“กันต์” มั่นใจสาวนอกวงการที่กำลังคุยอยู่เข้าใจ หลังแฟนคลับเชียร์รักนอกจอกับ “เชียร์ ฑิฆัมพร” เชื่อไม่หึงต่างคนต่างทำงานของตัวเอง รับหวั่นมีปัญหาหลังร่วมหุ้นสาวที่คุยด้วยเปิดธุรกิจรองเท้า จึงตัดปัญหาด้วยการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ทำงานในวงการบันเทิงไปด้วย พร้อมๆ กับเปิดธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ Monkey Surf (มังกี้เซิร์ฟ) สำหรับหนุ่ม “กันต์ กันตถาวร” แถมยังไปได้สวย ล่าสุดเจ้าตัวก็มีโปรเจกต์ใหม่เปิดธุรกิจรองเท้าร่วมหุ้นกับสาวนอกวงการที่กำลังคุยๆ อยู่ เรียกว่ากำลังรุ่งทั้งงานและความรักเลยทีเดียว
“รองเท้านี่ก็เป็นธุรกิจที่ทำกับคนที่คุยๆ อยู่ แล้วก็เพื่อนอีกคนนึงที่เรียนจบจุฬาฯมาด้วยกัน ก็ลองๆ ดู ก็เรียกว่าไม่ได้จริงจังอะไร ทำเล่นๆ มากกว่าครับ เพราะไม่ได้มีหน้าร้านอะไร ขายแค่ในเฟซบุ๊ค การตอบรับจริงๆ ก็ถือว่าดีเหมือนกันครับ เดี๋ยวคงจะให้เพื่อนช่วยดูให้อีกทีเพราะเขาเป็นหัวเรือใหญ่ ต้อยคุยว่าเขาอยากจะมีหน้าร้านรึเปล่า หรือว่าเขาอยากจะขายส่งอะไรยังไง เพราะตอนนี้เริ่มมีต่างประเทศติดต่อเข้ามาเหมือนกัน เราก็งงๆ ว่าเขาไปรู้มาได้ยังไง เขาก็บอกว่าเห็นจากทวิตเตอร์ เห็นจากอินสตราแกรมก็เลยส่งเมลมาสอบถาม”
ส่วนธุรกิจมังกี้เซิร์ฟก็ยังทำอยู่ไม่ได้ถอนหุ้นอย่างที่มีข่าว
“กับแบรนด์มังกี้เซิร์ฟผมก็ยังมีหุ้นอยู่ ยังไม่ได้ถอนอะไรครับ ตอนนี้ก็ทำทั้งมังกี้เซิร์ฟแล้วก็รองเท้าควบคู่กับการทำร้านอาหารไปด้วย รองเท้านี่คงไม่เอาไปรวมกับมังกี้เซิร์ฟเพราะเป็นแบรนด์ที่ทำของเราขึ้นมาเองกับเพื่อนๆ ก็ยังทำอยู่ ก็พยายามทำอะไรหลายๆ อย่างจะได้ไม่เบื่อ ผมอยากจะเป็นเจ้านายตัวผมเอง ผมไม่อยากจะเป็นลูกน้องหรือต้องรับคำสั่งจากใคร ในที่นี้หมายถึงการตัดสินใจในการทำธุรกิจ แต่ละคนก็คงจะมีแนวทางในการทำธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป ก็คงจะทำธุรกิจควบคู่กับไปงานละคร”
รับมีหวั่นทำธุรกิจร่วมสาวที่คุยด้วย แต่คิดว่าสามารถแยกแยะได้
“แต่ถามว่ากลัวมั้ย แวบแรกมันต้องมีคิดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจร่วมกับเพื่อน ร่วมกับคนรู้จัก ร่วมกับคนที่คุยด้วยอยู่ก็น่าจะเป็นปัญหานึง หากมีเรื่องของการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน หรือจะเป็นเรื่องของเงินๆ ทองๆ เพราะฉะนั้นเราเลยแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจนว่าใครทำอะไรกันบ้าง เพื่อที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน”
เผยสาวนอกวงการที่คุยด้วยเข้าใจไม่หึงหลังแฟนๆ เชียร์รักนอกจอกับสาว “เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” ที่เล่นละครร่วมกันเรื่อง “ปางเสน่หา”
“ก็คุยๆ กันอยู่เขาเองก็เข้าใจในการทำงานของเรา เพราะเราก็ได้คุยกันไปก่อนที่จะคุยๆ กันแล้ว เรื่องข่าวต่างๆ มันก็ต้องมีบ้าง เขาก็โอเค เขาก็ทำงานของเขา เราก็ทำงานของเราไป อย่างที่มีข่าวกับเชียร์ เราก็แกล้งๆ กัน ยิ่งเขาเขินเราก็ยิ่งแกล้ง แต่เขาก็รู้ว่าเราเป็นคนขี้แกล้งอยู่แล้ว ก็ไม่มีอะไรครับ เหมือนเขาเข้าใจการทำงานของเรามาตั้งแต่ต้นเพราะเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน เรื่องปัญหาทางธุรกิจร่วมกันกับเขาก็คงไม่มีปัญหาอะไรนะ ผมว่าผมแยกแยะได้”
ที่มา: manager.co.th