บริการเครือข่ายสังคมแบบส่วนตัว สำหรับกลุ่มบริษัทองค์กรนาม 'แยมเมอร์ (Yammer)' ถูกไมโครซอฟท์ซื้อไปแล้วในราคา 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ สื่อมวลชนอเมริกันพร้อมใจรายงานกรณีไมโครซอฟท์ ร่อนจดหมายเชิญด่วนเพื่อเปิดตัว 'เรื่องสำคัญ' ในวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.นี้ ทุกสำนักมองการเชิญครั้งนี้ผิดธรรมเนียมปฎิบัติของยักษ์ใหญ่วงการซอฟต์แวร์มากเพราะทุกอย่างเป็นความลับสุดยอด บางสื่ออ้างแหล่งข่าววงในว่าไมโครซอฟท์มีแผนเปิดตัวฮาร์ดแวร์อย่างแท็บเล็ตเพื่อแข่งขันกับไอแพด (iPad) โดยตรง
ขณะที่บางสื่อเชื่อเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของไมโครซอฟท์ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังข่าวยืนยันว่า ไมโครซอฟท์ทุ่มเงิน 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อกิจการเครือข่ายสังคมสำหรับคนทำงานนาม 'Yammer' จริง
สำนักข่าวที่เชื่อว่า 'เรื่องสำคัญ' ที่ไมโครซอฟท์จะเปิดตัวที่ฮอลลีวูดในวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย. นี้ คือการเปิดตัวแท็บเล็ตแบรนด์ไมโครซอฟท์ ได้แก่เว็บล็อกอย่าง The Wrap และ AllThingsD ทันทีที่ 2 เว็บไซต์นี้เผยแพร่รายงานซึ่งอ้างว่ามาจากผู้เกี่ยวข้อง ข่าวลือก็แพร่สะพัดไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ข่าวเชื่อว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัวแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสซึ่งไมโครซอฟท์เป็นผู้ผลิตเอง โดยเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์อาร์ที (Windows RT) เวอร์ชันปรับแต่งของวินโดวส์ 8 ซึ่งจะเป็นสินค้าเพื่อแข่งขันกับไอแพดโดยเฉพาะ
ข่าวลือว่าไมโครซอฟท์กำลังเร่งมือในธุรกิจฮาร์ดแวร์ครั้งใหม่ทำให้มีการประเมินสถานการณ์ไปต่างๆนานา เพราะไมโครซอฟท์เคยมีประวัติพยายามพัฒนาแท็บเล็ตของตัวเองแล้วตั้งแต่ช่วงปี 2008-2012 ครั้งนั้นไมโครซอฟท์ออกแบบให้แท็บเล็ตมีรูปร่างเป็นคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป 2 หน้าจอที่หนาเกินไปและต้องทำงานพร้อมปากกาสไตลัส พร้อมตั้งชื่อว่า 'เคอเรียร์ (Courier)' แต่อาจเป็นเพราะรู้ตัวว่าไม่สามารถสู้กับไอแพดได้ ไมโครซอฟท์จึงยกเลิกโครงการพัฒนาแท็บเล็ต 2 หน้าจอนี้ในที่สุด (ช่วงปี 2010)
ทีมงานในโครงการพัฒนาแท็บเล็ต 2 หน้าจอของไมโครซอฟท์ผันตัวไปออกแบบแอปพลิเคชันจดบันทึกสำหรับไอแพด แอปฯดังกล่าวมีชื่อว่า 'เปเปอร์ (Paper)' ที่ได้รับรางวัลการันตี
ทั้ง The Wrap และ AllThingsD เชื่อว่าแท็บเล็ตใหม่จากไมโครซอฟท์จะต่างจากผลิตภัณฑ์ที่สตีฟ บอลเมอร์ (Steve Ballmer) ซีอีโอไมโครซอฟท์เคยโชว์ตัวแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ซึ่งไมโครซอฟท์ร่วมมือกับบริษัทอื่นในการพัฒนาร่วมกัน โดยจะเป็นฮาร์ดแวร์ที่ไมโครซอฟท์พัฒนาเองทุกขั้นตอนเช่นเดียวกับเครื่องเกมเอ็กซ์บ็อกซ์ (Xbox) ซึ่งถูกยอมรับว่าเป็นสินค้าใหม่ของไมโครซอฟท์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ขานรับข่าวลือนี้โดยบอกว่ามีเหตุผล เนื่องจากที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ปล่อยให้หน้าที่การผลิตฮาร์ดแวร์เป็นของผู้ผลิต ผิดจากแอปเปิลซึ่งควบคุมคุณภาพทั้งเรื่องซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์แบบเบ็ดเสร็จในบริษัทเดียว ผลคือแอปเปิลสามารถควบคุมการพัฒนาให้เป็นไปตามที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ประสบความสำเร็จมากกว่าใครในตลาดแท็บเล็ต
