“แมทธิว” ฉุดจัดถูกหมิ่นเกาะ “ลีเดีย” หลุดด่าช่างแม่ง พร้อมสวนกลับบ้านผมก็ทำธุรกิจเหมือนกัน ลั่นหาเงินเองมาตั้งแต่เด็กไม่เคยมีนิสัยคบแฟนรวยเพื่อผลประโยชน์แอบแฝง เผยอยากแต่งงานกันแล้ว แต่คิดว่าแฟนสาวยังเด็กอยู่ ก่อนแง้มลีเดียกำลังซุ่มทำเพลงกับ “เจ๊ฉอด”
เป็นคู่รักที่ยังหวานคงเส้นคงวาแม้จะคบกันมานานถึง 6 ปีแล้ว สำหรับคู่ของสาว “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” และหนุ่ม “แมทธิว ดีน” ยิ่งสาวลีเดียออกมารับงานอิสระไม่สังกัดค่าย หนุ่มแมทธิวเองก็คอยตามเป็นกองหนุนคอยช่วยคิดช่วยสนับสนุนไม่เคยห่าง ล่าสุดหนุ่มแมทธิวได้เผยโปรเจกต์ใหม่ของแฟนสาวว่า กำลังจะร่วมทำซิงเกิ้ลใหม่กับทาง “เอไทม์มีเดีย” ในเครือ “แกรมมี่”
“ลีเดียเขาก็จะมีซิงเกิ้ลกับทางเอไทม์ครับ ประมาณเดือนธันวาคม พี่ฉอด(สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา)เป็นคนชวน เดียเขาก็เข้าไปคุยตกลงคอนเซ็ปต์ ฟังเพลงแล้วก็ตกลงเลย เรื่องสัญญาคงไม่เซ็นหรอกครับ คงทำแค่โปรเจกต์ ช่วงที่ผ่านมาคนคงได้เห็นความสามารถของเขาในเวทีโพลีพลัส (ต่อไปจะเซ็กซี่มากขึ้น?) แน่นอนอยู่แล้ว แล้วผมก็ไม่หวงด้วย ความจริงผมเห็นมานานแล้ว แต่คนอื่นอาจจะยังไม่ได้เห็น”
“อย่างล่าสุดที่เขาขึ้นคอนเสิร์ตโพลีพลัส เขาก็ร้องเต้นเต็มที่ เขาทำได้ผมว่าทุกคนรู้ข้อนี้ดีอยู่แล้ว แต่เพียงเขายังไม่ค่อยได้มีโอกาสปลดปล่อยด้านนี้ของเขา อยู่ที่คนครีเอทโปรเจกต์ให้เขา ก็ถือว่างานนั้นเป็นการให้โอกาสเดียได้แสดงความสามารถจริงๆ เพราะการอยู่ในค่ายบางทีมันก็มีข้อจำกัดตรงนี้ไง ภาพลักษณ์ของการอยู่ในค่ายมันอาจจะไม่ใช่ตัวเราหรือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ”
“ผมดันเขาเต็มที่เลยครับ ไม่ใช่ว่าจะดันเขาไปในทางเซ็กซี่นะ แต่อยากจะให้เขาได้โชว์ฝีมือของเขาในทุกๆ ด้าน จริงๆ เดียเขาเป็นคนมีฝีมือ อยู่ที่ว่าเขาจะมีที่ปล่อยรึเปล่า ก็ช่วยกันหาโปรเจกต์ดีๆ ต่อไปคงได้เห็นอะไรแบบนี้ของเดียอีกเยอะเลย การร้องการเต้นผมว่ามันเป็นอะไรที่เหมาะกับเขา ไม่ใช่แค่การขึ้นไปร้องเพลงช้า อาร์แอนด์บีอย่างเดียว เขาทำได้มากกว่านั้น”
“ส่วนโอกาสโกอินเตอร์ผมว่าตอนนี้เขาน่าจะยังก่อน ผมว่าเขาจะต้องแน่นในประเทศไทยก่อน ต้องเป็นที่รู้จักและยอมรับในประเทศไทยอีกประมาณนึง คงต้องให้ทุกคนได้เห็นความสามารถของเขามากกว่านี้ก่อนที่จะไปทำอะไรต่อในประเทศอื่น มันมีหลายองค์ประกอบครับ ทั้งคนดัน รวมไปถึงดวงชะตาของเขา ผมว่ามันก็มีส่วน”
