่ ที่สามารถวัดความดันโลหิตของผู้ใช้ได้ โดยตัวเครื่องจะมีสายเชื่อมระหว่างตัวบีบมือและโทรศัพท์เพื่อให้ผู้ใช้ครอบแขนเพื่อวัดความดันได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังเป็นอุปกรณ์ต้นแบบที่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะวางตลาด
"ต้องให้มั่นใจก่อนว่าเครื่องคุณภาพดี และได้มาตรฐานการแพทย์"
สุรินทร์ระบุว่าหลังการปล่อยภาพยนตร์โฆษณาทางฟรีทีวี ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์อาม่านั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมามือถืออาม่าขยายตัวราว 60-70% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับงบการตลาดปี 2555 ที่บริษัทเตรียมไว้ 30 ล้านบาท
Company Related Link :
Infinity
ที่มา: manager.co.th
