“โจ จิรายุ” เซ็งเตรียมซ่อมบ้านเสียเงินอีกบาน เผยเห็นใจคนที่สิ้นเนื้อประดาตัว ส่วนปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้นเจ้าตัวบอกเป็นเพราะประชาชนรู้สึกเหมือนถูกเลือกปฏิบัติ ก่อนซัดน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้คนไทยตาสว่างว่าใครเป็นใคร พร้อมแนะคนที่แห้งก็ควรหยิบยื่นความช่วยเหลือให้คนที่เปียก เพราะถือว่าเป็นคนเสียสละ
เป็นอีกคนหนึ่งที่บ้านโดนน้ำท่วมเป็นเดือนๆ สำหรับ “โจ จิรายุ วรรธนะสิน” จนทำให้เจ้าตัวดูจะหงุดหงิดกับการทำงานของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจนวิจารณ์ผ่านทวิตเตอร์ของตัวเองอย่างดุเด็ดเผ็ดมันอยู่บ่อยครั้ง สบโอกาสเจอหนุ่มโจระหว่างมาเปิดมินิคอนเสิร์ตในงาน “สยามรวมใจ ไทยช่วยไทย” ณ ลานพาร์คพารากอน ร่วมกับเพื่อนซี้ “ก้อง สหรัถ สังคปรีชา” จึงเข้าไปสอบถามความคืบหน้าเรื่องสถานการณ์บ้านเจ้าตัวก็เผยว่า…
โจ : “เราช่วยอะไรได้ก็ช่วยเงินก็ช่วยแล้วแรงก็ช่วยแล้ว ร้องเพลงได้ก็ร้อง นี่ถ้าขับรถแบ็คโฮได้คงไปช่วยแล้ว (หัวเราะ) น้องชายผมก็ขี่เจ็ทสกีไปช่วย ส่วนบ้านผมก็คงต้องใช้เงินซ่อมแซม บริจาคเขา เราก็ต้องบริจาคตัวเองด้วย รอไม้หายชื้นก็ต้องเปลี่ยนเป็นกระเบื้องอีก ใครจะกล้าไปใช้ไม้ต่อ มันต้องมาอีก คงต้องเป็นกระเบื้องสนามหญ้าก็ต้องรอให้หายเน่าก็ต้องทำใหม่”
“เรื่องงบประมาณถามตอนนี้ยังไม่ทราบเลย บ้านผม 120 ตารางวาก็คงเยอะครับ สถานการณ์บ้านตอนนี้น้ำในบ้านลดแล้วเหลือแต่รอบๆ ยังต้องใช้เรืออยู่ถนนนาวงศ์ประชา เลียบคลองประปา ใครมีอำนาจเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสส.ในพื้นที่หรือคนที่มีหน้าที่ดูแลกรุงเทพช่วยดูหน่อยเถอะ ถ้ามันระบายไม่ได้ก็บอกมา จะได้รอพระอาทิตย์เผาให้น้ำมันระเหยเอง(หัวเราะ)”
“เราท่วมก่อนแถมยังลดทีหลัง แต่เราก็ไม่โวยวาย ในหมู่บ้านผมทุกคนเงียบ เวลามีอะไรได้แต่โทรคุยผ่านโทรศัพท์ว่าเรารู้ชะตาว่าคลองประปาเขาไม่เอาลง ข่าวหรือสื่อผู้ที่มีอำนาจ นักการเมืองท้องถิ่น ก็จะไปดูแถวเมืองเอก คลองเปรม ลองมีใครสักคนกล้ามาพูดตรงนาวงศ์ประชา คลองประปา ผมจะเลือกท่านสมัยหน้า จริงๆ บางคนสิ้นเนื้อประดาตัวน้ำท่วมบ้านมิดหลังคาอันนี้รัฐต้องเข้าไปช่วย ผมก็คงได้แต่ให้กำลังใจและเสียใจมากๆ อธิษฐานเผื่อ แต่รัฐต้องเข้าไปช่วยอย่างมาก”
