ทันทีที่ทวิตเตอร์ (Twitter) ประกาศพร้อมเปิดเผยคลังข้อความทวีต (tweet) หรือข้อความสั้นที่โพสต์บนเครือข่ายทวิตเตอร์แก่นักการตลาดผู้ต้องการนำไปวิเคราะห์ข้อมูล กลุ่มผู้รักษาสิทธิมนุษยชนพร้อมใจกันจับตามองความเคลื่อนไหวนี้อย่างใกล้ชิด แม้ทวิตเตอร์จะแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าข้อความทวีตที่จะถูกนำไปวิเคราะห์ข้อมูลนั้นเป็นทวีตเก่าเก็บตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2010 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงมีเสียงวิจารณ์ว่าทวิตเตอร์กำลังทำเงินจากมันสมองและนิ้วมือของชาวออนไลน์ทั่วโลก ร็อบ ไบเลย์ (Rob Bailey) ซีอีโอบริษัทดาต้าซิฟท์ (DataSift) บริษัทแรกที่ชำระเงินซื้อสิทธิในการเข้าถึงข้อความทวีตเก่า ให้ความเห็นว่าทวิตเตอร์คือแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าแท้จริง โดยระบุว่าปัจจุบันมีบริษัทมากมายที่ต้องการดึงข้อมูลทางการตลาดจากทวิตเตอร์ไปใช้ประโยชน์มากขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้บริษัทเตรียมให้บริการคลาวด์ออนไลน์ เพื่อให้บริษัทต่างๆ เข้าร่วมวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจากข้อความทวีตที่มีอายุเกิน 2 ปีตั้งแต่เดือนเมษายนนี้
"เรายินดีรับการแสดงความคิดเห็นเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวทุกกรณี" ไบเลย์ยอมรับว่าศึกหนักจากนักสิทธิ์มนุษยชนกำลังจะเริ่มต้น หลังจากข่าวการทำเงินจากทวีตถูกเปิดเผย
ทวิตเตอร์นั้นเป็นบริการส่งข้อความสั้นเพื่อตะโกนบอกคนบนโลกออนไลน์ว่ากำลังทำอะไรหรือคิดอะไรในขณะนั้น ความเร็วในการสื่อสารจากคน 1 คนสู่คนหมู่มากทำให้ทวิตเตอร์ถูกนำไปใช้เป็นช่องทางรายงานข่าวสารยุคใหม่ ทั้งในมุมของสำนักข่าวทั่วโลกและบุคคลหรือกลุ่มสังคมที่มีชื่อเสียงทุกเพศทุกวัย รวมถึงนักการตลาดที่ต้องการประชาสัมพันธ์บริการของตัวเองให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยชาวออนไลน์สามารถสมัครรับข่าวสารจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่น และส่งต่อข่าวสารต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปได้แบบไม่รู้จบ
ข้อความทวีตความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษรที่ถูกส่งไปมาบนเครือข่ายนี้เองที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งสะท้อนความเห็นของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน ทำให้นักการตลาดทั่วโลกตั้งความหวังว่าข้อมูลจากทวีตเหล่านี้จะสามารถปรับปรุงและพัฒนาบริการได้ดีขึ้น ที่ผ่านมา ข้อความทวีตถูกส่งไปมาบนระบบมากกว่า 250 ล้านข้อความต่อวัน ซึ่งเป็นไปได้น้อยมากที่บริษัทจะใช้พนักงานมหาศาลในการวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งหมดนี้ทำให้ธุรกิจตรวจตราเครือข่ายสังคมหรือ social media-monitoring company ผุดขึ้นมากมายในต่างประเทศ แต่ทั้งหมดก็ยังสามารถเข้าถึงข้อความทวีตที่จำกัด และถูกเข้าถึงได้ในฐานะผู้ใช้เฉพาะบุคคลเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ตัดสินใจเปิดทางสะดวกให้บริษัทเหล่านี้สามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีค่าทางการตลาดจากข้อความหลายพันล้านทวีต การเปิดเผยข้อความทวีตเก่าเหล่านี้ทำให้ทวิตเตอร์ถูกมองว่ากำลัง"ขาย"ทวีต โดยดาต้าซิฟท์คือหนึ่งในลูกค้ารายแรกของทวิตเตอร์ ซึ่งการันตีว่าการเป็นพันธมิตรกับทวิตเตอร์ครั้งนี้จะไม่มีผลเสียต่อสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้อย่างแน่นอน
