“พจน์” สับ “เอ ศุภชัย” อยากเป็นดาวพระศุกร์ก็เชิญ แต่ตนขอเป็นเรยา ลาก “ชมพู่” มาเปรียบตอนนี้งานเยอะกว่า “อั้ม” ซะอีก“พจน์” จี๊ด “เอ ศุภชัย” แขวะนั่งนับคนที่มีบุญคุณกับ “เคน ภูภูมิ” มีทั้งหมด 499 คน แต่ไม่มีชื่อคนบางคนอยู่แค่คนเดียว สับเละที่เอไม่พูดถึงเพราะคนที่ 500 เป็นคนพาเคนเข้าวงการ ขืนพูดไปความจริงก็จะแตกว่าคนนั้นคือใคร ก่อนกัดอยากเป็นนางเอกอย่างดาวพระศุกร์ก็เชิญ แต่ตนขอเป็นเรยาดีกว่า ถึงจะร้ายแต่คนรักทั้งประเทศ บอกดูอย่าง “ชมพู่” สิตอนนี้งานเยอะกว่า “อั้ม” อีก ส่วนที่เอภูมิใจว่าเอาเอ็กซ์ตร้าอย่างเคนมาปั้นเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ เจ้าตัวเหน็บเจ็บจริงๆ ตนก็เป็นคนที่มีความสามารถแล้วก็สายตาคมมาก แต่บังเอิญมองเคนเป็นแค่เอ็กซ์ตร้า ถึงกับควันออกหูเลยทีเดียว สำหรับ “พจน์ อานนท์” หลังจากถูก “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ออกมาเหน็บกลับซะเจ็บ กรณีที่พจน์ออกมาฉะ “เคน ภูภูมิ พงษ์ภาณุ” ว่าลืมตัวและเอาภาพในอดีตออกมาแฉว่าเคยทำศัลยกรรม โดยเอบอกว่าจะไม่ต่อความยาวสาวความยืดอีก เพราะอยากจะหยุดเสียที บอกใครอยากทำอะไรก็ทำไปเพราะอยากเป็นนางเอกโดนรังแกเหมือนดาวพระศุกร์ ก่อนกัดจะเอาภาพมาแฉอีกไหม ถ้าภาพไม่พอที่บ้านมีอีกจะเอามาให้ พร้อมป้องหน้าเคนไม่ได้ลงมีดหมอแค่ฉีดวิตามินกับโบท็อกซ์ ส่วนที่ดั้งโด่งขึ้นก็เพราะดัดฟัน อีกทั้งยังเหน็บว่าตนนั่งนับคนที่มีบุญคุณกับเคนมีทั้งหมด 499 คน แต่ไม่มีชื่อคนบางคนอยู่แค่คนเดียว งานนี้พจน์ก็เลยขอเคลียร์อีกดอก
“ถ้าได้ดูเทปที่อัดรายการบันเทิง 108 และดูเทปที่นักข่าวสัมภาษณ์ ผมไม่ได้พาดพิง ไม่ได้ว่าอะไรน้องเบลเบล(ชื่อเคนก่อนเข้าวงการ)เลยครับ ก็ไม่รู้ว่าเขาฟังพวกลิ่วล้อหรือผีสางที่ไหนแล้วมาว่าผมไปว่าน้องเบลเบล เพราะผมก็แค่สอนน้องเบลเบลแค่นั้นเอง อารมณ์ที่พูดตอนนั้นก็ไม่ได้โกรธไม่ได้อะไรเลย วันนั้นเป็นวันวาเลนไทน์ เขาขายกอดได้ 7,500 บาท ก็เลยคุยกับพิธีกรร่วมว่า คนนี้เรารู้จักชื่อเบลเบล เคยมาเล่นหนังกับเรา และผมก็ให้เขาไปดัดฟันก็แค่นั้นเอง แต่ลิ่วล้อไม่รู้พูดยังไง ก็เลยกลายเป็นว่าจะฟ้องหรืออะไร ไปดูเทปได้เลย เราไม่ได้พูดอะไรร้ายแรงขนาดนั้น พูดถึงการลืมตัว เราแค่บอกว่า อย่าให้คำว่าลืมตัวมันมาถึงตัวเอง ถ้ามาถึงเมื่อไร ดาราก็จะเสียหายทุกคน ดาราที่โดนว่าลืมตัว คุณก็จะไม่ดังเท่านั้น”
“ส่วนเรื่องที่เขานับทุกคนที่มีบุญคุณ 499 คน แต่บอกว่ายกเว้นคนหนึ่ง เพราะว่าคนที่ 500 เขาไม่พูดถึงแน่นอน ซึ่งถ้าเขาพูดถึงความจริงก็จะแตก เพราะคนนั้นเป็นคนพาน้องเบลเบลเข้าวงการบันเทิง และถ้าเขาพูดว่าคนที่ 500 คือพจน์ อานนท์ ก็จบกัน ถ้าไม่พูดก็ดีก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะจริงๆ เราเป็นคนพาเขามาเล่นหนัง เดินแบบ ถ้าเราไม่พาเขามาเดินแบบทางคุณเอก็ไม่เจอ ก็ดีแล้ว สังคมจะได้รู้ว่าคนที่ 500 คือใคร”
โดนเหน็บว่าให้แยกแยะระหว่างเดินผ่านกล้องกับปลุกปั้น
