"น้องปลาวาฬ"ในละคร"ตะวันฉายในม่านเมฆ"
“ชาย ชาตโยดม” ขึ้นแท่นผู้กำกับละคร "ตะวันฉายในม่านเมฆ" เผยตื่นเต้นกว่าตอนแต่งงานอีก ปลื้มทำให้ “วิกกี้” ภูมิใจ ลั่นจะทำให้ดีที่สุด เพราะรักงานแสดงและการเป็นผู้กำกับก็เป็นอีกขั้นหนึ่งของงานแสดง ถือเป็นปีที่ดีทั้งลักกี้อินเกมส์และลักกี้อินเลิฟของพระเอกหนุ่ม “ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ” ที่นอกจากจะได้ฤกษ์วิวาห์กับสาว “วิกกี้ สุนิสา เจทท์” แล้ว เจ้าตัวยังได้ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ของบริษัทเมคเกอร์กรุ๊ป โดยประเดิมละครเรื่องแรก "ตะวันฉายในม่านเมฆ" ซึ่งตอนนี้เปิดกล้องถ่ายทำไปเรียบร้อยแล้ว กับบทบาทใหม่ที่ได้รับงานนี้เจ้าตัวเผยว่าเป็นอะไรที่ตื่นเต้นสุดๆ ยิ่งกว่าได้แต่งงาน
"ตื่นเต้นครับ ตื่นเต้นมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ เพราะคุยกันตั้งแต่ตอนปลายปีที่แล้ว มันเหมือนบวกๆ ผสมกับช่วงแต่งงานด้วย ก็เลยไม่แน่ใจว่าตื่นเต้นเรื่องอะไรกันแน่ แต่พอมาตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเป็นเรื่องกำกับนี่แหละ จริงๆ ช่วงแรกพยายามไปถามคนหลายคนที่เราเคยร่วมงานด้วยแล้วรู้สึกประทับใจนับถือ อยากจะได้คำแนะนำก็จะถามหลายคนทั้งป้าแจ๋ว (ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์), พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง), พี่หนุ่ม (กฤษณ์ ศุกระมงคล) หลายคนเลยที่เคยทำงานด้วย ส่วนใหญ่จะพูดเหมือนกันหมดว่าเดี๋ยวก็รู้เอง ก็โห...ทำไมไม่มีขั้นตอน 1 2 3 4 ที่เราเริ่มทำแล้วค่อยๆ ขยับไป”
“แต่พอได้เริ่มถ่ายทำจริงถึงได้รู้ว่าที่เขาบอกก็คือมันไม่มีแบบแผนในแต่ละคน คือต่างคนต่างมีสไตล์ในแบบของเขา เพราะฉะนั้นพอถึงเวลาก็จะรู้เองแหละว่าเราอยากจะได้อะไร อยากบอกนักแสดง ผู้กำกับภาพว่าอะไร ก็เป็นอะไรที่สนุกครับ สนุกตั้งแต่วันแรกเลย พอได้ทำงานจริงหลังจากที่เราตื่นเต้นคาดหวังคาดเดาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาก็ได้รู้ว่าของจริงเป็นอย่างนี้แหละ แล้วสิ่งที่เรากลัวหรือคิดว่าจะทำได้รึเปล่า เวลาอยู่ต่อหน้าเราก็ต้องทำให้ได้แหละ"
”ตอนนี้โล่งขึ้นเยอะครับเพราะถ่ายมา 5 - 6 คิวแล้ว ก็รู้สึกว่าเริ่มเข้าใจมากขึ้น แต่ทุกวันคือการเรียนรู้ใหม่หมดเลย และทุกคนเป็นครูหมดเลยทั้งทีมงานนักแสดง บางทีเราวาดฝันอะไรเอาไว้แล้วแต่พอแสดงจริงมันเป็นอีกแบบนึงเลยนะ แล้วเวลาเราวาดภาพไว้อีกอย่างนึง แต่สิ่งที่ออกมามันดีกว่าที่เราคาดไว้ นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ทำให้เราแฮปปี้ที่สุดแล้ว"
เผยภรรยาสาว “วิกกี้”คอยให้กำลังใจตลอด บอกตอนนี้ยังไม่ชินกับบทบาทใหม่ๆ ที่ได้รับทั้งหน้าที่ผู้กำกับและสามี