ดาต้าซิฟท์ระบุว่า ทวีตที่จะถูกนำมาวิเคราะห์ล้วนเป็น "public tweet" ที่ผู้ใช้ตั้งค่าให้เปิดเผยต่อสาธารณชน ไม่ใช่ทวีตที่ถูกลบไปแล้วหรือข้อความที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่งตรงถึงกัน (direct message) จึงมีความมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้ไม่มีผลกระทบแม้นักสิทธิมนุษยชนจะจับตาดูความเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน บริษัทองค์กรใหญ่จะชำระค่าบริการเฉพาะข้อมูลที่ต้องการเท่านั้น และดาต้าซิฟท์จะแบ่งส่วนรายได้กับทวิตเตอร์
นอกจากนี้ ซีอีโอดาต้าซิฟท์ยังให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า บริษัทมากกว่า 700 รายเตรียมทดลองใช้ข้อมูลจากบริการนี้ โดยผู้ชำระค่าบริการจะสามารถเข้าถึงข้อความทวีตที่มีเนื้อหาหรือ topic เท่าที่ต้องการเท่านั้น การเรียกดูข้อความทวีตจะอิงตามสถานที่ภูมิศาสตร์ ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากของแบรนด์ไม่ใช่การเฉพาะเจาะจงที่ผู้ใช้รายหนึ่ง
ยกตัวอย่างเช่น ยักษ์ใหญ่อย่าง Coca-Cola จะสามารถรับรู้ได้ว่าผู้บริโภคในแมสสาชูเซ็ตส์กล่าวถึง Coke Zero อย่างไร หรือร้านกาแฟ Starbucks จะได้ข้อมูลว่าลูกค้าในฟลอริดาชื่นชมหรือต่อว่าเครื่องดื่ม caramel latte ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจหรือแบรนด์ดังสามารถปรับวิธีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดีขึ้น
นอกจากดาต้าซิฟท์ ยังมีบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลนาม Gnip ร่วมเป็นพันธมิตรกับทวิตเตอร์ด้วย โดยจะได้สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อความทวีตเก่าเช่นกัน ทั้งหมดนี้ทวิตเตอร์ยังไม่ออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ล้วนมองในมุมกลับกัน โดยเชื่อว่าการเปิดให้นักการตลาดเข้าถึงประวัติการรับส่งข้อความในเครือข่ายสังคมนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อเครือข่ายมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต จุดนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่าชาวออนไลน์จะถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยโฆษณาออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคหลายล้านคนล้วนถูกติดตามมาตลอด
ทั้งหมดนี้ ทวิตเตอร์ยังไม่ออกมาเปิดเผยรายละเอียดรายได้ที่ทำได้จากการ"ขายทวีตเก่า" อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทวิตเตอร์เคยเปิดสิทธิ์ให้องค์กรอื่นเข้าถึงข้อความทวีตเก่าเก็บ โดยปี 2010 ทวิตเตอร์ตกลงเปิดเผยประวัติการทวีตแก่หอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯหรือ U.S. Library of Congress โดยขณะนี้รายละเอียดกระบวนการแบ่งปันข้อมูลจากข้อความทวีตต่อสาธารณชนซึ่งจะถูกเปิดเผยในอนาคตนั้นกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ปรากฏว่ากระบวนการทั้งหมดล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมถึง 6 เดือนเพราะข้อจำกัดเรื่องกฏหมายการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจุดประสงค์เชิงพาณิชย์
Company Related Link :
Twitter
ที่มา: manager.co.th