“จริงๆ เราเป็นคนที่มีความสามารถแล้วก็สายตาคมมาก มองเขาเป็นแค่เอ็กซ์ตร้า แล้วก็ยังมีเอ็กซ์ตร้าหล่อๆ อยู่หลายคน ถ้าสนใจเอาไปเป็นซูเปอร์ตาร์ก็เชิญมาเลือกได้ตามสบาย เพราะว่าเรามองเป็นแค่เอ็กซ์ตร้า แต่ก็ภูมิใจที่คนที่คนมองว่าเป็นเอ็กซ์ตร้าแล้วกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ งั้นเอ็กซ์ตร้าของเราก็ต้องหล่อหมด”
ส่วนที่ “เอ” บอกว่า “เคน” เคยเล่นเอ็กซ์ตร้ามาหลายเรื่องก่อนจะดัง “พจน์” ก็ยืนยันว่าเคนเล่นแค่เรื่องเดียวคือ “หอแต๋วแตกแหกกระเจิง” หนังของตน
“เขาเล่นเอ็กตร้าเรื่องเดียวคือหอแต๋วแตกแหกกระเจิง มีตุ๊กกี้เป็นนางเอก เล่นเรื่องเดียวไม่ใช่หลายเรื่อง อย่างที่เข้าใจ ส่วนว่าไม่ทัก ไม่เจอก็ไม่เป็นไร เขาอาจจะไม่เห็นก็ได้ ก็ไม่ได้ภูมิใจนักหนาที่ไปปั้น เราก็พูดตลอดในรายการว่าพี่ไม่ได้เป็นคนไปปั้นเขา แค่พาเขามาเล่นหนังเท่านั้นเอง แต่คนที่ปั้นคือ เอ ศุภชัย ก็พูดอย่างนี้ตลอด”
“แล้วที่ว่าไม่ได้ศัลยกรรม ก็ไม่สามารถจะบอกได้ว่าธรรมชาติหรือไม่ ใครที่ไปนอนให้หมอผ่าหน้าก็ต้องรู้อยู่แก่ใจ เพราะไม่ได้เป็นหมอ อาจจะทำมาบ้าง ไม่ได้บอกว่าใครทำ แต่ที่รู้มาคนที่ทำคือเบลเบลไม่ได้บอกว่า เคน ภูภูมิ อย่างน้อยสั่งให้เขาไปดัดฟันมาที่ออกมาพูด ไม่ได้อยากบอกว่าเป็นคนปั้น แค่อยากให้พูดความจริงมากกว่า”
พร้อมกัดกลับกรณีที่ “เอ” บอกว่าใครอยากทำอะไรก็ทำไปเพราะตนอยากเป็นนางเอกโดนรังแกเหมือนดาวพระศุกร์ ว่าตนขอเป็นเรยาดีกว่า ถึงจะร้ายแต่คนรักทั้งประเทศ
“ขอเป็นเรยาละกัน รู้สึกเรยาร้าย แต่คนรักทั้งประเทศเป็นเรยาละกัน ดูตอนนี้สิ ชมพู่ อารยา งานเยอะกว่าอั้ม พัชราภา อีกเราพูดตรงๆ เพราะฉะนั้นขอเป็นเรยาละกัน ดาวพระศุกร์โบราณมาก เกิดไม่ทันใครเล่นก็ไม่รู้ คนสมัยนี้ไม่รู้จักดาวพระศุกร์ เป็นเรยาดีกว่าทันสมัยแล้วก็ดังด้วย แล้วก็คงไม่ร่วมงานกันอีก เพราะยังไงเขาก็ไม่ร่วมงานกับเราอยู่แล้ว”
สำหรับคดีฟ้องร้องกับ “แอนนี่ บรู๊ค” รอขึ้นศาลวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โวมีพยานปากสำคัญ 4 ปาก และหนึ่งในในนั้นคือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” อีก 3 คน ไม่ขอเปิดเผยกลัวเสียรูปคดี บอกหลักฐานชิ้นอื่นไม่มี แค่มีฟิล์มคนเดียวก็โอเคแล้ว
“รอวันที่ 1 กรกฎาคม จะขึ้นศาลเป็นครั้งแรก เป็นการสอบโจทย์สอบพยาน เพราะปีที่ผ่านมาเสียเวลาไป 1 ปีไม่ได้ทำไรไกล่เกลี่ยเฉยๆ พอขึ้นศาล ศาลก็บอกให้วันที่ 1 กรกฎาคม เริ่มคดี ตอนนี้เรามี 4 พยาน 4 ปาก หนึ่งในนั้นก็เป็น ฟิล์ม รัฐภูมิ เพราะเป็นตัวต้นเรื่อง ที่เหลือยังบอกไม่ได้เดี๋ยวจะเสียรูปคดี ส่วนจะยืดยาวไหม ก็ขออย่าให้ยาวเลย ถามว่าได้คุยกับอีกฝ่ายบ้างไหม เราไม่ได้คุยอะไรเลย รอขึ้นศาลอย่างเดียว”
“จะชนะคดีหรือไม่อยู่ที่ครั้งแรกและเจตนาของเรา เราไม่ได้หมิ่นประมาทเขา ทำให้เขาเสียหาย เราก็พูดตามที่เป็นข่าวที่สังคมได้ยินหมด และพอดีเราเป็นคนดัง และเราเป็นคนดูแลฟิล์ม พอนักข่าวเอาไมค์มาจี้ปากแบบนี้ก็ต้องพูด ถ้าไม่พูดเดี๋ยวนักข่าวเกลียดยิ่งไปกันใหญ่ จะตกงานเอา ส่วนหลักฐานอื่นๆ ก็ไม่มี แค่ฟิล์มคนเดียวก็จบแล้ว”
ที่มา: manager.co.th