กูเกิล (Google) โหมไฟจู่โจมแท็บเล็ตเจ้าตลาดอย่างไอแพด (iPad) และแท็บเล็ตราคาประหยัดอย่างคินเดิลไฟร์ (Kindle Fire) ด้วยการเปิดตัวแท็บเล็ตน้องใหม่ล่าสุด “Nexus 7” บนความหวังว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดผ่านคอนเทนต์ของร้านดาวน์โหลดแอปฯ เพลง และภาพยนตร์บนกูเกิลเพลย์ (Google Play) Nexus 7 เป็นแท็บเล็ตที่กูเกิลจับมือกับอัสซุส (Asus) ผู้ผลิตสัญชาติไต้หวัน พัฒนาขึ้นโดยใช้หน้าจอ 7 นิ้วพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นล่าสุด ดีกรีการันตีคือน้ำหนักเครื่องที่จะเบาเท่ากับเล่มหนังสือกระดาษ
ฮูโก บาร์รา (Hugo Barra) หัวหน้าทีมพัฒนาแอนดรอยด์ของกูเกิลกล่าวในงานประชุมนักพัฒนาประจำปี Google I/O ที่ซานฟรานซิสโกว่า กูเกิลต้องการออกแบบอุปกรณ์ที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากคอนเทนต์หรือเนื้อหาทุกอย่างที่มีบริการบนร้านกูเกิลเพลย์ (play.google.com) ซึ่งเป็นจุดประสงค์เดียวกันกับการพัฒนาสินค้าตระกูล Nexus ที่ต้องการให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบตามวิสัยทัศน์ที่กูเกิลมองเห็น
แท็บเล็ต Nexus จะเปิดให้สั่งซื้อที่ออสเตรเลีย แคนาดา อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาผ่านร้านกูเกิลเพลย์ในราคา 199 เหรียญสหรัฐตามข่าวลือ (ราว 6,000 บาท) และสามารถเริ่มจัดส่งในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้
ราคา 199 เหรียญสหรัฐนั้นถูกนำไปเปรียบเทียบว่าเท่ากับแท็บเล็ตจากอเมซอนอย่างคินเดิลไฟร์ แน่นอนว่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์ราคาประหยัดที่อเมซอนทำตลาดมาก่อนหน้านี้มีคุณสมบัติด้อยกว่า Nexus 7 ที่กูเกิลเพิ่งเปิดตัว ทั้งหมดนี้ทำให้ Nexus 7 ถูกเรียกว่าเป็น “Kindle Killer” เพชฌฆาตคินเดิลซึ่งเป็นหนามตำใจอเมซอนโดยตรง
ที่สำคัญ Nexus 7 จะแถมคูปองมูลค่า 25 เหรียญสหรัฐ (ราว 775 บาท) เพื่อให้ผู้ใช้เลือกซื้อเนื้อหาในร้านกูเกิลเพลย์ จุดนี้ทำให้กูเกิลถูกมองว่าพร้อมชนทั้งอเมซอนและแอปเปิล (Apple) ซึ่งมีร้านจำหน่ายหนังสือ เพลง นิตยสาร และเนื้อหาอื่นๆ แบบออนไลน์
ในงานประชุมครั้งนี้กูเกิลยังเปิดตัว Nexus Q อุปกรณ์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่สามารถสตรีมมิ่งภาพยนตร์หรือเพลงจากร้านกูเกิลเพลย์มาเล่นบนทีวีหรือลำโพงที่บ้านได้โดยไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อใดๆ (การสตรีมมิ่งคือการรับส่งข้อมูลไปเล่นไป ดีกว่าการดาวน์โหลดที่ผู้ใช้ต้องเสียเวลารอให้การดาวน์โหลดจบลงจึงจะสามารถชมภาพยนตร์หรือฟังเพลงนั้นได้)
การออกอุปกรณ์ใหม่เหล่านี้สะท้อนว่ากูเกิลมีความมั่นใจในร้านกูเกิลเพลย์อย่างมาก จุดนี้กูเกิลย้ำว่าร้านกูเกิลเพลย์มีแอปพลิเคชัน เกม และเพลงมากกว่า 600,000 คอนเทนต์แล้วในวันนี้ ซึ่งความเป็นระบบคลาวด์คอมพิวติ้งทำให้คอนเทนต์ที่ผู้ใช้ซื้อไปสามารถเล่นบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ทุกชนิด ในส่วนภาพยนตร์ กูเกิลยืนยันว่าจะมีให้บริการทั้งรูปแบบเช่าและขาย โดยกูเกิลได้เป็นพันธมิตรกับทั้งดิสนีย์ (Disney), พาราเมาท์ (Paramount) และโซนี่ (Sony) ซึ่งจะครอบคลุมทั้งรายการทีวี และซีรีส์ทั้งหลาย
นอกจากนี้ กูเกิลเพลย์จะให้บริการดิจิตอลแมกกาซีนจาก Hearst, Conde Nast และสำนักพิมพ์อื่นๆ