หากข่าวลือนี้เป็นความจริง บริษัทอย่างเดลล์ , เลอโนโว , โตชิบา และผู้ผลิตพีซีระบบปฏิบัติการวินโดวส์อีกมากอาจจะต้องกลายเป็นคู่แข่งของไมโครซอฟท์ไปโดยปริยาย แต่ในเบื้องต้น สื่ออเมริกันเชื่อว่าผู้ผลิตแท็บเล็ตบางรายจะยังคงผลิตแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 8 ตามแผนเดิม โดยส่วนใหญ่จะพัฒนาให้สามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์พีซีและโทรศัพท์มือถือได้แบบไร้รอยต่อ เช่น เอเซอร์และอัสซุส ซึ่งสาธิตแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ลูกผสม (คอมพิวเตอร์พกพาที่สามารถแปลงร่างจากโน้ตบุ๊กเป็นแท็บเล็ตได้) โดยใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ที่งาน Computex ในไทเปเมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สื่ออย่าง WMPoweruser เว็บไซต์ศูนย์รวมผู้ใช้สินค้าระบบวินโดวส์โฟนกลับคาดว่า ไมโครซอฟท์กำลังเตรียมเปิดตัวรายละเอียดธุรกิจไมโครซอฟท์ออฟฟิศ โปรแกรมสร้างงานเอกสารซึ่งครองตลาดผู้ใช้พีซีทั่วโลก เหตุผลเป็นเพราะไมโครซอฟท์ยังไม่เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่อย่างเป็นทางการในงานใดมาก่อน โดยมองว่าอีกความเป็นไปได้ คือการเปิดเผยรายละเอียดฮาร์ดแวร์ที่จะใช้กับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ซึ่งมีกำหนดทำตลาดภายในปีนี้
ชาวไทยจะได้รับรู้ว่าข่าวลือนี้เป็นจริงหรือไม่ในช่วงคืนวันที่ 18 มิ.ย.ตามเวลาในประเทศไทย
***เท 1.2 พันล.ซื้อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในเวลาที่โลกกำลังลุ้นว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัวเรื่องสำคัญใด สำนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นอล ยืนยันว่าไมโครซอฟท์กำลังเจรจาขอซื้อกิจการบริการเครือข่ายสังคมสำหรับลูกค้าองค์กรนาม 'แยมเมอร์ (Yammer)' ด้วยมูลค่าในการซื้อขายสูงถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.7 หมื่นล้านบาท) จริง ถือเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจมากเพราะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของไมโครซอฟท์ บนมูลค่าดีลเท่ากับการซื้อกิจการอินสตาแกรมของเฟซบุ๊ก
แยมเมอร์นั้นเป็นบริการที่ก่อตั้งในปี 2008 ให้บริการเครือข่ายสังคมแบบปิดหรือ private social networking สำหรับองค์กรต่างๆ สถิติล่าสุดคือแยมเมอร์มีลูกค้าองค์กรมากกว่า 200,000 แห่ง อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดเผยแผนดำเนินการกับกิจการแยมเมอร์ในอนาคต โดยเฉพาะแผนการต่อยอดเทคโนโลยีของแยมเมอร์เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่ไมโครซอฟท์มีอยู่
ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์มีซอฟต์แวร์ที่ทำให้นักธุรกิจสามารถทำงานร่วมกันจากระยะไกลในชื่อแชร์พอยต์ (SharePoint) ซึ่งไม่มีความแน่ชัดว่าจะมีการผนึกหรือควบรวมคุณสมบัติในโปรแกรมนี้หรือไม่อย่างไร โดยตัวแทนไมโครซอฟท์และแยมเมอร์ต่างปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงการคาดเดาที่เกิดขึ้น
Company Related Link :
Microsoft
ที่มา: manager.co.th