“อ๊อฟ ศุภณัฐ” โอดเสียหายเป็นนับล้านบาท ทำใจหลังน้ำลดต้องซ่อมแซมบ้านและธุรกิจครอบครัวอีกเยอะ เพราะเครื่องแปรรูปไม้เสียหายทั้งหมดเหมือนเริ่มต้นใหม่ เผยพ่อเครียดประสาทกินจนต้องนอนโรงพยาบาล แต่ถึงอย่างไรก็จะขอรับเงินช่วยเหลือ 5 พันบาทจากรัฐบาล และจะไม่กู้หนี้ยืมสิน
เป็นศิลปินอีกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย สำหรับนักร้องเจ้าของฉายากระรอกน้อย “อ๊อฟ ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ” ที่ครอบครัวมีธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างอยู่ที่จังหวัดชัยนาท โดยหลังจากที่น้ำนั้นได้ลดระดับลงจึงได้เห็นความเสียหายของบ้านรวมไปถึงร้านวัสดุก่อสร้าง แต่ถึงจะโดนน้ำท่วมจนได้รับความเสียหายแค่ไหนหนุ่มอ๊อฟก็ยังมีกำลังใจดี แต่กว่าจะผ่านเหตุการณ์มาได้ก็ทำเอาคุณพ่อของเจ้าตัวนั้นถึงกับเครียด จนต้องเข้าโรงพยาบาลเหมือนกันเพราะอุตส่าห์เริ่มต้นทำธุรกิจจากศูนย์ แต่ก็มาพังพินาศเพราะพิษน้ำท่วม เสมือนกลับไปเริ่มต้นใหม่
“อ๊อฟก็ถือว่าเป็นผู้ประสบภัยแรกๆ เลย ที่บ้านโดนก่อนเลย ดีว่าเขื่อนไม่พังเพราะบ้านอ๊อฟอยู่หน้าเขื่อน แต่กำแพงแถวบ้านพัง ขนาดที่บ้านของอ๊อฟสร้างเขื่อนดินสูงประมาณเมตรครึ่ง เราก็เชื่อว่ามันต้องไม่เข้าบ้านแน่นอน ไม่เข้าท่อด้วยซ้ำ แต่คันดินพังไม่เหลือชิ้นดีเลย ก็เก็บของไม่ทัน บ้านไม่พังก็ถือว่าบุญแล้ว น้ำแรงมากบ้านเลย เป็นเกาะกลางถนนหน้าบ้านขาดสองร้อยเมตรอย่างเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้น้ำวนด้วย ก็เสียหายเยอะเลยเราก็นอนใจว่ามันจะไม่เข้าก็คิดว่าบ้านเราสูง สูงกว่าชาวบ้านสูงกว่าทุ่งนา 2-3 เมตร ทุ่งนาตอนนี้ก็เท่ากับถนนเลย”
“ส่วนใหญ่ของที่เสียหายก็เป็นพวกเหล็กพวกไม้ เครื่องจักรโรงงานอีกที่เอาไว้ทำไม้แปรรูปตัวนึงก็หลายแสนบาทแล้ว อย่างต่ำ 1.8 แสน มากสุดก็ 3-4 แสน คุณพ่อผมเก็บเงินมาทั้งชีวิตมาตัวเปล่านะ เป็นครอบครัวคนจีนเก็บเงินค่อยๆซื้อกันไป มาแบบเสื่อผืนหมอนใบเราเก่งมาก พอมาถึงตอนนี้เราเหมือนกันย้อนกลับไปเกือบจะเริ่มต้นใหม่เลย”
“คุณแม่ก็อยู่กับอ๊อฟตลอด จริงๆ ก็จะไม่เห็นหรอกว่าน้ำท่วมที่บ้านมันเป็นยังไง แต่คุณพ่อกับพี่ชายนี่ผวาตลอด ด้วยความที่เขาเข้มแข็งสองวันอยู่ได้ แต่พอวันที่สามอยู่ไม่ได้เครียด น้ำรายล้อมเตียงอีกแค่คืบเดียวเอง ตื่นทุกชั่วโมงเขาบอกว่าประสาทจะกิน เลยทำให้คุณพ่อไปนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ ตอนนี้ก็ไปพึ่งญาติพี่น้องบ้าง แต่ไปทางไหนน้ำก็ตาม แต่ตอนนี้ก็แห้งสนิทแล้วเพราะสองเดือนกว่าความจริงลดแค่เมตรเดียว เราก็ดีใจจะแย่ แต่นี่กลับแห้งเลยเราก็ดีใจสุดๆ อยากจะทำความสะอาดจะแย่ มีแต่โคลนข้างบ้านเดิมเป็นทุ่งก็มีแต่ทราย กลายเป็นหาดทรายไปแล้ว”
“ธุรกิจก็เกือบเริ่มต้นใหม่ แต่คงไม่กู้หนี้ยืมสินอะไร แต่มันก็ต้องใช้งบมหาศาลมากเป็นล้านครับ แต่ที่บ้านผมก็ยื่นเรื่องขอเงินช่วยเหลือ 5 พันบาทนะ เราก็ทำเหมือนๆ ชาวบ้านได้แค่ไหนก็แค่นั้น ตอนนี้มีงานก็รีบรับเลย อะไรก็ได้เพื่อที่จะเอาเงินมาเลี้ยงตัวเองและส่งกลับให้ที่บ้านด้วยครับ”
“ส่วนผลกระทบเรื่องงานก็เจอเยอะเหมือนกัน โดนยกเลิกเยอะเลยครับ ตั้งแต่เริ่มน้ำท่วมแบบว่ากำลังจะได้ไปเล่นแล้วเชียวที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตอีกวันโทรมาบอกเลยว่ายกเลิกนะ ไม่มีคนดู เราก็ต้องยอมรับสภาพไปครับ ช่วงนี้งานจ้างก็ต้องหยุด แต่งานกุศลนี่ไปหมดเลยครับ”
ที่มา: manager.co.th