เจอร์รี่ หยาง (Jerry Yang) ปิดฉากการทำงานร่วมกับยาฮู (Yahoo) บริษัทที่ตัวเองก่อตั้งมานานถึง 17 ปี ไม่เพียงยาฮู แต่หยางยังโบกมือลาจากการเป็นกรรมการบริหารอาลีบาบากรุ๊ปในจีนและยาฮูเจแปนในญี่ปุ่นแบบไม่เหลือใย งานนี้ไม่มีการเปิดเผยเหตุผลแต่คาดว่าเป็นการบอกใบ้ว่าหยางนั้นถอดใจและจะไม่ขวางทางการขายหรือเปลี่ยนแปลงยาฮูอย่างที่เคยเป็นมา รอย บอสต็อค (Roy Bostock) ประธานยาฮูออกแถลงการณ์ว่าการลาออกของหยางจะมีผลโดยทันที ทำให้การวางมือของหยางเกิดขึ้นหลังจากการแต่งตั้ง สก็อต ทอมป์สัน (Scott Thompson) อดีตผู้บริหาร PayPal เป็นซีอีโอยาฮูเพียง 2 สัปดาห์
ไม่เพียงตำแหน่งบอร์ดบริหารยาฮู ตำแหน่งบริหารของบริษัทในเครือยาฮูเช่นอาลีบาบา (Alibaba) ซึ่งยาฮูถือหุ้นอยู่ 40% และยาฮูเจแปน (Yahoo Japan) ซึ่งยาฮูถือหุ้นในสัดส่วน 35% ก็จะไม่อยู่ในการดูแลของหยางอีกต่อไป
สำหรับการลาออกของหยาง สื่อต่างประเทศเชื่อว่านี่คือสัญญาณที่แสดงว่ายาฮูจะสามารถตัดสินใจขายสินทรัพย์ได้อย่างยืดหยุ่นขึ้น ทั้งกิจการของยาฮูเองและหุ้นในเอเชียที่ยาฮูมีอยู่ ทั้งหมดนี้จะแตกต่างจากสมัยที่หยางยังไม่วางมือจากยาฮู เพราะที่ผ่านมาหยางนั้นแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ยาฮูตกอยู่ใต้อำนาจใคร และต้องการให้ยาฮูมีทรัพย์สินในธุรกิจเอเชียไว้ในมือเพื่อความมั่นคงของบริษัท ผิดกับกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการให้ยาฮูสร้างผลประโยชน์ในแง่ตัวเงินเป็นหลัก
เจอร์รี่ หยางนั้นดำรงตำแหน่งซีอีโอยาฮูตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2007 ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือการปฏิเสธข้อเสนอซื้อหุ้นของไมโครซอฟท์ในราคา 33 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าการตัดสินใจครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ถือหุ้นของยาฮูเพราะยาฮูต้องชวดเงินจำนวนถึง 4.7 หมื่นล้านเหรียญ และหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว มูลค่าหุ้นของยาฮูดำดิ่งลงเหลือเพียง 10-12 เหรียญเท่านั้น
เจอร์รี่ หยางเกิดที่ไต้หวันในวันที่ 6 พฤศจิกายน 1968 จากนั้นจึงย้ายมาอยู่ในสหรัฐฯพร้อมครอบครัวเมื่อมีอายุได้ 10 ปีและเติบโตที่ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย ระหว่างที่หยางศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หยางและเพื่อนร่วมชั้นนามเดวิด ฟิโล (David Filo) ได้ใช้เวลาว่างร่วมกันสร้างดัชนีเว็บไซต์ที่มีอยู่ทั่วโลกในขณะนั้นโดยให้ชื่อเรียกว่า "Jerry's Guide to the World Wide Web" เพื่อเป็นเครื่องมือนำทางในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
สำหรับบริษัทยาฮูนั้นถูกก่อตั้งในปี 1995 โดยหยางกลายเป็นเศรษฐีในปีถัดไปเพราะปีดังกล่าวเป็นปีที่ยาฮูเข้าตลาดหลักทรัพย์ 5 ปีถัดมายาฮูสามารถผ่านพ้นช่วงฟองสบู่ดอทคอมแตกได้โดยครองความนิยมเป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่ง มีผู้ใช้งานหลายล้านคนต่อวัน กระทั่งยักษ์ใหญ่ที่ชื่อกูเกิลเกิดขึ้น ความนิยมของยาฮูก็เริ่มสั่นคลอน และกลายเป็นเว็บไซต์สืบค้นข้อมูลที่มีการใช้งานมากเป็นอันดับสองของโลก
นิตยสาร Forbes เคยจัดอันดับว่าหยางเป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 524 ของโลกด้วย ระบุว่าหยางครอบครองทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.23 พันล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปี 2008
Company Related Link :
Yahoo
ที่มา: manager.co.th