เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป (WD) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ประกาศรายได้สูงถึง 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการจำหน่ายฮาร์ดไดรฟ์ได้มากถึงราว 35.5 ล้านตัว รายได้สุทธิที่ 14 ล้านดอลลาร์ พร้อมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ WD Caviar Greenรุ่นใหม่ความจุ 2 เทราไบต์ สูงที่สุดในอุตสาหกรรมและเป็นรุ่นล่าสุดในตระกูลฮาร์ดไดรฟ์ WD Caviar Green ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยผลการดำเนินงานของบริษัทยังรวมถึงค่าใช้จ่ายจำนวน 113 ล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับแผนการปรับโครงสร้าง ซึ่งได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2008 หากไม่นับรวมถึงค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง และผลประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องมูลค่า 4 ล้านดอลลาร์แล้ว ตัวเลขรายได้สุทธิที่คำนวณโดยไม่ใช้หลักการบัญชีซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วไป จะอยู่ที่ 123 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.55 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ในไตรมาสของปีก่อนหน้า บริษัทได้รายงานรายได้ที่ตัวเลข 2,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในจำนวนนี้ 2,100 ล้านดอลลาร์เป็นรายได้ที่มาจากการจำหน่ายฮาร์ดไดรฟ์ โดยยอดจำหน่ายในปีที่แล้วอยู่ที่ 34.2 ล้านตัว ขณะที่รายได้สุทธิอยู่ที่ 305 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 1.35 ดอลลาร์ต่อหุ้น
WD ได้วางจำหน่ายฮาร์ดไดรฟ์แบบพกพาขนาด 2.5 นิ้วจำนวน 13.8 ล้านตัว และขนาด 3.5 นิ้วจำนวน 4.1 ล้านตัวสำหรับตลาด PVR/DVR เทียบกับ 8.7 ล้านตัว และ 4.1 ล้านตัวตามลำดับในปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ WD คิดเป็น 22% ของรายได้ที่มาจากการจำหน่ายฮาร์ดไดรฟ์ในไตรมาสเดือนธันวาคม เทียบกับ 18% ในไตรมาสของปีที่แล้ว ทั้งนี้ WD สามารถทำรายได้คิดเป็นเงินสดมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์จากการดำเนินงานในช่วงระหว่างไตรมาสเดือนธันวาคม โดยเมื่อสิ้นสุดไตรมาสแล้วมีเงินสดและที่เทียบเท่ากับเงินสดทั้งสิ้นมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์
จอห์น คอยน์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ WD กล่าวว่าจากปัญหาความผันผวนทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และความต้องการใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ลดลงอย่างฮวบฮาบในระหว่างไตรมาส WD จึงปรับค่าใช้จ่ายในการผลิตและการดำเนินงานให้สอดคล้องกับปริมาณต่อหน่วยซึ่งต่ำกว่าแผนที่วางไว้ในตอนต้นเป็นอย่างมาก แต่ยังคงวางแผนที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องในแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์รุ่นถัดไปในช่วงเศรษฐกิจขาลงเช่นนี้ และเราจะเน้นที่การรักษาไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในการปรับใช้เทคโนโลยี ฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ง่าย
พร้อมกันนี้ WDเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ WD Caviar Greenรุ่นใหม่ความจุ 2 เทราไบต์ สูงที่สุดในอุตสาหกรรมและเป็นรุ่นล่าสุดในตระกูลฮาร์ดไดรฟ์ WD Caviar Green ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำงานได้เงียบและไม่ร้อน ทั้งยังเป็นฮาร์ดไดรฟ์ยอดนิยมของ WD โดยแพลตฟอร์มใหม่ขนาด 3.5 นิ้วนี้ใช้เทคโนโลยีความจุ 500 กิกะไบต์ต่อแพลตเตอร์หนึ่งแผ่น
มร. มาร์ค จีเนน ประธานบริษัทเทรนด์ โฟกัสกล่าวว่า ในขณะที่อุตสาหกรรมบางส่วนยังไม่แน่ใจว่าลูกค้าจะสนใจซื้อไดรฟ์ความจุ 1 เทราไบต์หรือไม่ ฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้วที่ความจุ 1 เทราไบต์หรือสูงกว่าก็ครองสัดส่วนยอดขายไปถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานวิดีโอและขยายคลังจัดเก็บสื่อของผู้บริโภค ฮาร์ดไดรฟ์ความจุ 2 เทราไบต์จะยังคงตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ปรารถนาจะจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นลงในฮาร์ดไดรฟ์ที่มีความจุสูงสุดเป็นประวัติการณ์
WD Caviar Green เป็นหนึ่งในสายผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในยุคปัจจุบันของ WD ที่ใช้เทคโนโลยี GreenPower เจนเนอเรชั่นที่สาม ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลความจุ 2 เทราไบต์ที่วางใจได้และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสำหรับการจัดเก็บไฟล์และภาพกราฟิกความละเอียดสูงในปัจจุบัน
“การประหยัดพลังงานโดยที่ไม่ต้องสูญเสียความจุในการจัดเก็บ คือสิ่งที่ลูกค้าและธุรกิจจำนวนมากต้องการในปัจจุบัน ด้วยการเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์รุ่นใหม่ความจุ 2 เทราไบต์ที่อยู่ในตระกูล Caviar Green ของ WD ลูกค้าจึงได้รับความจุเพิ่มเติมที่จำเป็นต่อการใช้โปรแกรมขั้นสูงในปัจจุบัน รวมทั้งสำหรับจัดเก็บไฟล์ดิจิตอลความละเอียดสูง ขณะเดียวกันก็ยังใช้พลังงานน้อยกว่าฮาร์ดไดรฟ์ทั่วไปที่ให้ประสิทธิภาพและระดับความจุที่เท่ากัน” จิม มอร์ริส รองประธานอาวุโสของ WD และผู้จัดการทั่วไปแผนก Client Systems กล่าว