Nexus 7 จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นแท็บเล็ตที่จะทำให้สาวกแอนดรอยด์สามารถรับคอนเทนต์เหล่านี้ไปเพลิดเพลินได้อย่างรวดเร็ว น้ำหนักเครื่องเพียง 340 กรัม (12 ออนซ์) มีกล้องด้านหน้า 1.2 ล้านพิกเซล (ไม่มีกล้องด้านหลัง) โดยจัดสเปกเครื่องให้สามารถรองรับการเล่นเกมได้อย่างไร้ที่ติงานนี้กูเกิลยังเปิดตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันล่าสุด 4.0 ในชื่อรหัสว่า “เจลลีบีน (Jelly Bean)” ซึ่งสร้างต่อยอดจากระบบปฏิบัติการเวอร์ชันปัจจุบันคือ “ไอศกรีมแซนด์วิช (Ice Cream Sandwich)” จุดนี้กูเกิลให้นิยามว่าเป็นการทำให้ทุกอย่างลื่นไหล รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า เช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ กูเกิลการันตีว่าคีย์บอร์ดเสมือนในเจลลีบันจะมีความฉลาดและแม่นยำมากขึ้น ระบบสามารถคาดเดาคำต่อไปที่ผู้ใช้จะพิมพ์ ขณะเดียวกัน ผู้ใช้จะสามารถพิมพ์ข้อความด้วยเสียง อำนวยความสะดวกให้การพิมพ์ทำได้เร็วและสบายโดยที่ไม่ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
งานนี้กูเกิลยังเปิดตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันล่าสุด 4.0 ในชื่อรหัสว่า “เจลลีบีน (Jelly Bean)” ซึ่งสร้างต่อยอดจากระบบปฏิบัติการเวอร์ชันปัจจุบันคือ “ไอศกรีมแซนด์วิช (Ice Cream Sandwich)” จุดนี้กูเกิลให้นิยามว่าเป็นการทำให้ทุกอย่างลื่นไหล รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า
เช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ กูเกิลการันตีว่าคีย์บอร์ดเสมือนในเจลลีบันจะมีความฉลาดและแม่นยำมากขึ้น ระบบสามารถคาดเดาคำต่อไปที่ผู้ใช้จะพิมพ์ ขณะเดียวกัน ผู้ใช้จะสามารถพิมพ์ข้อความด้วยเสียง อำนวยความสะดวกให้การพิมพ์ทำได้เร็วและสบายโดยที่ไม่ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
นี่ถือเป็นความคืบหน้าล่าสุดของเจ้าพ่อระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากูเกิลเน้นเสริมความแข็งแกร่งด้านอื่นนอกเหนือจากส่วนสมาร์ทโฟนที่ลอยลำไปแล้ว โดยแม้ที่ผ่านมาแอนดรอยด์จะสามารถครองเบอร์ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟน แต่กลับสามารถทำส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตได้เพียง 36% เท่านั้น เทียบกับไอแพดที่มี 62% (ตามข้อมูลของบริษัทวิจัย IDC) ซึ่งการเปิดตัวแท็บเล็ต Nexus 7 ของกูเกิลนั้นเกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวแท็บเล็ตของตัวเองในนาม “เซอร์เฟซ (Surface)” ซึ่งต้องการต่อสู้กับไอแพดของแอปเปิลเช่นกัน
นักวิเคราะห์นั้นมองว่าบทเรียนจากตลาดแท็บเล็ตทำให้กูเกิลรู้ว่าแท็บเล็ตที่มีราคาประหยัดกว่าและพกพาง่ายกว่าเท่านั้นที่จะสามารถทลายความนิยมของไอแพดได้ ซึ่งหลังจากสินค้าราคาประหยัด กูเกิลก็จะสามารถส่งระบบปฏิบัติการล่าสุดอย่างเจลลีบีนไปทำตลาดในกลุ่มอุปกรณ์ที่มีราคาสูงกว่าได้ ทั้งหมดนี้จะส่งให้ร้านกูเกิลเพลย์มีความหลากหลายของกลุ่มตลาดมากขึ้น
ฐานบริการที่กว้างขึ้นนี้เองที่จะเป็นปัจจัยที่ทำให้กูเกิลสามารถแข่งขันกับแอปเปิลได้ ผู้บริหารกูเกิลไม่ตอบรับหรือปฏิเสธคำวิเคราะห์นี้ แต่แสดงความมั่นใจว่าแอนดรอยด์ซึ่งมีอยู่ในอุปกรณ์มากกว่า 400 ล้านเครื่องทั่วโลกในขณะนี้ไม่ได้อยู่ในช่วงขาลงแน่นอน โดยจำนวนผู้ใช้แอนดรอยด์นั้นมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และความสามารถใหม่ในเจลลีบีนล้วนส่งให้แอนดรอยด์สามารถรอบรับความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างไม่รู้จบ
ด้วยเจลลีบีน ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงประวัติการค้นหา ปฏิทิน และข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้อุปกรณ์สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้ว่าผู้ใช้ต้องการอะไรได้เร็วขึ้น โดยตัวอย่างที่ถูกยกขึ้นมาคืออุปกรณ์เจลลีบีนจะสามารถรู้ว่าในเวลานี้ผู้ใช้ต้องการค้นหาเส้นทางที่เร็วที่สุดในการเดินทางไปทำงาน หรือต้องการค้นหาร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งจะทำให้การค้นหาเกิดขึ้นได้เร็วกว่าเดิม
ทั้งหมดนี้ กูเกิลจะเปิดอัปเดตเจลลีบีนในอุปกรณ์รุ่นใหม่ภายในเดือนกรกฎาคม 2555 Company Related Link :
Google
ที่มา: manager.co.th