เผย 6 ปีรักยังหวาน ลั่นยังไม่คิดแต่งงานเพราะมองว่าแฟนสาวยังเด็กเกินไปไม่ใช่เพราะฐานะต่าง
“หวานกว่าเดิมครับ ส่วนเรื่องแต่งงานคงต้องค่อยว่ากันอีกที ยังไม่รับร้อน ไม่กดดันหรอกครับ ปกติอยู่แล้ว เดียเองเขายังเด็กอยู่มาก แล้วเราก็ห่างกัน 9 ปีด้วย ตัวผมไม่ซีเรียสเพราะเราก็ผู้ชายจะแต่งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เดียเขายังเด็กไปสำหรับตรงนี้นะผมว่า แต่จะให้เขารอจนแก่มันก็คงไม่ได้ ก็ต้องหาจังหวะที่พอดีสำหรับเขา ผมเองอยู่เมืองไทยมานาน ถึงผมจะเป็นฝรั่งแต่ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี ก็กลับไปที่คำตอบเดิมคือต้องพร้อมกันทั้งคู่ ทั้งพ่อแม่อยากให้แต่ง เราเองก็อยากจะแต่งกันอยู่แล้ว แต่จะให้มาแต่งเพราะอยากจะเอาใจคนอื่นๆ มันคงไม่ใช่”
“เรื่องแบบนี้เราต้องทำไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว อยู่ที่คนสองคนว่าใจพร้อมตรงนี้รึยัง (ครอบครัวลีเดียเองเขาก็เป็นนักธุรกิจ มีหวั่นใจมั้ยว่ากลัวเขาจะไม่มั่นใจเรา?) ที่บ้านผมเองก็มีธุรกิจเหมือนกันครับ แม่ผมก็มาจากตระกูลใหญ่เป็นคนจีน แล้วทางคุณพ่อของเดียเองเขาก็รู้จักกับลุงของผมด้วยซ้ำ ก็รู้จักกันมานานแล้วด้วย มันไม่เกี่ยวกันหรอกครับ เรื่องแบบนี้คงต้องดูที่ตัวเราว่าเราสองคนโอเคกันรึเปล่า ถ้าลงตัวก็คงไม่น่ามีปัญหา ผมกับครอบครัวเดียเราเจอกันอยู่เรื่อยๆ”
รับโกรธมากและเลือกไม่ใส่ใจถูกมองคอยเกาะแฟนสาว ยันไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์
“บอกตรงๆ ผมโกรธมากเลยนะ ที่มีคนหาว่าผมเกาะเดียหรืออะไรต่างๆ เหมือนเขาพยายามจะทำร้ายเรา ซึ่งมันจะกลายเป็นภาพให้ใครอีกไม่รู้กี่ร้อยพี่กันคนจำเราในภาพแบบนั้น ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ได้อยู่ในนิสัยคนอย่างผมเลย แยกให้ออกว่าคนที่โตมาแบบผม ผมทำงานมาตั้งแต่อายุ 14 ปี เลิกเรียนแล้วก็ทำงาน แล้วอยู่ดีๆ ผมจะมาหาผู้หญิงที่มีเงินเพื่อเอาไว้แต่งงานด้วยหรอ ช่วยดูดีๆ ดูจากแฟนเก่าผมด้วยก็เป็นคนธรรมดาทั้งนั้น ผมไม่เคยดูตรงนั้นเลย ผมเลือกผู้หญิงจากที่นิสัยและจิตใจของเขาจริงๆ”
“เดียเขาไฮโซตรงไหน คนที่คิดอย่างนั้นมันเป็นคนที่ไม่รู้จักเราแล้วก็เอามาพูด พอลงเป็นข่าวมาคนก็อาจจะโฟกัสคู่เราในแบบนั้น แต่เราสองคนรู้กันดีอยู่แล้วครับว่าอะไรคืออะไร ซึ่งมันทำให้เราทั้งคู่รู้สึกน้อยใจบ้างในบางครั้งว่าทำไมถึงมามองเราแบบนี้ ก็เซ็งครับแต่ช่างแม่ง เรื่องพวกนี้ไม่มีผลต่อความสัมพันธ์เราหรอกครับ แค่มีผลต่อจิตใจนิดหน่อย”
ที่มา: manager.co.th