“เสก” เข้าบำบัดอาการติดยาแล้ว แพทย์เผยตรวจพบแอมเฟตามีนในร่างกายเสกแต่ไม่ทราบชนิด ต้องรอเจ้าตัวอาการดีขึ้นก่อนจึงจะถาม แจงอาการของเสกถือเป็นขั้นที่รุนแรงที่สุดของผู้ติดยา ต้องใช้เวลารักษาอย่างน้อย 4 เดือน ด้านป.ป.ส.ชี้ไม่สามารถเอาผิดเสกได้เพราะเจ้าตัวยอมรับและยอมบำบัด
หลังออกมายอมรับว่าตนเองติดสิ่งเสพติดจากกรณีถูกอดีตภรรยาเผยแพร่ภาพออกมา ล่าสุดมีรายงานว่าทางด้านของนักร้องชื่อดัง “เสก โลโซ” ได้เดินทางเข้ารับการบำบัดอาการติดยาแล้ว ด้านความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่นักร้องดังมีกำหนดจะเข้ามาให้ข้อมูลในวันนี้ (29) นั้น ทางด้านของเสก โลโซ ได้ทำหนังสือขอผ่อนผันพร้อมส่งทนายไปเป็นตัวแทน
โดยในวันนี้ได้มีการเปิดแถลงข่าวขึ้น ซึ่งมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมด้วย นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ ผอ.ศพส.กระทรวงสาธารณสุข, นายณรงค์ รัตนานุกูล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., นางปลิว ศุขพิมาย มารดาเสก, นายอมร ศุขพิมาย (แสน นากา)พี่ชาย, นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายส่วนตัวเสก และ นายแพทย์อังกูร ภัทรากร รองผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ แพทย์เจ้าของไข้ เสก โลโซ ร่วมในการแถลงข่าวด้วย
โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า “เสกเข้ารับการบำบัดตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา วันนี้แม่ พี่ชาย ทนายเข้ามาขอผ่อนผันการให้ปากคำ เนื่องจากนักร้องชื่อดังกำลังเข้ารับการบำบัดอยู่ โดย ป.ป.ส.มีหน้าที่ในกรณีนี้เพียงแค่ซักถาม ให้ข้อมูล รวมไปถึงการนำพาไปบำบัดเท่านั้น จากกรณีเสกทางป.ป.ส.ได้ทำการดำเนินการรวบรวมหลักฐานข้อมูลทั้งหมดของนักร้องชื่อดังก่อน ซึ่งโดยภาพรวมต่อไปอาจจะมีการประชุมค่ายเพลงโดยให้ระบุในสัญญาของศิลปินเป็นข้อบังคับเฉพาะ หากทำผิดในเรื่องของการเสพยาให้พ้นสภาพของศิลปินโดยทันทีเพราะศิลปิน ดาราเป็นแบบอย่างของสังคม เป็นต้นแบบของเยาวชน หากกระทำผิดทางต้นสังกัดต้องสั่งแบนผลงาน 2 ปี รวมไปถึงตัวเสกเองด้วย ที่ทางสังกัดจะสั่งแบนผลงานถึง 2 ปี”
ด้าน นายณรงค์ รัตนานุกูล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. แจงว่า “กรณีเสกไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิดได้ ตามข้อกฎหมายมีระบุไว้แล้วว่าถ้ายอมรับและสมัครใจเข้ารับการบำบัดจะไม่สามารถเอาผิด และพ้นโทษจากข้อกล่าวหา สามารถกลับมาเป็นคนดีของสังคมโดยไม่ต้องโทษใดๆ วันนี้เป็นเพียงการมายื่นหนังสือเพื่อขอขยายเวลาการมาให้ปากคำของ เสก โลโซ เท่านั้น”
ขณะที่ นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ ผอ.ศพส.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมถึงการรักษาและบำบัดเสก “เบื้องต้นที่เข้ามา เสกรู้ตัว ไม่ได้อาละวาดอะไร ถือเป็นคนไข้ที่น่ารัก โดยคนไข้มีอาการอ่อนเพลีย ตรวจสอบแล้วมีอาการของการผู้ที่ใช้ยา มีอาการทางประสาท โดยตรวจสอบค้นพบสารเสพติดภายในร่างกายหลายชนิด เบื้องต้นได้ตรวจในส่วนของแอมเฟตามีน และกัญชา”
“ซึ่งทางเราพบสารแอมเฟตามีนอยู่ในร่างกายของเสก แต่ไม่สามารถระบุชนิดได้ เพราะสารเอมเฟตามีนมีอยู่ในจำพวก ยาไอซ์ ยาบ้า ยาเลิฟ และยังไม่ได้สอบถามเสกว่าเจ้าตัวใช้ยาชนิดไหน หากดีขึ้นถึงจะสอบถาม ขั้นตอนการรักษา มี 4 ขั้นตอน ดูแล ถอนพิษ ฟื้นฟู ติดตาม โดยทั่วไปใช้เวลารักษาอย่างน้อย 4-6 เดือน ซึ่งอาการของเสกอยู่ในขั้นมีอาการแทรกซ้อนทางสมองและอารมณ์ ซึ่งถือเป็นขั้นที่รุนแรงที่สุดของผู้ติดยาเสพติด การติดยาเป็นโรคชนิดนึงที่มีอาการเปลี่ยนแปลงทางสมองเพราะการใช้สารเคมี ไม่ได้เป็นคนบ้าอย่างที่หลายคนเข้าใจ เชื่อว่ามีการเสพมากกว่า 1 ปีขึ้นไป”
นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายส่วนตัว เปิดใจในฐานะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเสกมากที่สุดคนหนึ่ง “ผมเป็นผู้ที่ใกล้ชิดคลุกคลีกับเสกมากที่สุด ตั้งแต่มีภาพหลุดออกมา เรียกว่า 48 ชั่วโมงก็ว่าได้ เท่าที่เห็นไม่เคยเห็นเสกเสพยา และไม่เคยพบอุปกรณ์ในการเสพเลย มีแต่ขอร้องให้หาโรงพยาบาลเพื่อจะได้ไปรักษา สภาพก็เห็นเขามีอาการหลอนบ้าง แต่ไม่เคยซักถามเรื่องนี้เพราะอย่างที่เห็นว่าเขาอารมณ์ศิลปิน แต่เชื่อว่าก่อนเขารับการบำบัดเขาได้เลิกเสพยาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์”
“ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีคนติดตามพยายามฆ่า เชื่อว่าเป็นเพราะอาการหลอนจากฤทธิ์ยา เวลานั่งรถอะไรสวนมาหน่อยเขาก็จะคิดว่ากำลังมีคนติดตาม ในช่วงที่เสกเป็นตัวเสกเอง เขาจะพยายามเช็คข้อมูลทางเฟซบุ๊ก และขอร้องให้พาไปไปรักษา และเป็นห่วงแฟนเพลงตลอดเวลา การที่มีฟีดแบคจากแฟนในแง่ลบเริ่มเยอะก็มีส่วนทำให้เขาตัดสินใจเข้ารับการรักษา”
นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า “ในเมื่อเสกสำนึกผิดในการกระทำขึ้น สังคมควรจะให้โอกาสคนดีๆ ได้กลับใจ เบื้องต้นเสกจะเข้ารับการบำบัด 1 เดือนเป็นอย่างต่ำ และอยากให้เสกเป็นกรณีตัวอย่างและเชื่อว่าเสกจะกลับมาเป็นคนดีของสังคมได้ ผมได้โทรประสานงานกับทางคุณไพบูลย์(ดำรงชัยธรรม) และคุณไพบูลย์เองก็อนุญาตให้เอาคำพูดที่เราสนทนากันออกมาเปิดเผยได้ว่า ทางตนเองเองไม่ถือโทษติดใจเสกในพฤติกรรมก้าวร้าวเพราะเชื่อว่าตอนที่พูดไม่ใช่ตัวเสกไม่ได้เป็นเสก และแกรมมี่พร้อมอ้าแขนรับให้โอกาสหากเสกเลิกยาได้แล้ว”
“คุณไพบูลย์ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ช่วงที่เสกก้าวร้าวเพราะฤทธิ์ยา ในช่วงที่เขากลับมาเป็นตัวเขาเอง เสกได้ส่งเอสเอ็มเอสมาขอโทษ คุณไพบูลย์เลยไม่ติดใจอะไรเพราะรู้ว่าที่ทำไม่ใช่เพราะเสกเป็นเสก หากเลิกยาได้แล้วก็อยากให้เขาเป็นกำลังเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเรื่องยาเสพติด เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับทางป.ป.ส”
นายแพทย์อังกูร ภัทรากร รองผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ แพทย์เจ้าของไข้ เสก โลโซ เผยถึงความคืบหน้าการรักษาให้ฟังว่า “สรุปอาการคนไข้มีอาการประสาทหลอน ตัวแพทย์เองเข้าไปพูดคุยกับเสกเมื่อวาน คนไข้บอกว่าอยากกินข้าวมันไก่ เป็นห่วงทางบ้าน และก็ฝากบอกไปยังครอบครัวและแฟนว่าไม่ต้องเป็นห่วงเขา เสกก็เข้ารับการรักษาเหมือนผู้ป่วยทั่วไป แต่ให้อยู่ในห้องพิเศษ”
ทางด้านของแม่เสกที่เดินทางมาร่วมแถลงข่าวด้วยได้ยกมือไหว้ขอบคุณที่ให้โอกาสลูกชาย พร้อมกันนี้ นายอมร ศุขพิมาย (แสน นากา) พี่ชายของเสกได้ยืนยันว่าทางครอบครัวไม่มีใครรู้มาก่อนว่านักร้องดังติดยา “ทางครอบครัวไม่เคยรู้มาก่อนว่าเสกติดยา ถือเป็นข่าวช็อกของเราในครอบครัว แต่เมื่อเขาติดแล้วก็ยังดีที่เขายอมเข้ารับการบำบัด อยากให้เขาเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม และไม่อยากให้เยาวชนเอาเขาเป็นแบบอย่าง เมื่อวานนี้ทางครอบครัวเราก็ได้เข้าไปพบผู้ใหญ่ทางแกรมมี่ เอาดอกไม้ไปไหว้ขอขมาผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพี่เล็ก บุษบาหรือใครต่างๆ ทุกคนต่างไม่ได้ติดใจถือโทษโกรธเสก เพราะรู้ว่าที่ทำไปไม่ใช่เสก เชื่อว่าหากน้องชายเขารับการบำบัดแล้วทุกอย่างจะกลับสู่สภาพเดิมรวมถึงครอบครัวของน้องชายด้วย”
ทั้งนี้ทนายส่วนตัวของเสกได้ย้ำว่า การเข้ารับการบำบัดครั้งนี้เป็นการกระทำโดยสมัครใจของเสก วอนขอให้สื่อมวลชนงดการเผยแพร่ภาพ และติดตามเสกขณะเข้ารับการบำบัด แต่จะนัดแถลงข่าวอาการคืบหน้าทุกๆ 5 วัน ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ และเสกจะต้องเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดกับทาง ป.ป.ส ภายใน 30 วันหลังจากนี้
ที่มา: manager.co.th