"กี้ให้กำลังใจตลอดเลยครับ คือชายจะกังวลตลอดว่าไม่รู้จะต้องทำยังไงจะทำได้รึเปล่า กี้จะบอกตลอดว่ากี้เชื่อว่าพี่ชายทำได้ จนกระทั่งเปิดกล้องเขาก็ดูตื่นเต้นกว่าชาย เขาจะบอกตลอดว่าเขาภูมิใจนะ งานผู้กำกับมันเป็นความฝันทุกวันนี้ก็ค่อยๆ เก็บเกี่ยวความฝันของเราไปเรื่อยๆ พอได้ทำจริงๆ ทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่เรานึกในจินตนาการต่างๆ มันเริ่มสามารถออกมาเป็นรูปเป็นร่างจริงๆ ได้แล้ว อีกหน่อยถ้าเรามีความคิดอะไรที่แตกแขนงออกไปมากกว่านี้ มันก็เป็นรูปแบบที่เราตั้งใจอยากให้ออกมาเป็นแบบนั้นจริงๆ"
"แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ชินกับบทบาทใหม่เท่าไหร่ครับมันตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นอะไรใหม่ๆ แล้วเรายังไม่ทราบจริงๆ ว่าเราจะทำได้มากน้อยแค่ไหน เหมือนเรียกกี้ว่าเป็นภรรยามันจะเป็นอีกอารมณ์นึงที่มันไม่คุ้นคงต้องใช้เวลาสักพักนึง ก็ยังเขินๆ อยู่เพราะเรารู้สึกว่าการเป็นผู้กำกับมันอีกหน้าที่นึงที่เรายังไม่ได้เป็นเต็มตัว แต่ว่าตอนนี้เริ่มสะสมประสบการณ์เก็บเกี่ยวความรู้สึกตรงนี้ไปเพื่อให้เราคุ้นเคยกับการที่จะเป็นผู้กำกับเต็มตัวให้ได้ เพราะว่าวันนึงชายเชื่อว่าเราอยากจะก้าวไปในเส้นทางนี้ เพราะการแสดงคือสิ่งที่เรารัก การกำกับเหมือนเป็นอีกขั้นนึงของการแสดงสำหรับชาย "
บอกติดภารกิจผู้กำกับจึงไม่ได้ไปเที่ยวกับภรรยาสาว “วิกกี้” ที่ประเทศอเมริกา ลั่นเสร็จภารกิจเตรียมหาเวลาไปฮันนีมูน แพลนปั้มทายาทเร็วๆ นี้เพราะอยากมีแล้ว
"ตอนนี้ก็อยู่คนเดียวครับกี้ไม่อยู่ไปอเมริกา จริงๆ แล้วเพื่อนเขาที่อเมริกาบินมางานแต่งงานชายกับกี้ แล้วเพื่อนเขาแต่งงานเดือนนี้กี้เลยบินกลับไปงานแต่งงานของเพื่อนด้วย แต่ชายทำงานตรงนี้เลยไม่ได้ไปก็เหงาครับเขาไปประมาณ 10 วัน แต่ตั้งแต่วันแรกที่เขาไปก็รู้สึกแปลกแล้วนะ คือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่คบกันไม่เคยห่างกัน และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเดินทางไปคนเดียวเลย"
“ก็พยายามแชตคุยกัน แต่ผมโลว์เทคที่สุดในโลก ถามคนโน้นคนนี้ว่าทำยังไง อาศัยโทรคุยกัน แต่ช่วงที่ผ่านมาก็คือด้วยเวลาที่ต่างกันด้วย ช่วงที่ชายทำงานเขาอาจจะโทรมาแล้วไม่ได้รับ พอช่วงกลับบ้านไปก็จะเป็นอีกช่วงนึงของเขา จริงๆ เราเองแต่งงานก็ยังไม่ได้ไปไหนกันเลย ฮันนีมูนยังไม่ได้ไป เพราะผมก็ติดงานตรงนี้ คิดว่าคงต้องอีกสักพักใหญ่ถึงจะไปฮันนีมูน ฉะนั้นช่วงนี้ก็ฮันนีมูนตามกองถ่ายไปเรื่อยๆ เปลี่ยนสถานที่ ได้สัมผัสอะไรใหม่ๆ ทุกวัน"
“ช่วงนี้ทุ่มเรื่องงานเยอะ เขาเป็นกำลังใจให้ตลอด จะบอกว่ากับเราเสมอว่าเขาภูมิใจมากนะ ทุกเช้าเย็นหรือแม้เวลาโทรหา บางทีชายก็มีความรู้สึกว่าไม่รู้มันออกมาดีรึเปล่า แต่เขาก็จะบอกตลอดว่าเขาภูมิใจนะ ว่างๆ เขาก็มาหาที่กอง ทุกครั้งที่มาก็จะมีขนมมาให้ ไม่ได้ฝากชายคนเดียว แต่ฝากทุกคนในกองด้วย และช่วงนี้เขาเห่อทำสมูทตี้อยู่ ก็ทำมาให้นั่งทานทั้งวัน อย่างเวลากลับบ้านไปก็อยากจะนั่งคุยว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง แต่ก็มีการบ้านต้องทำเพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ถ่ายต่อ ชายก็เอาบทมานั่งอ่าน อ่านเสร็จก็หลับคาเตียงเลย เขาก็ขำๆ ไป แต่ถ้าบ่อยๆ เขาคงจะน้อยใจ"
ที่มา: manager.co.th