Author Topic: แคนนอน อ่วมน้ำท่วม รายได้หดพันล้าน  (Read 910 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


โดม ปกรณ์ ลัม พรีเซนเตอร์ คนใหม่ของพรินเตอร์แคนนอน

แคนนอนรับน้ำท่วมกระทบยอดรายได้รวม ลดลงไป 1,000 ล้านบาท ล่าสุดโรงงานเริ่มกลับมาผลิตตามปกติแล้ว และคาดว่าจะยังยึดอันดับหนึ่งเครื่องพิมพ์ซิงเกิลฟังก์ชันติดต่อกันเป็นปีที่ 12 ส่วนปีหน้าเชื่อรายได้รวมทะลุหมื่นล้าน
       
       นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า จากเดิมแคนนอนคาดการณ์รายได้รวมทั้งปีไว้ที่ 9,300 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นอัตราเติบโตราว 10% แต่จากเหตุการอุทกภัยที่เกิดขึ้นทำให้คาดว่ารายได้จะลดลงเหลือ 8,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตจากปีที่ผ่านมาราว 10%
       
       "ผลกระทบหลักมาจากโรงงานผลิตพรินเตอร์อิงค์เจ็ทที่โดนน้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงทำให้กำลังการผลิตในช่วงเดือนต.ค. - พ.ย. หยุดไป และเพิ่งจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ในช่วงดังกล่าวแคนนอนก็ได้มีการขยายฐานการผลิตไปยังนครราชสีมา ซึ่งเริ่มผลิตเมื่อ 21 พ.ย. เพื่อลดการขาดแคลนสินค้า"
       
       โดยทางแคนนอนยืนยันว่าจะไม่มีการย้ายฐานการผลิตแน่นอน เพราะยังเชื่อมั่นว่าตลาดในประเทศไทยยังมีศักยภาพการเติบโตที่ดี และแนวโน้มตลาดก็เชื่อว่ายังเติบโตต่อเนื่อง สำหรับสัดส่วนรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ ถือเป็นสัดส่วนราย 35% ของรายได้รวม ส่วนกลุ่มที่ทำรายได้ให้แคนนอนมากที่สุดคือ 50%
       
       นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเติบโตของกลุ่มธุรกิจพรินเตอร์นั้น เติบโตจากช่วงปีที่ผ่านมาราว 15-16% ส่วนในปีหน้าเชื่อว่ากลุ่มพรินเตอร์ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 13%
       
       "ตอนนี้แคนนอนมีส่วนแบ่งในตลาด 55.2% ในส่วนของผลิตภัณฑ์อิงค์เจ็ทพรินเตอร์กลุ่ม ซิงเกิลฟังก์ชัน ส่วนในกลุ่ม ออลอินวัน มีส่วนแบ่ง 53.8% ทำให้เชื่อว่าจะสามารถยึดอันดับหนึ่งในกลุ่มนี้ต่อไปเป็นปีที่ 12"
       
       ส่วนแคมเปญใหม่จะแบ่งออกเป็น 4 แคมเปญ คือ Be Trend โชว์ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีคลาวด์พรินติ้ง ที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากความสะดวกสบายในการใช้งาน Be Fun ให้สนุกสนานกับซอฟต์แวร์ที่หลากหลายในการพิมพ์ภาพ และสมุดภาพ Be Efficient ที่ประหยัดหมึก ทำให้ต้นทุนการพิมพ์เหลือแผ่นละ 49 สตางค์ สุดท้าย Be Clever ที่ทำเทคโนโลยีไว-ไฟ มาใช้กับตัวผลิตภัณฑ์
       
       "ปีหน้าเชื่อว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์เลวร้าย แคนนอนตั้งเป้าว่ารายได้รวมน่าจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท" นายวาตารุ กล่าวทิ้งท้าย
       
       Company Relate Link :
       Canon

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)