ก้อง : “อันนี้ไอเดียผมคนเดียวนะ ไม่ต้องทำตามก็ได้ คนที่แห้งอยู่ต้องช่วยหรือหยิบยื่นทรัพย์อะไรบางอย่างให้กับคนที่เขาเปียก ตอนนี้มันมีคนอยู่สองพวก พวกหลังบิ๊กแบ็คเขาอยู่แบบเปียกเพื่อคนที่แห้ง ถ้ามีมาตรการอะไรบางอย่าง สมมติว่าบ้านคนที่แห้งอาจจะเสียสละสัก 5 พันไหม หรือแล้วแต่ตามกำลังศรัทธาที่คุณพอจะไหว แต่มันต้องมีอะไรบ้างช่วยคนที่เปียก เพราะเขาสละให้พวกคนที่แห้ง มันถึงจะดูน่ารัก สังคมถึงจะอยู่กันได้”
โจ: “หรือไม่ก็ประกบกันเลย บ้านเลขที่นี้ในเขตที่ไม่ท่วม จับคู่กับบ้านเลขที่นี้ที่บ้านน้ำท่วมอะไรแบบนี้”
ก้อง : “มันก็ต้องเป็นแบบนี้เพราะว่าคุณรอดไง คุณไม่ต้องเสียเงินซ่อมบ้าน แต่ก็น่าจะมีอะไรที่สามารถช่วยคนที่เขาเปียกอยู่ ผมว่ามันน่ารักดี”
โจ : “ส่วนเรื่องการขัดแย้งกันระหว่างคนที่น้ำท่วมน้ำไม่ท่วม ความจริงมันจะไม่ขัดแย้งเลย ถ้าปล่อยให้น้ำมันไหลตามแรงดึงดูดของโลกโดยธรรมชาติ จะไม่มีการทะเลาะกันเลย แต่พอมีการทำให้น้ำไม่ไหลไปทางธรรมชาติปั๊บ มันก็จะเกิดคำถามขึ้นว่าฉันล่ะ คนอย่างฉันเป็นคนชั้น 2 เหรอ ก็ไม่ปล่อยน้ำให้ไปตามธรรมชาตินี่ครับ เพราะกลัวว่ามันจะไปเข้าพื้นที่นู่นนี่นั่น”
“คนกรุงเทพผู้ว่าก็ไม่อยากให้ท่วม สส. พรรครัฐบาลก็ท่วมหน่อยก็ได้ คราวหน้าจะได้บริหารงานอย่างเป็นเอกภาพ เลือกตั้งผู้ว่าก็บอก ผมปกป้องกรุงเทพเต็มที่แล้วครับ หรือเลือกตั้งคราวหน้าพรรคตรงข้ามก็จะได้หาเสียงว่า เลือกเราสิครับจะได้บริหารงานอย่างเป็นเอกภาพท่านคอยดู… แต่น้ำกูไม่ลด (หัวเราะ) ประชาชนเดือดร้อนครับ”
“ผมว่าน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ประชาชนได้บทเรียนว่าจะได้รู้เลยว่าใครเป็นใคร รู้เรื่องว่าอะไรเป็นอะไร มันมีบางอย่าง ไม่ใช่ว่าน้ำเลือกท่วมกรุงเทพ บางจุดน้ำเลือกท่วมบางจังหวัดในประเทศไทย บางจังหวัดทางทิศตะวันตกควรจะท่วมก็ไม่ท่วม มันก็เลยเป็นคอขวดออกมา (แฟนคลับที่ยืนฟังอยู่ในงานตบมือส่งเสียงเฮ) เพราะน้ำไม่ถูกแบ่งไปทางนั้น มันผิดมาตั้งแต่ต้น แต่ไม่เป็นไรทันตาเห็น 5 วัน 7 วัน 7 เดือน 7 ปีได้เห็น”
ที่มา: manager.co.th
