AMD บริษัทผู้ผลิตชิพประมวลผลคู่แข่งรายสำคัญของ Intel ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในรอบไตรมาสที่ผ่านมา ทางบริษัทมีผลประกอบการโดยรวมต่ำกว่าที่ทาง Wall Street ได้คาดการณ์ไว้ถึง 128 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณ 18 เซนต์ต่อหุ้น
โดยรายได้ที่ลดลงของ AMD ในช่วงไตรมาสที่สามนี้ นอกจากจะต่ำกว่าเป้าที่ได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว ยังต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าอีกด้วย โดยมีรายได้ลดลงเกือบๆ 134 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 22 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งยอดตัวเลขรายได้โดยรวมทั้งหมดในช่วงไตรมาสนี้ของ AMD จะอยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อไตรมาสที่สองมาประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ แต่ต่ำกว่าไตรมาสที่สาม ปี 2008 ถึง 22 เปอร์เซ็นต์ โดย Dirk Meyer ประธานกรรมการของ AMD กล่าวว่า เนื่องจากแรงซื้อที่ค่อนข้างจะแข็งตัวของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คทางฝั่งจีน ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของราคา ทำให้ AMD ตัดสินใจที่จะพุ่งเป้ามาที่การพัฒนาชิพประมวลผลขนาดเล็กและมีราคาย่อมเยาว์ เพื่อให้สามารถเข้าต่อกรกันในตลาดปัจจุบันได้ โดยในอนาคตข้างหน้านี้ ทางทีมงานเตรียมที่จะเสนอชิพประมวลผลแบบซิลิคอนขนาดเพียง 32 นาโนเมตร โดยจะมีชื่อเรียกว่า Fusion ซึ่งจะเป็นการนำเอาชิพกราฟฟิกเข้าไปรวมอยู่ในชิพประมวลผลโดยใช้เทคโนโลยี 32 นาโนเมตร ซึ่งจะมีกำหนดเปิดตัวราวๆครึ่งหลังของปี 2010 นี้
ที่มา: pantip.com