“น้ำ รพีภัทร” ควง “มินตรา” ปฏิเสธท้องก่อนแต่ง แจงที่รีบแต่งงานเพราะอยากอยู่ด้วยกัน อีกทั้งเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันไม่อยากให้แฟนสาวตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน เจ้าตัวแง้มถ้ามีลูกปีนี้เลยก็ถือว่าดี เผยสินสอด 7 หลัก และทองคำ ควงกันมาเปิดตัวงานแต่งหนุ่ม “เขตต์ ฐานทัพ” เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยังออกตัวว่ายังไม่คิดเรื่องแต่งงานเพราะยังไม่พร้อม การแต่งงานเป็นเรื่องอีกยาวไกล แต่อยู่ๆ หนุ่ม “น้ำ รพีภัทร เอกพันธ์กุล” ก็ออกมาปาดหน้าคู่อื่นประกาศแต่งงานกับรุ่นน้องร่วมค่ายดัชชี่ “มินตรา ชนิศา เหลี่ยวไชยพันธุ์” ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ทำเอาเซอร์ไพร์สไปตามๆ กัน ท่ามกลางข่าวเม้าท์ฝ่ายหญิงเบนโลหรือเปล่า? งานนี้หนุ่มน้ำก็เลยควงว่าที่เจ้าสาวออกมาเคลียร์ด้วยตัวเอง พร้อมยืนยันไม่ได้ท้อง แต่ยอมรับว่าถ้ามีลูกทันปีมังกรก็ถือว่าดี
น้ำ : “จริงๆ ผมขึ้นไปเชียงใหม่หลายๆ รอบในช่วงเวลาที่เราคบกัน ก็ขึ้นไปเที่ยว ไปพักผ่อน ไปแต่ละครั้งผมก็บุกเดี่ยวตลอด แต่ละครั้งเราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่มีครั้งหนึ่งที่เราจริงจังแล้วก็ไปคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเขา ไปดูฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ก็ถ้าเป็นพิธีการจะเป็นวันที่ 10 มีนาคม จัดที่เชียงใหม่ครับ เพราะว่าเป็นบ้านของมินตรา พอดีเขาเป็นคนจีนแล้วก็เป็นสาวเหนือ ก็ต้องมีพิธีการของทางจีนและไทยด้วย และก็เลี้ยงฉลองมงคลสมรส วันที่ 24 มีนาคม ก็จะเป็นงานเลี้ยงเพื่อนๆ พี่ๆ ผู้ใหญ่ในวงการ แล้วก็นักข่าวพี่สื่อมวลชนที่กรุงเทพ”
“ที่กรุงเทพก็เป็นงานเลี้ยงฉลองที่ไม่เน้นพิธีการเยอะ เน้นแบบว่าอยากจะให้ทุกคนมาร่วมฉลองร่วมแสดงความยินดีกับเราในกรุงเทพ เพราะถ้าจะให้ทุกคนเดินทางไปเชียงใหม่ก็คงลำบากมาก ส่วนสถานที่จัดงานที่คิดไว้ไม่อยากให้อุดอู้ หรือเป็นพิธีการอะไรมาก ก็อยากจะเลือกอะไรที่สบายๆ เน้นความเป็นกันเองมากกว่า คือผมจะใช้ร้านคุณเวียร์ ศุกลวัฒน์ แล้วผมก็จะให้ทีมเข้าไปจัดการ”
เมื่อถามว่าเพิ่มคบกันไม่ถึงปีทำให้หลายคนมองว่าแต่งงานกันเร็วไป ทั้งคู่ก็แจงว่า…
มินตรา : ”หลายคนอาจจะมองว่ามันเร็วเกินไปหรือเปล่า แต่สำหรับมินตราเองคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เราสองคนคุยกันมากกว่าค่ะ”
น้ำ : “เราคบกันมาตั้งแต่วันเกิดผมก็เกือบปีแล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว ผมว่าจริงๆ เรื่องระยะเวลาก็ไม่สำคัญนะ ถ้าเราคลิกกันแล้ว สำหรับผมเองรู้สึกว่าทุกๆ วันที่เรารู้จักกัน ทุกวันที่เราได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ได้ศึกษากัน แล้วมันใช่ในทุกๆ วัน และผมว่าในเมื่อมันเป็นแบบนั้นแล้ว ก็ไม่ควรต้องรออะไรแล้ว เพราะมันคือความใฝ่ฝันของผม คืออยากมีครอบครัว แล้วผมก็รอให้คนหนึ่งเข้ามา ซึ่งน้องมินตราก็เป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจครับ”
“ฟ้าแลบไหม ถ้าถามเร็วไปหรือเปล่า มันก็เร็วจนหลายคนอาจตกใจ แต่สำหรับเราสองคนคิดเรื่องนี้มาพอสมควรแล้ว แค่ยังไม่มีโอกาสได้บอก พอมีโอกาสได้บอกก็ปุ๊ปปั๊บและฤกษ์หรือกำหนดการช่วงเวลางานอาจจะเร็ว แต่ละคนเลยตั้งตัวมาทัน และสำหรับผมเองได้วางแผนมาสักระยะแล้ว”
มินตรา : “การที่หนูเพิ่งเรียนจบ ถ้าคิดว่าไวมันก็ไวค่ะ แต่อย่างที่บอกว่ามันเป็นการตัดสินใจของคนสองคน ส่วนว่าเสียดายชีวิตโสดไหม ไม่รู้สึกเสียดายเลยค่ะ เพราะว่าเราเจอคนที่ใช่แล้ว”
รีบแต่งงานคนอาจจะมองว่าเพราะเหตุผลอื่นหรือว่าท้องก่อนแต่งหรือเปล่า?
