Author Topic: ค้าปลีกไอที วางเดิมพัน ตลาดโตสวนกระแสประหยัดงบ  (Read 1065 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

"ค้าปลีกไอที" ยังเป็นหนึ่งธุรกิจที่ยังมีกำลังซื้อ ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เหตุเพราะสินค้าไอที โดยเฉพาะในกลุ่มของคอนซูมเมอร์

  ไม่ได้เป็นสินค้าฟุ่ยเฟือยอีกต่อไป หากเป็น "ความจำเป็น" ที่ต้องใช้งานในชีวิตประจำวัน


 ห้างไอทีระดับตำนานอย่าง "พันธุ์ทิพย์" จึงอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท สำหรับการสร้างสาขาใหม่ทั้งที่ "บางกะปิ" และ "ดิจิทัล เกตเวย์" ย่านสยามสแควร์ เพื่อให้ครอบคลุมกำลังซื้อ โดยมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน มิ.ย.


 โดยปีนี้ "พันธุ์ทิพย์" ยังควักทุนอีกกว่า 100 ล้านบาท กระตุ้นการขายรวม 5 สาขาอย่างต่อเนื่องทั้งที่ พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ, งามวงศ์งาม, เชียงใหม่, บางกะปิ และดิจิทัล เกตเวย์ สวนกระแสนโยบายประหยัดงบขององค์กรธุรกิจส่วนใหญ่


เชื่อ "กำลังซื้อ" ยังมี
 นายวิษณุ หวังวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าไอที พันธุ์ทิพย์พลาซ่า บอกว่า ไม่ใช่ว่าพันธุ์ทิพย์จะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่เป็นเพราะธรรมชาติของสินค้าไอที โดยเฉพาะกลุ่มคอนซูเมอร์ยังเป็นกลุ่มที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ใช่สินค้าที่ฟุ่มเฟือยเหมือนอย่างในอดีต แต่สามารถนำมาพัฒนาศักยภาพ เพื่อการเรียนรู้ และต่อยอดสร้างรายได้ในชีวิตประจำวัน


 แม้ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตจากบริษัทต่างๆ จะเชื่อว่า ตลาดไอทีปีนี้จะหดตัว แต่พันธุ์ทิพย์ เชื่อว่า กำลังซื้อยังมีอยู่ หากแต่ผลกระทบที่เห็นชัดเจนจะสะท้อนออกมาในรูปของกำลังซื้อที่ถดถอยในบางจังหวะ แต่ยืนยันว่าในส่วนผู้ประกอบการวิกฤติที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลให้จำนวนร้านค้าขอถอนตัวจากการเช่าพื้นที่ในอัตราที่แตกต่างจากในช่วงเศรษฐกิจปกติ


 เขาบอกว่า ยอดการจองพื้นที่ใหม่ก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง สาขาใหม่ที่บางกะปิ มียอดจองพื้นที่ 80% ส่วนดิจิทัล เกตเวย์ เหลือปิดดีลใหญ่กับอีก 2 รายเท่านั้นก็จะเต็มพื้นที่ ซึ่งคาดว่ารวม 5 สาขาในปีนี้จะทำรายได้รวมเกิน 1,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมารายได้รวม 3 สาขา 700-800 ล้านบาท


 "แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศขณะนี้จะส่งผลให้ผู้บริโภคปรับตัว และชะลอการใช้จ่ายลงไปบ้าง แต่อัตราการเติบโตของยอดขายสินค้าไอทีในตลาดโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะอุปกรณ์ไอทีปัจจุบันผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการ และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนตอนนี้ได้ดี"


 ขณะเดียวกัน พันธุ์ทิพย์ ยังช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยปรับลดค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งปกติตามสัญญาบริษัทจะขึ้นค่าเช่าพื้นที่ราว 10% ทุกปี แต่ในช่วงนี้ได้เริ่มลดการขึ้นค่าเช่าเหลือไม่ถึง 5% เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่รอดได้


 นอกจากนี้ยังได้ยังเตรียมเจรจาขอความร่วมมือกับร้านค้าต่างๆ เพื่อขยายเวลาการเปิดให้บริการ ซึ่งจะเริ่มที่สาขาประตูน้ำ จากปกติร้านค้าจะปิดทำการตั้งแต่ 18.00 น. เป็น 20.00 น. เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายในกลุ่มคนทำงาน


ฮอตเซล ปลุกกำลังซื้อ
 รวมทั้งการจัดแคมเปญลดราคาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ได้เตรียมแผนจัดงาน "พันธุ์ทิพย์ ฮอต เซล"  6 เดือนครั้ง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อตลาดไอทีที่เริ่มชะลอตัวในช่วงต้นปี


 นายวิษณุ บอกว่า งานครั้งนี้จะเป็นแคมเปญใหญ่จัดพร้อมกันระหว่างสาขาประตูน้ำ และงามวงศ์วาน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยจะเน้นการทำโปรโมชั่นลดราคา เพื่อกระตุ้นให้คนเกิดความต้องการซื้อมากขึ้น โดยคาดว่ามีเงินสะพัดรวมในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาการจัดงาน 9 วัน (28 ก.พ.-8 มี.ค.52)


 ทั้งนี้เขายอมรับว่า ไม่ได้ตั้งความหวังกับมาตรการเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ 2,000 บาทของรัฐบาล ที่น่าจะมีโอกาสมาจับจ่ายใช้สอยในพันธุ์ทิพย์ เนื่องจากเป้าหมายของรัฐบาลคือ การกระตุ้นให้ประชาชนนำไปใช้จ่ายกับการบริโภคมากกว่า


 แต่สำหรับสินค้าไอทีในพันธุ์ทิพย์ ส่วนใหญ่มีราคาสูงกว่าเงิน 2,000 บาท ซึ่งโอกาสที่น่าจะพอมีคงจะช่วยกระตุ้น และสื่อสารให้ร้านค้าในพันธุ์ทิพย์ออกโปรโมชั่นมาเรียกความสนใจด้วยตัวเองมากกว่า


เปิด 'ตลาดนัด-กลางคืน
 อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ปีนี้พันธุ์ทิพย์กำลังจะมีโมเดลการตลาดใหม่ โดยพยายามเพิ่มศักยภาพของตัวร้านค้ามากขึ้น โดยได้เริ่มนำร่องทำตลาดนัดช่วงวันหยุด ที่สาขางามวงศ์วาน และเชียงใหม่ เพื่อเปิดพื้นที่ว่างให้ร้านค้ารายย่อยเข้ามาเช่าพื้นที่ขายสินค้าทั่วไปในวันเสาร์และอาทิตย์ และตลาดช่วงกลางคืน ในราคา 4 ตารางเมตรประมาณ 50 บาท


 ส่วนสาขาประตูน้ำ ก็กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาให้เช่าพื้นที่บริเวณลานจอดรถ เพื่อทำเป็นตลาด "ไนท์ บาร์ซาร์" ขายของไอที และทั่วไปในช่วงกลางคืนเช่นกัน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปีนี้แน่นอน
 




 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)