นโยบายความเป็นส่วนตัวที่กูเกิลปรับปรุงใหม่ กำลังเป็นปัญหากับสหภาพยุโรปเนื้อหาหลักของนโยบายใหม่ที่ถูกปรับปรุง เกี่ยวข้องกับการรวมนโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้เป็น 1 เดียวสำหรับใช้งานทุกบริการของกูเกิลhttp://www.youtube.com/watch?v=KGghlPmebCY คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปประกาศชัด นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ปรับปรุงใหม่ที่กูเกิล (Google) ประกาศตั้งแต่เดือนมกราคมและกำลังมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคมนี้เข้าข่ายผิดกฏหมายสหภาพยุโรป ระบุว่าเป็นคำตัดสินที่เกิดหลังจากได้ตรวจสอบนโยบายใหม่ของกูเกิลอย่างละเอียดโดยองค์กรสัญชาติฝรั่งเศส วิเวียน เรดิง (Viviane Reding) คณะกรรมการยุติธรรมแห่งคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปหรืออียู ออกแถลงการณ์โดยอ้างผลการตรวจสอบจากสำนัก CNIL (Commission nationale de l'informatique et des libertés) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบสิทธิส่วนบุคคลอิสระของฝรั่งเศส หนึ่งในประเทศสมาชิกอียูที่ให้ความสำคัญกับสิทธิส่วนบุคคลของผู้บริโภคอย่างมาก
รายงานระบุว่า CNIL สรุปว่านโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ของกูเกิลนั้นไม่ตรงกับจุดประสงค์ในการปกป้องสิทธิผู้บริโภคของอียู ตามที่อียูเคยชี้แจงแก่กูเกิลไปแล้วว่านโยบายใหม่ของกูเกิลอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในอียู เนื่องจากอียูต้องการนโยบายให้สิทธิผู้บริโภคที่โปร่งใสมากกว่านี้
นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ของกูเกิลนั้นถูกปรับปรุงใหม่เนื่องจากความหลากหลายของบริการกูเกิล ที่ผ่านมา แต่ละบริการของกูเกิลทั้ง YouTube, Search หรือ Google+ จะระบุนโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้หรือข้อตกลงในการใช้งานที่ต่างกันไป ผลคือวันนี้กูเกิลมีนโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้มากกว่า 70 รูปแบบ เพื่อจัดระเบียบรูปแบบนโยบายเหล่านี้ กูเกิลจึงปิ๊งไอเดีย รวมนโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้เป็น 1 เดียวสำหรับใช้งานทุกบริการ
นอกจากรวบรวมนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นชุดเดียวกัน กูเกิลยังปรับเงื่อนไขการใช้งานให้อ่านง่ายและมีความยาวสั้นลง ปรากฏว่าอียูเป็นรายแรกที่ประกาศว่าความเปลี่ยนแปลงนี้อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายอียู จึงเรียกร้องให้หน่วยงานของฝรั่งเศสเข้าตรวจสอบ ก่อนจะสรุปว่านโยบายใหม่ผิดกฎหมายจริง
ที่ผ่านมา กูเกิลพยายามปกป้องนโยบายใหม่โดยย้ำว่า นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ใหม่จะทำให้ทุกบริการของกูเกิลอยู่บนการควบคุมเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้กูเกิลสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าเดิม ขณะเดียวกัน กูเกิลย้ำว่าข้อตกลงที่เปลี่ยนไปจะไม่มีผลกับการตั้งค่าข้อมูลส่วนตัวใดๆที่ผู้ใช้กำหนดไว้เดิม และนโยบายที่เปลี่ยนไปก็ไม่ได้ทำให้กูเกิลมีสิทธิ์เก็บข้อมูลผู้ใช้มากขึ้น
ทั้งหมดนี้กูเกิลยืนยันว่าบริษัทจะไม่เกี่ยวข้องกับการขายข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ แต่กำลังพยายามเป็นผู้นำด้านการรักษาความเป็นส่วนตัว เพื่อรักษาข้อมูลของผู้ใช้ให้ปลอดภัยตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม นโยบายใหม่โดยรวมของกูเกิลนั้นถูกวิจารณ์ว่าอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ในระดับผิวเผิน แต่หากมองให้ดีก็มีความเป็นไปได้ที่กูเกิลจะมีอำนาจในการส่งข้อมูลข้ามบริการมากกว่าเดิม เนื่องจากในข้อตกลงใหม่ระบุว่าการอัปโหลดเนื้อหาใดสู่บริการของกูเกิล ถือว่าผู้ใช้ได้อนุญาตให้กูเกิลต่อยอดเนื้อหานั้นได้ทุกกรณี
"สรุปโดยย่อคือ อะไรที่เป็นของคุณจะยังเป็นของคุณต่อไป เมื่อคุณอัปโหลดหรือส่งเนื้อหามายังบริการของเรา ถือว่าคุณได้อนุญาตให้ Google (และผู้ที่เราทำงานด้วย) ใช้สิทธิในเนื้อหาของคุณ ไม่ว่าที่ใดในโลก ในการใช้ โฮสต์ จัดเก็บ ทำซ้ำ แก้ไข สร้างงานต่อยอดเนื้อหาของคุณ (เช่น งานการแปลภาษา การปรับเปลี่ยน หรือการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่เราทำเพื่อให้เนื้อหาของคุณสามารถใช้งานได้ดีขึ้นร่วมกับบริการของเรา) สื่อสาร เผยแพร่ แสดงต่อสาธารณะ และแจกจ่ายเนื้อหาดังกล่าว" พร้อมกับทิ้งท้ายว่า "โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณมีสิทธิอนุญาตให้ใช้สิทธินี้แก่เราสำหรับเนื้อหาใดๆ ที่คุณส่งไปยังบริการของเรา"
ที่มา: manager.co.th