น้ำ : “สำหรับผมเองจุดประสงค์ที่เราอยากจะแต่งงาน คือเราอยากจะอยู่ด้วยกัน พอเราคบกันระหว่างนั้นผมก็อยากพาเขาไปไหนมาไหนด้วยกัน บางทีด้วยสายตาของคนบางส่วนอาจจะคิดดี บางส่วนอาจจะคิดลบก็มี ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่อยากให้ใครมองแฟนเราไม่ดี ส่วนใหญ่ผมถ่ายละคร จะอยู่กรุงเทพน้อยมมาก บางครั้งอยากให้เขาไปด้วย ในสายตาคนอื่นเขาอาจจะถูกมองไม่ดี ผมเลยคิดว่าควรทำอะไรให้ถูกต้อง แล้วคนนี้เราก็อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาไปตลอดทั้งชีวิตอยู่แล้ว ก็ควรทำให้ถูกต้องตามหลักประเพณี หลังจากนั้นเวลาเราจะไปไหนมาไหนด้วยกันคงไม่มีใครสามารถว่าอะไรเขาได้”
“คืออย่างที่ผมบอกไปแล้ว ว่าจุดประสงค์ที่อยากแต่งงาน คืออยากให้เขาอยู่กับผมไม่อยากให้ใครมองแฟนเราไม่ดีในภาพลบด้วย (ซีเรียสไหมพอบอกแล้วมีข่าวเม้าท์ออกมา?) ผมว่ามันเป็นอิสระทางความคิด แต่เราก็ได้บอกความต้องการของเราคืออะไร เราคิดอะไร ผมว่าแค่นั้นก็โอเคแล้ว (ยืนยันใช่ไหมว่าฝ่ายหญิงไม่ได้เบนโลก่อน?) ครับผม”
ว่าที่เจ้าสาวเผยที่ตัดสินใจเลือก “น้ำ” เป็นคู่ชีวิตเพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุขเป็นตัวของตัวเอง
มินตรา : “ก็รู้สึกว่าเวลาอยู่ด้วยกัน เราไม่ต้องวางตัวอะไรมาก ก็เป็นตัวของตัวเองเลย แล้วพี่น้ำเป็นคนสนุกสนานอยู่แล้ว อยู่ด้วยกันก็มีความสุขค่ะ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ตอนแรกคุณพ่อคุณแม่ก็ตกใจค่ะ แต่ท่านทั้งสองก็เชื่อในการตัดสินใจของเราทั้งสองคน”
น้ำ : “ส่วนเพื่อนๆ จริงๆ ผมยังไม่ได้บอกใคร พอมีข่าวออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์ ก็เหมือนเป็นการบอกกล่าวไปในตัว แล้วหลังจากนั้นให้พวกเขาเป็นฝ่ายโทรมาหาเราเองซะมากกว่า”
ด้าน “น้ำ” แย้มถ้ามีทายาททันปีมังกรเลยก็ถือว่าดี
น้ำ : “ใจจริงผมคิดไว้ว่าก็ดูก่อน แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ก็ดี เพราะว่ามินตราเองก็เกิดปีมังกร เราก็แต่งงานปีมังกร ผมว่าน่าจะเป็นอะไรที่เป็นสิริมงคลดี แต่เดี่ยวดูก่อน ถ้ามีก็มี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ”
ทุ่มสินสอดเป็นเงิน 7 หลัก และมีทองด้วยส่วนหนึ่ง
น้ำ : “ทางบ้านน้องเขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก แต่ให้เราจัดไปเอง ถามว่าจัดหนักไหม ก็พอสมควรเบาๆ สมน้ำสมเนื้อ ก็มีทั้งทองและเงินด้วย รวมๆ แล้วประมาณ 7 หลักกว่าๆ แหวนก็ไปดูมาแล้ว เอาแหวนแบบที่เขาชอบให้เขาเลือกเองเป็นแหวนน่ารักๆ แค่ไม่กี่กะรัต จริงๆ เขาบอกกันว่าแหวนหมั้นให้ใหญ่หน่อย แต่สำหรับผมเองอยากให้แฟนผมได้ใส่ประจำ แค่นั้นก็โอเค ในสิ่งที่เขาชอบ ในสิ่งที่เขาอยากได้ก็แค่นั้นเอง”
แล้วทางช่องว่าอะไรหรือเปล่า?
น้ำ : “ทางช่องก็ยังไม่รู้ แต่ผมก็ได้บอกกับพี่ๆ ไปหลายคนแล้ว แต่ก็ไม่เห็นพวกเขามีปฏิกิริยาอะไรเลยครับ”
ที่มา: manager.co.th
