ยอมรับผิดแล้ว! มือปล่อยภาพนู้ด "สการ์เล็ตต์" มีสิทธิ์ติดคุก 60 ปี

[Nick]

คริสโตเฟอร์ เชนีย์

ภาพหลุดของ สการ์เล็ตต์ ที่ฮือฮากันอยู่ในช่วงปีก่อน

"คริสโตเฟอร์ คานีย์" อาชญากรไซเบอร์ผู้ต้องหาที่แฮกอีเมล์ของดาราฮอลลีวูดนับ 50 ราย จนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของดาราสาวมากมาย รวมถึงนำภาพนู้ดของ "สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน" ออกเผยแพร่อาจต้องโทษจำคุกถึง 60 ปี แม้เขาจะยอมรับสารภาพแล้ว
       
       เมื่อช่วงเดือน ต.ค. ปีก่อน คริสโตเฟอร์ เชนีย์ ชาวแจ็คสันวิล ฟลอริด้า ได้ถูกควบคุมตัวหลังจากเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีความการแฮกอีเมล์ของดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ที่มีเหยื่อผู้เสียหายนับ 50 ราย อาทิ มิล่า คูนิส, คริสติน่า อากีเลร่า, เรเน อัลสตีด และ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน ซึ่งในตอนแรกเขายืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ล่าสุดมีรายงานว่าหนุ่มวัย 35 ปี คนนี้ได้ยอมรับสารภาพแล้ว เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการได้ลดหย่อนโทษในความผิดครั้งนี้ให้เบาลง
       
       ข่าวระบุว่ามีการยื่นเอกสารการขอยอมรับผิดไปที่ ศาลเขตลอสแอนเจลิส เมื่อวันพฤหัสที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา โดย เชนีย์ ได้ยอมรับผิดใน 9 ข้อหาอาญาได้แก่ โจรกรรมเอกลักษณ์บุคคล, ลักลอบดักฟังโทรศัพท์ และลักลอบเข้าถึง/ทำลายคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ซึ่งแม้จะยอมรับผิดแต่เขาก็ยังเสี่ยงที่จะต้องโทษจำคุกถึง 60 ปี
       
       เชนีย์ ถูกจับกุมในวันที่ 12 ต.ค. หลังการสืบสวนของเอฟบีไอในปฏิบัติการที่มีชื่อเรียกว่า Operation Hackerazzi ที่เกิดขึ้นเพื่อคลี่คลายปัญหาซึ่งมีการแฮคข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของคนดัง จนมีผลให้ภาพส่วนตัวของเหล่าคนดังมากมายหลุดออกไปทางโลกออนไลน์ โดย เชนีย์ ถูกควบคุมตัวภายหลังภาพนู้ดของนักแสดงสาวแถวหน้า สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน หลุดออกไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ประมาณไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น
       
       ในเดือน พ.ย. 2011 คริสโตเฟอร์ เชนีย์ ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา จากการกระทำความผิดดังกล่าว หลังถูกตั้งข้อหา 26 กระทงในคดีการโจรกรรมข้อมูล และเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจจะทำให้เขารับโทษสูงสุดถึง 121 ปีในเรือนจำเลยทีเดียว
       
       ก่อนหน้านี้ เชนีย์ ยังถูกสั่งห้ามใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ และห้ามใช้ยาเสพติด นอกจากนั้นเจ้าตัวยังกล่าวว่าอันที่จริงแล้วตนเองก็รู้สึก "โล่งใจ" นิดหน่อยกับการโดนจับครั้งนี้ เพราะรู้สึกว่าตนเอง "เสพติด" พฤติกรรมการกระทำความผิดลักษณะนี้ไปแล้ว และไม่รู้ว่าจะสามารถหยุดยั้งตัวเองได้อย่างไร

ที่มา: manager.co.th